สมรภูมิร้านสะดวกซื้อ-ซูเปอร์มาร์เก็ต รุกเปิดสาขา ขยายโมเดลใหม่ ใช้เทคนำ

สำรวจภาพรวมตลาดค้าปลีกในกลุ่มร้านสะดวกซื้อไทยในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 4 นี้ยังเป็นสมรภูมิที่ร้อนแรง โดยได้เห็นการปรับแผนของผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในทุกสถานการณ์ นำโดย เซเว่น อีเลฟเว่น ผู้นำตลาดร้านสะดวกซื้อ ยังเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง เพิ่มสินค้ากลุ่มใหม่

สำหรับค้าปลีกในกลุ่ม "ซูเปอร์มาร์เก็ต" แบรนด์หลักในตลาดอย่าง ท็อปส์ เร่งวางกลยุทธ์สินค้าและยุทธศาสตร์ทำเลให้เหมาะสมกับลูกค้า รวมถึงช่วงที่ผ่านมา ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง "ฟู้ดแลนด์" ได้คัมแบ็ค! ขยายสาขาใหม่ในรอบ 3 ปี จากการประเมินโอกาสและแนวโน้มกำลังซื้อ รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเป็นแรงหนุนสำคัญ โดยทั้ง 3 แบรนด์หลักต่างมีฐานตลาดและกลุ่มลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน

จิราวรรณ ทองตัน Head of Investors Relations บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวประเมินทิศทางธุรกิจค้าปลีกในครึ่งปีหลังยังได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีการคาดการณ์จะเข้ามาในประเทศไทยรวมตลอดปีนี้ที่ 25 ล้านคน นับเป็นผลดีต่อจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมถึงมีแรงบวกจากรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศ และมีแนวทางออกนโยบายใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้าน จึงเป็นผลดีต่อภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยทั้งหมด

แผนครึ่งปีหลังยังมุ่งขยายธุรกิจ ทั้งการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องให้ครอบคลุม 700 สาขา โดยในครึ่งปีแรก ได้เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 377 สาขา ส่งผลให้ครึ่งปีหลังจะเปิดเพิ่ม 323 สาขา แนวทางการขยายสาขาจะปรับให้แต่ละสาขามีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงปรับเพิ่มพื้นที่ให้มีที่จอดรถเพิ่มขึ้น และแบ่งพื้นที่สำหรับการขายสินค้าสำหรับ “ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการชุมชน” เข้ามาด้วย

 

เซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งเพิ่มกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม ดึงดูดลูกค้า
ขณะเดียวกันวางแผนกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น จึงมุ่งเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ทั้งกลุ่มเครื่องดื่มและอาหาร โดยเครื่องดื่ม ผ่านการมีออลคาเฟ่ อย่างในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเมนูใหม่ เครื่องดื่มนมอัญชัน ส่วนอาหาร จะมุ่งคอลแลปร่วมกับเชฟที่มีชื่อเสียง กลุ่มร้านอาหารชื่อดัง และขยายเมนูอาหารเกาหลี รวมถึงสินค้าเพื่อสุขภาพ ในหมวดหมู่สลัดและผลไม้ เพื่อสร้างความสนุกให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน และการเลือกซื้อสินค้า เกิดความแปลกใหม่ในร้านอย่างต่อเนื่อง

“ในช่วงที่ผ่านมา มีการนำเสนอสินค้าส้มที่เป็นแพค 10 ลูกหรือจำนวน 1 กิโลกรัม รวมถึงมีการขายแตงโมเป็นลูก ซึ่งพบว่า ลูกค้าต่างให้การตอบรับที่ดีมาก”

นอกจากการขยายธุรกิจในไทย บริษัทได้วางหมุดหมายขยายสาขาไปในประเทศเพื่อนบ้าน ได้วางแผนเปิดสาขาในกัมพูชาต่อเนื่อง ในปีนี้จะเปิดใหม่จำนวนกว่า 10 สาขา โดยบริษัทได้เข้าไปขยายสาขาในกัมพูชาตั้งแต่ช่วงปี 2564 รวมถึงมีการเปิดสาขาใน สปป. ลาว สาขาแรกอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา 

อีกทั้งอีกช่องทางการให้บริการผ่านเดลิเวอรี่ มีการขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยสร้างยอดขายคิดเป็น สัดส่วน 10% ของยอดขายรวมทั้งบริษัท และทำให้ยอดการซื้อต่อบิล สูงขึ้นถึงระดับ 83-84 บาทต่อบิล

ภาพรวมทั้งปีบริษัทจึงมีความมั่นใจ จะสร้างยอดขายขยายตัวได้ดีทั้งในสาขาเดิม ที่มีโอกาสเติบโตมากกว่า จีดีพีของประเทศ โดยครึ่งปีแรก สาขาเดิมมีการขยายตัว 8% แล้ว มากกว่า จีดีพีของประเทศ ที่ประเมินว่าจะขยายตัว 3-4% ในปีนี้ และมาจากการเติบโตของสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการ

ท็อปส์ ชูเทคโนโลยีปรับขยายสาขาตามจุดยุทธศาสตร์ 

“จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล” รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด, ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ประกาศแผนการขยายสาขาใหม่ของ ท็อปส์ มุ่งปรับให้สอดคล้องกับตลาด และเปิดสาขาให้เหมาะสมกับทำเลยุทธศาสตร์และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยในปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็น กลุ่ม first jobber ไปจนถึงคนทำงาน อายุ 50-60 ปี

อีกทั้งได้วางแนวทางการการเปิด-ปิด ในแต่ละสาขาให้เหมาะสมกับทำเลและตลาด เช่น มีสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ต้องสอดคล้องกับลูกค้าในย่านดังกล่าว อีกสิ่งสำคัญเน้นนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารจัดการและวางแผนเปิดสาขาให้เหมาะสมกับลูกค้า เพื่อได้ข้อมูลอินไซด์ ในการร่วมสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในธุรกิจฟู้ดรีเทล

ในปัจจุบัน ท็อปส์ มีสาขาเปิดให้บริการใกล้เคียง 700 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น หลากหลายโมเดลธุรกิจ ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ จำนวน 137 สาขา ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 16 สาขา และ ท็อปส์ สาขาขนาดเล็ก 534 สาขา ท็อปส์ เดลี่ 24 สาขา โดยวางรูปแบบที่เป็นร้านสะดวกซื้อ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ที่มีจำนวน 2 สาขา เน้นสินค้านำเข้าพรีเมียมจากทั่วโลก และ ท็อปส์ คลับ 1 สาขา มุ่งนำนำเข้าสินค้าเอ็กซ์คลูชีฟจากทั่วโลก และลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าต้องเป็นสมาชิก

“กลยุทธ์ที่บริษัทมุ่งดำเนินการจะใช้แนวทาง การยึดลูกค้า (Customers) และชุมชน (Communities) เป็นศูนย์กลาง (Customer centric) เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้สอดรับกับตลาดมากที่สุด ผสมผสานด้วยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างไม่หยุดนิ่ง”

หากประเมินภาพรวม กำลังซื้อในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้มีทิศทางดีต่อเนื่อง โดยจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เป็นไฮซีซั่น ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวมีความคึกคักยิ่งขึ้น ประกอบกับมีฐบาลชุดใหม่เข้ามาร่วมบริหารประเทศ พร้อมมีแผนออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวในประเทศ จึงมีผลต่อกำลังซื้อและบรรยากาศโดยรวม

ฟู้ดแลนด์ ชูคุณภาพสินค้า พร้อมขยายโมเดลใหม่

อีกแบรนด์หลักในตลาดอย่าง “ฟู้ดแลนด์” แบรนด์แรกซูเปอร์มาร์เก็ตในไทย ในช่วงที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาใหม่ 2 สาขา นับตั้งแต่เดือน ก.ค. เปิดสาขาที่ พาร์คสีลม และเดือน ส.ค. โครงการ Icon56 บนถนนสายไหม เน้นทำเลในเมืองและปริมณฑล

“อธิพล ตีระสงกรานต์” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด ให้ความเห็นกับตลาดรวมซูเปอร์มาร์เก็ตในไทยในปี 2566 ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่รุนแรงและดุเดือด แต่ได้กลับมาเปิดสาขาใหม่เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศที่คลี่คลายไป

บริษัทมีจุดแข็งทั้งด้านคุณภาพของสินค้า การมีสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ และการให้บริการ ซึ่งพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสินค้า จึงให้ข้อมูลอินไซด์แก่ลูกค้าได้อย่างชัดเจน การมีร้านถูกและดีเป็นแม่เหล็กช่วยดึงลูกค้า ส่วนฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางและบน

ที่น่าจับตา ฟู้ดแลนด์ กับการขยายโมเดลธุรกิจใหม่สู่ ร้านสะดวกซื้อ (คอนวีเนียนสโตร์) ในชื่อฟู้ดแลนด์ โกรเซอรองท์ (Foodland Grocerant เน้นทำเลทองคอนโดมิเนียม พร้อมผนึกกำลังกับ พาร์ทเนอร์อสังหาริมทรัพย์อย่าง เอสซี แอสเสท ในการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อในโครงการคอนโดมิเนียมสองสาขาเบื้องต้นก่อน ซึ่งการขยายธุรกิจใหม่มาจากการมองเห็นโอกาสเติบโตในระยะยาว สำหรับแผนขยายสาขาของ ฟู้ดแลนด์ ในปีต่อไป จะเปิดสาขาใหม่ อีก 2 สาขา วางเป้าอีก 10 ปีมี 50 สาขา จากในปัจจุบันมีสาขารวม 24 สาขา

ภาพรวมตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของค้าปลีกในกลุ่มร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ยังเป็นตลาดที่ยังมีการขยายตัว โดยทุกบริษัทต่างมุ่งกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าและกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลก! พร้อมมุ่งรักษาแชมป์ผู้นำในตลาดในระยะยาว