AWC เปิด 10 โปรเจกต์ ‘ลานนาทีค’ ทุ่ม 3 หมื่นล้าน ปั้น ‘เชียงใหม่’ WOW กว่าเกียวโต
หลังจาก 'เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี' แห่งอาณาจักรเบียร์ช้าง ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มไทยเจริญคอร์เปอเรชั่น หรือ 'ทีซีซีกรุ๊ป' ใช้เวลาสะสมที่ดินใน 'เชียงใหม่' มานานกว่า 30 ปี! ด้วยหลักคิด 'เก็บนิดผสมน้อยเพื่อให้เป็นรูปธรรม'
เริ่มต้นด้วยการเข้าซื้อกิจการโรงแรมแม่ปิง ย่านไนต์บาซาร์ และเปลี่ยนมาใช้ชื่อโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง เชียงใหม่ เมื่อปี 2530 ซึ่งถือเป็นโรงแรมแห่งแรกในพอร์ตโฟลิโอของทีซีซีกรุ๊ป
“พอซื้อเสร็จ ก็ต้องมาคิดว่าถ้าลูกมาสานต่อธุรกิจ ที่ดินไม่ติดกันจะทำอย่างไร ก็เลยจำเป็นต้องเก็บนิดผสมน้อยเพื่อให้เป็นรูปธรรม วันหน้าทำอะไรขึ้นมาจะถึงจะสวย ซึ่งก็ใช้เวลากว่า 30 ปี”
นี่คือคำบอกเล่าตอนหนึ่งจากเจ้าสัวเจริญ บนเวทีงานเลี้ยงเปิดตัวโรงแรม “อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล” ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC อีกหนึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใต้ปีกทีซีซีกรุ๊ป หลังรีแบรนด์โรงแรมจากเดิมชื่อ อิมพีเรียล แม่ปิง เชียงใหม่ ทุ่มเงินลงทุนปรับปรุงและพัฒนารวมกว่า 5,000 ล้านบาท
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC อาณาจักรอสังหาฯ มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาทในปัจจุบัน เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส “ลานนาทีค” (LANNATIQUE) มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท บนที่ดินรวมกว่า 100 ไร่ ครอบคลุมเชื่อมโยงหลายพื้นที่เข้าด้วยกัน ตั้งแต่ถนนช้างคลาน ไนต์บาซาร์ ตลาดอนุสาร ไปจนถึงริมแม่น้ำปิง เพื่อสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว พัฒนาเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่แก่ จ.เชียงใหม่ ให้เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ สู่การเป็นเดสติเนชันชั้นนำระดับโลก!
“ตามแผนการลงทุนโครงการลานนาทีคใน จ.เชียงใหม่ คือการเชื่อมโยงการพัฒนาการลงทุนรวมกว่า 10 โครงการ คาดใช้เวลา 3 ปีในการพัฒนาโครงการต่างๆ ให้แล้วเสร็จ สามารถเชื่อมโยงที่ดินกว่า 100 ไร่ของ AWC ได้สำเร็จ”
สำหรับ 10 โครงการใน “ลานนาทีค” ประกอบด้วย
1. สุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ (Lifestyle Book Store & Community Retail)
2. SIEM PAKDEE (ดีไซน์ โฮเทล)
3. โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล ปรับโฉมจากเดิมชื่อโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง
4. เดอะ พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ ปรับโฉมจาก พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่
5. โรงแรมแมริออท เชียงใหม่ รีแบรนด์จากเดิมชื่อโรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่
6. บ้านโบราณ (Ancient House) เชียงใหม่ พัฒนาเป็น ลักชัวรี บูทีค โฮเทล
7. BAAN K SIRIN พัฒนาเป็นโรงแรมเพื่อสุขภาพ (Wellness Hotel)
8. โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่
9. โครงการ ลานนาทีค บาซาร์ มีพื้นที่ค้าปลีก มีร้านค้าของที่ระลึกแบบดั้งเดิมและลักชัวรี คลินิกความงาม และโรงแรมระดับอัปสเกล ใกล้ๆ กันเป็นโครงการ ลานนาทีค กาแล ตลาดแนวไลฟ์สไตล์
10. โครงการ ลานนาทีค มาร์เก็ต (ตลาดอนุสาร) พัฒนาเป็นตลาดแนวเอ็นเตอร์เทนเมนต์
