'อ้วยอันโอสถ' ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ กับก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3

'อ้วยอันโอสถ' ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ กับก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3

"อ้วยอันโอสถ" ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ กับก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3 สู่โรงงานผลิตยาสมุนไพรแถวหน้า ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ยกระดับสมุนไพรไทยสู่ระดับมาตรฐานสากล

สมุนไพรไทย เป็นของคู่เรือนคนไทยมาช้านาน เช่นเดียวกับ อ้วยอันโอสถ จากร้านขายยา 1 คูหา กลายเป็นบริษัทผลิตยามาตรฐานสูงสำหรับ ยาแผนโบราณ และได้รับความไว้วางใจให้จำหน่ายในร้านขายยากว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ จากผู้บุกเบิกรุ่นปู่สู่ทายาทรุ่นที่ 3 มุ่งติดปีกยาสมุนไพรแผนโบราณ พลิกโฉมยาแผนโบราณด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย 

ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ทายาทธุกิจรุ่นที่ 3 เล่าว่า คุณปู่เดินทางมาจากเมืองจีนที่กวางโจว เริ่มจากการเป็นลูกจ้างร้านขายยา เรียนรู้จนสามารถสอบเป็นแพทย์ และเภสัชกรแผนโบราณจนได้ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการโรคศิลป์ยาจีน เมื่อเก็บเงินได้ จึงเปิดร้านขายขนาด 1 คูหา บริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า จำหน่ายยาแผนปัจจุบัน และแผนโบราณมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 ตั้งชื่อว่า "อ้วยอันโอสถ" ในภาษาจีน แปลว่า สะอาด และปลอดภัย และนั่นกลายเป็นสิ่งที่พวกเขายึดมั่นในการทำธุรกิจตลอดมาจนทุกวันนี้ 

"คุณปู่เก่งเรื่องการรักษาด้วยวิธีแมะ จับชีพจร แล้วจ่ายยาลูกกลอนรักษาโรค สิ่งสำคัญท่านจะเอาใจใส่ลูกค้า ถ้ามีใครมาให้ช่วย หรือเด็กมีอาการชักมา ไม่ว่าจะดึกดื่นมืดค่ำแค่ไหน ท่านจะเปิดประตูรับเสมอ และหากยาสูตรไหนที่จ่ายไปแล้วได้ผลดี ก็จะนำไปจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นตำรับของตัวเอง"

\'อ้วยอันโอสถ\' ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ กับก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3

จากร้านขายยาเล็กๆ กลายเป็นโรงงานผลิตยาสมุนไพร 

เมื่อความต้องการสูงขึ้น ประกอบกับรัฐบาลสนับสนุนเรื่อง สมุนไพรไทย ตามบัญชียาหลักแห่งชาติ เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน จึงเป็นโอกาสที่จะขยับขยายกิจการ ด้วยความมุ่งมั่นของพ่อ ซึ่งเป็นทายาทรุ่น 2 เมื่อเข้ามาสานต่อก็ตัดสินใจก่อตั้ง บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ในปี 2529 ยกระดับจากอุตสาหกรรมยาในครัวเรือน มาเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน เปลี่ยนจากยาต้ม ยาลูกกลอนเม็ดดำๆ มาเป็นแคปซูลที่กินง่าย และยังคิดค้นยาน้ำสูตรต่างๆ ยาอมสมุนไพร ที่นิยมอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน 

ในอดีตหากเอ่ยชื่อ "อ้วยอันโอสถ" หลายคนอาจคุ้นหู แต่ไม่รู้ว่าขายอะไร แม้จะเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน สินค้าตอบโจทย์ตลาด ยอดขายก็ดีมาตลอด โดยไม่ต้องทำการตลาด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ อ้วยอันโอสถกลายเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าไม่รู้จัก แต่ซื้อสินค้าจากการแนะนำของร้านขายยา ส่วนใหญ่จำชื่อแบรนด์ไม่ได้ แถมยังติดภาพว่าเป็นแบรนด์ที่ดูเชย ดังนั้น ภารกิจสำคัญนี้จึงเป็นความท้าทายของผู้สืบทอดธุรกิจรุ่นต่อไป

"ผมเข้ามารับไม้ต่อธุรกิจ สิ่งที่พกติดตัวมาด้วยคือ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาหาร โดยคว้าปริญญาตรีและปริญญาโท ด้าน Food Science and Technology ที่ The Ohio State University, Columbus สหรัฐอเมริกา เริ่มทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายเทคนิคและฝ่ายต่างประเทศ ดูแลด้านการควบคุมคุณภาพ มาตรฐานโรงงาน คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการนำเข้าและส่งออกสินค้า ต่อมาเลื่อนตำแหน่งเป็น กรรมการผู้จัดการ ดูแลทุกด้านในฝ่ายผลิต ควบคุมคุณภาพ กฎหมาย การขึ้นทะเบียนยา และการคิดค้นสูตรยาใหม่ๆ" 

ชนรรค์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับภารกิจแรกคือ การพัฒนายาสมุนไพรให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคนี้ จับกลุ่มตลาดเฉพาะทางมากขึ้น วันนี้ อ้วยอันโอสภ ไม่ได้มีแค่ยาฟ้าทะลายโจรแก้หวัด หรือขมิ้นชันแก้ท้องอืด แต่มียาที่หลากหลาย ยาสมุนไพรสำหรับเด็ก ไปจนถึงครีมบำรุงผิวจากขมิ้น เมื่อกลับมาพัฒนาธุรกิจของครอบครัว ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ถูกพัฒนาขึ้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญเลยทีเดียว

อีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ถ้าเปรียบเทียบ "อ้วยอันโอสถ" เป็นคน ด้วยอายุของแบรนด์ก็ไม่ต่างกับผู้สูงวัย แต่หลังจากรีแบรนด์ครั้งใหญ่ และทำการตลาดออนไลน์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคโซเชียลฯ ได้มากยิ่งขึ้น

\'อ้วยอันโอสถ\' ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ กับก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3

นอกจากนั้น ยังมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีออโตเมชันเข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยา เพิ่มผลผลิต และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า รวมถึงพัฒนา "แบรนด์" ให้เข้าไปอยู่ในหัวใจคนยุคนี้ไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้เห็นผลิตภัณฑ์ยุคใหม่ ตั้งแต่ยาบำรุง และอาหารเสริม อย่างกลุ่มยาลดไข้สำหรับเด็ก (แบรนด์ Mr. HERB) ยาอมสมุนไพร ยาสามัญประจำบ้าน (แบรนด์ อ้วยอัน) และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม (แบรนด์ HERBAL ONE) ที่ดูทันสมัย พกพา สะดวก ทานง่าย

"จากนั้นยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีทางการบริการและการค้า เพื่อการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของสินค้า และมาตรฐานการผลิตของบริษัทให้กับลูกค้าได้รับรู้ โดยปรับปรุง เว็บไซต์ ouayun ให้ดูทันสมัยขึ้น นอกจากนี้มีแผนที่จะวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี Interactive Traditional Clinic โดยมีหมอมาตอบคำถามผู้บริโภคผ่านเว็บไซต์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถบอกอาการหรือโรคที่เป็นหรืออยากจะรักษา บรรเทาเพื่อให้หมอแนะนำยาสมุนไพรและจ่ายยาได้ถูกต้อง ถือเป็นช่องทางการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

\'อ้วยอันโอสถ\' ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ กับก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3
 
ตรวจสอบคุณภาพของสมุนไพรได้อย่างไร?

ชนรรค์ กล่าวต่อไปอีกว่า ประเทศไทยมีผู้ผลิตยาสมุนไพรกว่า 1,000 ราย แต่ที่ได้มาตรฐานเดียวกับเรามีเพียง 20 กว่าบริษัทเท่านั้น เราจึงเข้มงวดเรื่องวัตถุดิบ ที่มีมาตรฐาน โดยบริษัทฯ เรามี Contract กับเกษตรกร เช่น ขมิ้นชัน จะมาจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานการเกษตรแบบ GAP (Good Agricultural Practices) ที่สำคัญที่สุดคือ เรามีการสุ่มตรวจสารสำคัญ ซึ่งเป็นตัวสร้างสรรพคุณในสมุนไพรที่กล่าวอ้าง บริษัทฯ จึงลงทุนสูงมากเพื่อซื้อเครื่องวิเคราะห์สารสำคัญ เราให้ความสำคัญกับคุณภาพ ถ้าเราไม่ควบคุมวัตถุดิบ สารไม่ตรงกัน ต่อไปลูกค้าจะไม่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเรา

ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานมากว่า 76 ปี "อ้วยอันโอสถ" มุ่งมั่นที่จะผลิตยาจากสมุนไพรที่มีคุณภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย จึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบการเกษตรตามมาตรฐานคุณภาพ ที่มีการตรวจวิเคราะห์ยาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น High Performance Liquid Chromatography (HPLC) การตรวจสอบสาร Andrographolide ในฟ้าทะลายโจร และCurcumin รวมในขมิ้นชัน Sennoside B ในมะขามแขก เป็นต้น รวมไปถึงการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพในแต่ละสาขาการผลิต ที่มีความชำนาญงานเฉพาะด้าน โดยยึดหลักการในการผลิตที่รักษาคุณภาพมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐานผ่านระบบ GMP PIC/S (Good Manufacturing Practice Pharmaceutical Inspection Cooperation Scheme) ซึ่งเป็นระบบประกันคุณภาพ ที่มีการปฏิบัติและพิสูจน์แล้วจากนักวิชาการด้านอาหารและยาทั่วโลก และเป็นมาตรฐานสูงสุดของหมวดสมุนไพร ผู้บริโภคจึงเชื่อมั่นได้ถึงความสะอาดและปลอดภัยในผลิตภัณฑ์

\'อ้วยอันโอสถ\' ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ กับก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3
 
ธุรกิจครอบครัว ถือเป็นความท้าทาย เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ เป็นสิ่งที่ยาก แต่ด้วยประสบการณ์และความเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทายาทธุรกิจแบบเขาต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น 

"เราจะไม่เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร แม้จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย ก็ยังดูแลกันเปรียบเสมือนครอบครัว ผู้บริหารต้องทำงานกับทุกคนได้ เข้าถึงพนักงานได้ ช่วยลดช่องว่างในการทำงาน การสื่อสารก็จะดีขึ้น งานก็จะดีตามไปด้วย ผมมองว่า คนที่จะมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ต้องมีความเข้าใจในองค์กรอย่างถ่องจริง และเก็บรักษาคุณค่านี้ไว้ให้ได้ นั่นคือ หัวใจสำคัญในการบริหารธุรกิจครอบครัว"

Key Success สูตรความยั่งยืน 7 ทศวรรษ ของอ้วยอันโอสถ

คำสอนของรุ่นปู่ที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นคือ ยาสมุนไพรของอ้วยอันโอสถ จะต้องเป็นสมุนไพรที่มีคุณภาพ ราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ ถ้าจะขยายความสำเร็จของ "อ้วยอันโอสถ" คือ การพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งคุณภาพผลิตภัณฑ์และการผลิต และการหาโอกาสในตลาดทั้งนำเข้าและส่งออก สู้ตลาดโลกด้วย สมุนไพรไทย และนวัตกรรม รักษาสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และรักษาคุณค่าองค์กรไว้ให้ได้ ที่สำคัญคือ ต้องรับมือและปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที

ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า การจะทำธุรกิจให้เติบโตได้ ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อพาธุรกิจก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ต้องเรียนรู้และพัฒนาธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไป สิ่งเดียวที่ "อ้วยอันโอสถ" ยังคงมุ่งมั่นและยืดถือไม่เคยเปลี่ยนคือ การผลิตยาสมุนไพรที่สะอาดและปลอดภัย เหมือนดั่งชื่อ "อ้วยอันโอสถ" ที่ยืนหยัดยาวนานกว่า 76 ปี 

ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆ รวมไปถึงบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะช่วยให้ข้อคิด แนวคิด และเคล็ดลับในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ที่ เว็บไซต์ หรือรู้จัก บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ อ้วยอันโอสถ