คัมภีร์รวย! จากเอสเอ็มอี Hooray ทำเงินในเซเว่นอีเลฟเว่น สร้างยอดขาย 600 ล้าน

ฝ่าด่านหินของร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น มาได้สำเร็จกับ “แบรนด์ Hooray! (ฮูเร่!)" กับโจทย์แรกของสินค้าทุกกลุ่มที่จะเข้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น มาได้ ต้องมีระบบการผลิตในโรงงานที่มีมาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่อย่างสุดเข้มในทุกขั้นตอน เพื่อผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานตรงปกทุกอย่าง และหากโรงงาน สินค้าผลิตตอบโจทย์แล้ว อีกด่านคือ การนำสินค้าไปวางจำหน่ายในชั้นร้าน จะต้องทำให้แบรนด์ติดตลาดและสร้างยอดขายได้ดีต่อเนื่องหลายเดือน ไม่เช่นนั้นสินค้าอาจถูกออกจากชั้นวางไว้ได้

อีกความท้าทาย การเป็นแบรนด์ใหม่ จะทำอย่างไร ที่จะสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจและเชื่อมั่น พร้อมเลือกซื้อสินค้า ท่ามกลางแบรนด์รายใหญ่ในตลาดที่อยู่มายาวนาน รวมถึงการบริหารต้นทุนให้แข่งขันได้ ในตลาดเครื่องดื่มที่มีความรุนแรงไม่แพ้ตลาดอื่นๆ 

แต่แบรนด์ Hooray! (ฮูเร่!) เริ่มต้นจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เจน-ชัชณี พฤกษ์ศลานันท์ และ วงษ์เดช เอี่ยวสานุรักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บริษัท ครอสแม็กซ์ รีเทล จำกัด เครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ Hooray! (ฮูเร่!) ผลิตภัณฑ์นมโปรตีนสูงพร้อมดื่มเจ้าแรกของประเทศที่ปราศจากน้ำตาลแลคโตส สามารถฝ่าฝันทุกด่านไปได้สำเร็จ ยึดหัวหาดแบรนด์ชั้นนำนมโปรตีนสูง พร้อมสร้างยอดขายเติบโตสูงถึงระดับหลายร้อยล้านบาทแล้ว

ย้อนที่มาของแบรนด์ ผู้บริหารยืนยันว่า คำว่า “โอกาส” เป็นการร่วมพลิกแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ โดยแบรนด์ Hooray! เริ่มต้นช่วงปี 2558 จากความต้องการเข้ามาแก้ปัญหาของเครื่องดื่มเวย์โปรตีน ทั้งเรื่องรสชาติ และความไม่สะดวกในการดื่ม จึงได้ศึกษาข้อมูลประมาณหนึ่งปีและทำวิจัย จึงได้ผลิตภัณฑ์แรกคือ Hooray! Better Shake ก่อนขยายไปสู่เครื่องดื่มไลน์อื่นๆ พร้อมมีการทำตลาดผ่านออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงเข้าร่วมงาน Thaifex

 

อีกทั้งได้มีโอกาสได้พบกับทีมบริหารผลิตภัณฑ์และจัดซื้อของ เซเว่น อีเลฟเว่น ในช่วงปี 2560 นำไปสู่การพัฒนาสินค้าร่วมกัน โดยต้องสร้างรสชาติอร่อย สร้างผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน พร้อมกำหนดราคาที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า จนนำไปสู่ Hooray! Protein Shake สินค้ายอดนิยมในปัจจุบัน

แต่ได้เข้าไปทำตลาดในเซเว่น อีเลฟเว่น นั้น ต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ใช่หนึ่งปีหรือสองปี โดยในปี 2564 ได้นำสินค้าไปทำตลาดในร้าน ทำให้ธุรกิจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากที่มีรายได้อยู่ที่หลักสิบล้านบาทต่อปี ขยับไปกว่า 100 ล้านบาทต่อปี โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 สร้างรายได้รวมกว่า 450 ล้านบาทแล้ว

อีกสิ่งสำคัญที่บริษัทมุ่งมั่นมาตลอดกับการสร้างนวัตกรรมให้แก่เครื่องดื่ม เรียกว่าเป็นเอสเอ็มอีที่ใช้การวิจัยนำหน้า เพื่อสร้างความแตกต่าง เพราะการแข่งขันกับรายใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยได้ศึกษาอินไซด์ของตลาด พบข้อมูลที่น่าสนใจอย่างมาก คนไทยกว่า 98% มีโอกาสแพ้น้ำตาล Lactose ในนม ส่งผลทั้งอาการหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แน่นท้อง ท้องอืด ปวดท้อง ผายลมบ่อย คลื่นไส้ ท้องเสีย ไปจนถึงเกิดสิว จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ Hooray! Protein Shake Lactose Free ถือเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่สร้างสรรค์นมโปรตีนสูงปราศจากน้ำตาล Lactose พร้อมต่อยอดไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ โปรตีนที่ได้จากพืชกับ Hooray! Complete Plant Protein 

นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม มีความแตกต่าง อีกองค์ประกอบสำคัญคือ เอนเนอร์จี้ขององค์กร ที่ผสมผสานไปด้วย คนรุ่นใหม่ โดยมีพนักงาน ประมาณ 50-60 คน มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 35 ปี จึงเป็นองค์กรที่พร้อมเปิดรับไอเดียใหม่ๆ และการแสดงศักยภาพในการทำงานอย่างสูงสุด ร่วมขับเคลื่อนองค์กรเติบโตไปด้วยกัน

ผู้บริหารได้วางเป้าหมายของแบรนด์ในระยะยาว ไม่ได้อยู่แค่ในตลาดไทย ได้วางหลักชัยครั้งใหม่ กับการนำแบรนด์ไปสู่ Protein of Asia ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบัน Hooray! มีสร้างยอดขายเติบโตดีต่อเนื่อง ก้าวสู่การเป็นกลุ่มนมโปรตีนสูงที่มียอดขายสูงสุดในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งนี้ประเมินว่าในปี 2566 บริษัทจะสร้างรายได้รวมทุกช่องทางขายทั้งหมดอยู่ที่ 600 ล้านบาท

เป็นแบรนด์ไทยน้องใหม่ สามารถนำพาแบรนด์เครื่องดื่ม มีดีเอ็นเอด้วยคำว่า แตกต่าง นวัตกรรม พร้อมไม่หยุดนิ่งสร้างสรรค์สิ่งใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ต่อทุกโจทย์ที่ยาก นำพาแบรนด์เติบโต และเป็นผู้สร้าง Game changer ในตลาดเครื่องดื่มได้สำเร็จ