'ผู้หญิง' ขับเคลื่อน 'เศรษฐกิจโลก' กำลังซื้อโตปีละ 6% ดันเทรนด์ SHEconomy

'ผู้หญิง' ขับเคลื่อน 'เศรษฐกิจโลก' กำลังซื้อโตปีละ 6% ดันเทรนด์ SHEconomy

ทุกวันนี้สัดส่วนประชากร “ผู้หญิง” มากกว่าผู้ชาย จึงไม่แปลกที่ผู้หญิงจะเป็นกลุ่มหลักในการผลักดัน “เศรษฐกิจโลก” มีกำลังซื้อเติบโตเฉลี่ยปีละ 6% หนุนเทรนด์ SHEconomy ให้พุ่งแรง

หลายคนคงพอทราบมาบ้างว่าประชากรโลก ณ ปัจจุบันนี้มีสัดส่วนของ "ผู้หญิง" มากกว่า "ผู้ชาย" ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงยังเป็นกลุ่มประชากรหลักของกำลังซื้อมหาศาลในระบบเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

ข้อมูลจาก The Economist Intelligence Unit องค์กรวิจัยในสหรัฐฯ คาดว่าในปี 2573 กำลังซื้อของผู้หญิงทั่วโลกจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปอยู่ที่ราวๆ 46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีตเมื่อปี 2557 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว ทำให้พบว่า กำลังซื้อของผู้หญิงเติบโตเฉลี่ยปีละ 6% จนเกิดเป็นเทรนด์ SHEconomy โดยเฉพาะในยุคนี้ก็ยิ่งมาแรงแซงทุกเทรนด์เศรษฐกิจ

สำหรับเทรนด์ SHEconomy ที่กำลังมาแรงนั้น มีปัจจัยหนุนมาจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ 
1. ตลาดผู้หญิงในกลุ่ม Millennials ที่มีกำลังซื้อสูงและกล้าใช้จ่าย 
2. บทบาทของผู้หญิงที่เด่นชัดขึ้นในตลาดแรงงาน ทำให้สร้างรายได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต 
3. ผู้หญิงมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจและกำหนดการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือน 

  • ผู้หญิงในสหรัฐ กำลังซื้อสูงแซงหน้าผู้ชาย เพราะรวยกว่า?!

ขณะที่ข้อมูลจาก Girl Power Marketing ก็มีรายงานในทิศทางเดียวกันว่า ผู้หญิงทั่วโลกมีการจับจ่ายมากถึง 31.8 ล้านล้านดอลลาร์ (อ้างอิง; Catalyst.org/research/buying power, 2020) หากเจาะลึกลงมาเฉพาะในสหรัฐอเมริกาก็พบว่า ประชากรผู้หญิงมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา และเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักในการจับจ่าย(มีกำลังซื้อ) สินค้าและบริการต่างๆ มากถึง 85% (อ้างอิง; Forbes 2019) 

โดยกำลังซื้อของผู้หญิงอเมริกันอยู่ที่ 5-15 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี (อ้างอิง; Nielsen Consumer, 2013) นอกจากนี้ ผู้หญิงชาวอเมริกันยังครอบครองความมั่งคั่งส่วนบุคคลมากกว่า 60% ในสหรัฐอเมริกา (อ้างอิง; Federal Reserve, MassMutual Financial Group, BusinessWeek, Gallup)

อีกทั้งพวกเธอมีกำลังซื้อสินค้า-ผลิตภัณฑ์ราคาสูง (ที่เมื่อก่อนจะมีแต่ผู้ชายที่ซื้อได้) เช่น รถยนต์, ผลิตภัณฑ์ปรับปรุงบ้าน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้มากขึ้นถึง 50% (อ้างอิง; Andrea เรียนรู้ “Don't Think Pink”) และปัจจุบันผู้หญิงทำงานในสหรัฐอเมริกาประมาณ 40% มีรายได้มากกว่าสามี (อ้างอิง; สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ)