วัลลภา เล่าเพิ่มเติมว่า เมื่อดูเฉพาะการลงทุน “โรงแรม” ในโครงการใหญ่ “ลานนาทีค” จะประกอบไปด้วยโรงแรม 4 แห่งที่เปิดให้บริการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา ได้แก่ “โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่” ที่เปิดให้บริการแล้ว เน้นลูกค้ากลุ่มมองหาโรงแรมแนวโมเดิร์น ไลฟ์สไตล์ ส่วน “โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่” ซื้อมาจากกลุ่มดุสิตธานี เน้นเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ “โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล” มุ่งเจาะลูกค้ากลุ่มลักชัวรี ไฮเอนด์ โดยเพิ่งเปิดให้บริการเฟสแรกสำหรับห้องพักและห้องสวีท 240 ห้อง ส่วนเฟส 2 จะพัฒนาเป็นห้องพักแบบพูลวิลลา และ คลับ อินเตอร์คอนติเนนตัล (Club Intercontinental) คาดใช้เวลาก่อสร้างอีก 2 ปี รวมแล้วใช้เงินลงทุนทั้ง 2 เฟสกว่า 5,000 ล้านบาท
“โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล ได้เผยโฉมใหม่ภายใต้แนวคิด Living Museum หรือโรงแรมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตแห่งแรกของประเทศไทย ที่ร่วมสืบสานวัฒนธรรมให้ยังคงอยู่ผ่านงานดีไซน์ ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและประเพณีอันรุ่งโรจน์ของมรดกทางวัฒนธรรมล้านนา และได้นำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) มาสร้างเนื้อหาเสมือนจริงเกี่ยวกับการออกแบบและตกแต่งโรงแรม เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถสัมผัสแก่นแท้ของความเป็นล้านนาได้อย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ของโรงแรม”
ส่วนโรงแรมอีกแห่งคือ “โรงแรมแมริออท เชียงใหม่” รีแบรนด์จากเดิม โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ โดยจะเปิดให้บริการวันที่ 1 พ.ย. 2566 เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรและไมซ์ (MICE: การประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า)
ด้านโครงการอสังหาฯ ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงคือ “พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่” จะยกระดับให้ทันสมัยมากขึ้นเป็น “เดอะ พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ” ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด EVERY HAPPINESS FOR EVERYONE มอบ ทุกเวลาสุขสนุกของทุกคน เสมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ของครอบครัว บนพื้นที่รวม 13,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเปิดในเดือน ธ.ค. 2566 มุ่งสร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ด้วย 3 ไฮไลต์หลัก ได้แก่ Attractions แลนด์มาร์กสำหรับกิจกรรมความสนุกหลากหลายเสมือนห้องนั่งเล่น รวมถึง Food Lounge แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภาคเหนือ และ Lifestyle Market แหล่งไลฟ์สไตล์สำหรับทุกคนพร้อมต้อนรับทุกการพบปะสังสรรค์ ดึงผู้คนมาใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน
นอกจากนี้ บริษัทจะทยอยลงทุน “Shopping & Retail Attraction” ในโครงการใหม่ๆ เช่น โครงการ “ลานนาทีค บาซาร์” “ลานนาทีค กาแล” และ “ลานนาทีค มาร์เก็ต” ซึ่งจะค่อยๆ พัฒนา เตรียมเปิดตัวทีละเฟส โดยมีทั้งหมู่บ้านศิลปะ (Art Village) พื้นที่สำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่ม พื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์ รวมความสวยงาม ความพิเศษ ศิลปวัฒนธรรม ศูนย์กลางกิจกรรมชุมชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับ “พันธมิตรระดับโลก” เข้ามาร่วมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) ระดับโลก!
“เราอยากสร้างเชียงใหม่ให้เป็นไลฟ์สไตล์ฮับ เป็นเดสติเนชันท่องเที่ยวระดับโลก ทำให้ย่านช้างคลานเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย หรือ Art Village ที่เห็นแล้วว้าวกว่าเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เพราะที่เกียวโตมีถนนศิลปวัฒนธรรม ร้านรวงต่างๆ สวยงามอยู่แล้ว แต่เขายังไม่มีโมเดล Living Museum ที่ AWC จะเข้าไปเชื่อมไปทั่วโครงการลานนาทีค เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก ให้เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น” วัลลภา ฉายภาพใหญ่เป็นการปิดท้าย
