'เศรษฐา' นำทีมต้อนรับ 'จีนเที่ยวไทย' 25 ก.ย. ฉลอง 'วีซ่าฟรี' กระตุ้นไฮซีซัน

รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ มีกำหนดร่วมงานต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 25 ก.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันแรกของการดำเนินมาตรการยกเว้นการขอวีซ่า (วีซ่า-ฟรี) เป็นการชั่วคราวแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ให้สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถพำนักในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30 วัน เป็นกรณีพิเศษ ระยะดำเนินมาตรการ 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 – 29 ก.พ. 2567

ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่นายกฯ และคณะให้การต้อนรับ จะเดินทางจากประเทศจีนด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบิน XJ 761 เส้นทาง เซี่ยงไฮ้ - กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) จำนวน 377 ที่นั่ง

สำหรับการต้อนรับที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ทางคณะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนจาก 3 เที่ยวบินของ 3 สายการบิน ได้แก่

1.สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 583 เส้นทาง คุนหมิง - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)

2.สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน SL 935 เส้นทาง ฉางซา - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)

3.สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD 3111 เส้นทาง หนานหนิง - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)

รายงานข่าวจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 17 ก.ย. 2566 มีจำนวนสะสม 19,000,988 คน เพิ่มขึ้น 271% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

อันดับ 1 มาเลเซีย 3,076,274 คน

อันดับ 2 จีน 2,341,080 คน

อันดับ 3 เกาหลีใต้ 1,125,639 คน

อันดับ 4 อินเดีย 1,097,395 คน

อันดับ 5 รัสเซีย 961,348 คน

โดยสร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมกว่า 795,114 ล้านบาท ทำให้เมื่อรวมรายได้การท่องเที่ยวจากทั้งตลาดชาวไทยและต่างชาติอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท

หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 11-17 ก.ย. ภาพรวมมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 470,708 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 16,503 คน หรือคิดเป็น 3.63% โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้ามากที่สุด 27.97% จากวันหยุดช่วงซิลเวอร์วีค (Silver week) ด้านนักท่องเที่ยวมาเลเซียและจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.56% และ 6.02% ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวอินเดียและเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลง 6.39% และ 3% ตามลำดับ

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวฯ คาดการณ์ด้วยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัปดาห์ถัดไป ตั้งแต่วันที่ 18-24 ก.ย. 2566 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากการมีวันหยุดต่อเนื่องในตลาดหลัก เช่น มาเลเซีย และญี่ปุ่น โดยคาดว่าตลอดสัปดาห์ถัดไปจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 490,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวจากระยะใกล้เป็นหลัก ได้แก่ ตลาดเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และอาเซียน

ทั้งนี้ สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยจะเริ่มมีสัญญาณการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากการประกาศยกเว้นการขอวีซ่าเป็นการชั่วคราวให้แก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ประกอบกับเป็นช่วงวันหยุดซิลเวอร์วีคในตลาดญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ยังพบข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศจากหลายตลาด เช่น จำนวนเที่ยวบินไม่เพียงพอ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินที่ไม่เป็นไปตามคาด ทำให้บัตรโดยสารเข้ามาประเทศไทยยังมีราคาที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง

ก่อนหน้านี้ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการประเมินแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566 คาดว่าจะมีจำนวน 28-29 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายของ ททท. ซึ่งตั้งไว้อย่างน้อย 25 ล้านคน

“ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ปรับเพิ่มเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2567 เป็น 40 ล้านคน จากเป้าเดิมที่ ททท.ตั้งไว้อย่างน้อย 35 ล้านคน มองว่าเป้าหมายดังกล่าวเป็นไปได้ เพราะทั้งนายกฯ เศรษฐา รวมถึงทุกกระทรวงพร้อมสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ททท.จึงพร้อมพุ่งเป้าการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย 40 ล้านคน”