\'ผู้หญิง\' ขับเคลื่อน \'เศรษฐกิจโลก\' กำลังซื้อโตปีละ 6% ดันเทรนด์ SHEconomy

  • ผู้หญิงไทยกำลังซื้อสูง จับจ่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพมากกว่าผู้ชาย 20%

ย้อนกลับมาดูในประเทศไทยกันบ้าง มีรายงานข้อมูลล่าสุดจาก “สำนักทะเบียนกลาง” เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรในไทยมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา โดยปี 2565 มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายราว 1.59 ล้านคน

ขณะเดียวกันก็มีผลสำรวจพบว่า “ผู้หญิง” มีการจับจ่ายด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ยืนยันด้วยข้อมูลจากโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีศูนย์ดูแล “สุขภาพผู้หญิงในแบบองค์รวม (Holistic Care)” ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา ผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลวิมุตมากกว่าผู้ชาย โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีสัดส่วนผู้ใช้บริการที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายสูงถึง 20% 

ในขณะที่ย้อนไปเมื่อปี 2565 ก็มีอัตราผู้หญิงเข้ามาใช้บริการมากกว่าผู้ชายอยู่ที่ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ผู้หญิงที่เข้ามารับบริการส่วนใหญ่ เน้นไปที่การ “ตรวจสุขภาพทั่วไป” เป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นการเข้ารับบริการกับ “ศูนย์สูตินรีเวช” เป็นอันดับ 2 และ “แผนกฉุกเฉิน” เป็นอันดับ 3 

นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า จากข้อมูลเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นว่า “ผู้หญิง” มีกำลังซื้อมหาศาล และเป็นกลุ่มที่พร้อมลงทุนกับการดูแลร่างกายและจิตใจของตนเองในทุกช่วงของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพผู้หญิงจะลงทุนมากกว่าผู้ชาย ยิ่งในกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่อย่าง เจน Y และ เจน Z ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

\'ผู้หญิง\' ขับเคลื่อน \'เศรษฐกิจโลก\' กำลังซื้อโตปีละ 6% ดันเทรนด์ SHEconomy

  • ผู้หญิงอยากแข็งแรงทั้งกาย-ใจ ต้องดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

ล่าสุด.. โรงพยาบาลวิมุตได้เปิดตัวแคมเปญ “The Power of Women” เพื่อตอบรับเทรนด์ SHEconomy ที่กำลังมาแรงทั่วโลก พร้อมเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนศักยภาพในตัวผู้หญิงทุกคนให้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มในทุกมิติ บนรากฐานของสุขภาพกายและใจที่สดใสแข็งแรง 

โดยที่นี่มีจุดเด่นคือ การนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาให้บริการ บวกกับมีทีมสูตินรีแพทย์และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสุขภาพผู้หญิงในสาขาอื่นๆ ที่มากด้วยประสบการณ์ เข้ามาช่วยดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้หญิงในแบบองค์รวม (Holistic Care) ทั้งร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ไปจนถึงวัยเกษียณ ทำให้ผู้หญิงทุกช่วงวัยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพอีกต่อไป

ทั้งนี้ โรงพยาบาลวิมุตคาดการณ์ว่าจะมียอดผู้ใช้บริการในกลุ่มผู้หญิงเพิ่มขึ้นอีก 30% หลังปล่อยแคมเปญดังกล่าว พร้อมเร่งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดและสังคมที่มีประชากรผู้หญิงมากขึ้น โดยเชื่อมั่นว่ามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการครบทุกสาขาสำหรับการดูแลผู้หญิงทุกกลุ่ม ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น คุณแม่มือใหม่ ไปจนถึงผู้สูงวัย เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพของผู้หญิงทุกไลฟ์สไตล์ให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ

\'ผู้หญิง\' ขับเคลื่อน \'เศรษฐกิจโลก\' กำลังซื้อโตปีละ 6% ดันเทรนด์ SHEconomy   นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต