พิษน้ำท่วม ส่งผลให้ผักแพง เพราะขาดตลาด

น้ำท่วม ส่งผลให้ราคาผักแพง ปรับราคาสูงขึ้น เพราะผักบางชนิดขาดตลาด ขณะพ่อค้าคนกลางโอด ผลกระทบปริมาณผักมีน้อย ไม่สามารถจะทำการซื้อผักไปขายต่อได้ หากถูกนำไปจำหน่ายในตลาดสด จะมีราคาปรับตัวสูง 2-3 เท่าตัว

จากสถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตร ราว 5,000 ไร่ ต้องจมบาดาล นานราว 3 วัน

ส่งผลให้พืชผักที่เกษตรกรปลูก เอาไว้จำหน่ายในพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจนถึงขณะนี้ผักหลายอย่างกำลังขาดตลาด เช่นถั่วฝักยาว และ ผักชีลาว ทำให้มีราคาผักพุ่งสูง

ที่ตลาดผักเสียงอดิศร ซึ่งเป็นตลาดค้าผักที่ใหญ่สุดในภาคเหนือตอนล่าง บรรยากาศของการซื้อขายผัก ราคาส่ง วันนี้ค่อนข้างจะเงียบเหงา เนื่องจากผลผลิตที่เกษตรกรนำเข้ามาส่งขายมีปริมาณน้อยส่วนราคาค้าส่งก็ปรับตัวสูงขึ้น เช่น

ผักคื่นช่าย ตอนนี้ ราคาจำหน่ายก็ยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท

ผักชีฝอย หรือ ผักชีลาว เดิมจำหน่ายกิโลกรัมล่ะ 20-30 บาท ตอนนี้ราคากิโลกรัมล่ะ 110-120 บาท พ่อค้าต้องแย่งกันซื้อเพราะของขาดตลาด

ผักชี เดิมราคาจำหน่ายกิโลกรัมละ 90-100 บาท จากกิโลกรัมละ 80-90 บาท

พริกสด เดิมราคากิโลกรัมละ 30 บาท ตอนนี้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท

พิษน้ำท่วม ส่งผลให้ผักแพง เพราะขาดตลาด

ถั่วฝักยาว เดิมกิโลกรัมละ 10-20 บาท ตอนนี้ราคากิโลกรัมละ 40บาท

มะเขือขาว เดิมราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 8-10 บาท ตอนนี้ราคากิโลกรัมละ 25 บาท

ขณะที่อาชีพพ่อค้าวิ่งส่งผัก ต่างก็ได้รับผลกระทบเนื่องจากปริมาณผักมีน้อย ไม่สามารถ จะทำการซื้อผักไปขายต่อได้ โดยพ่อค้าคนกลางโอด ปกติ ราคาผักก็ผันผวน ขึ้นลงไม่แน่นอน บางวันว่ากันเป็นชั่วโมง แต่พอมาเจอ สถานการณ์น้ำท่วม

พิษน้ำท่วม ส่งผลให้ผักแพง เพราะขาดตลาด

ส่งผลให้ผักบางชนิดปรับตัวสูงขึ้นเป็นเท่าตัว แถมผักก็ยังมาขาดตลาด โดยผักสดเหล่านี้หากถูกนำไปจำหน่ายในตลาดสด ก็จะมีราคาปรับตัวสูงกว่านี้ 2-3 เท่าตัว กันเลยทีเดียว

สอบถามนายนิต อายุ 53 ปี พ่อค้าวิ่งผัก เผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วม ปรากฏว่าราคาผักปรับแพงขึ้น โดยตอนนี้ผักแพงขึ้นแทบทุกอย่าง เช่น

  • ผักคะน้า จาก 50-60 ก็ขึ้นราคา 150-180
  • ผักกวางตุ้ง ก็ขึ้น 120 ส่วนผักชี ตอนนี้ก็ราคา 70-80
  • ถั่วก็ 160-180 ต่อมัด มัดละ 5 กก.

ตอนนี้ได้รับผลกระทบกันไปหมด แทบไม่มีใครนำผักมาขาย

พิษน้ำท่วม ส่งผลให้ผักแพง เพราะขาดตลาด