ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ 'Content Lab' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล

ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ 'Content Lab' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล

ปตท. ร่วมสร้างปรากฏการณ์ Soft Power ไทย ผนึกกำลังสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ดันโครงการ "Content Lab" พร้อมเดินหน้าเปิดรุ่น 2 มุ่งยกระดับคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดสากล

เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี สำหรับโครงการ Content Lab  สร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย ดันไกลสู่สากล ที่ทาง บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA ร่วมมือกันเพื่อยกระดับทักษะการใช้เทคโนโลยีให้กับนักผลิตคอนเทนต์ทั้งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน 2566 และเตรียมเดินหน้าเปิดรุ่น 2 เสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่ป้อนอุตสาหกรรมคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง 

ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ \'Content Lab\' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล

นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) หรือ ปตท. กล่าวว่า โครงการ Content Lab สร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย ดันไกลสู่สากล ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA มุ่งยกระดับทักษะให้นักผลิตคอนเทนต์ไทยใน 2 กลุ่มคือ กลุ่ม Film & Series และกลุ่ม Digital Content ซึ่งทาง ปตท. ได้เข้ามาสนับสนุนในฐานะพันธมิตรหลัก และเป็นแกนหลักในกลุ่ม Digital Content สอดรับกับการดำเนินงานของปตท. ที่พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนศักยภาพเยาวชนไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งสนับสนุนการผลิตผลงานคุณภาพ ยกระดับขีดความสามารถและการแข่งขันของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่มาตรฐานสากล เพื่อนําประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Creative Hub ของภูมิภาคอาเซียน 

ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ \'Content Lab\' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล

"ปตท. เปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ได้ใช้เทคโนโลยีสร้างสรรค์ผลงาน ผ่านการอบรมและ Workshop เข้มข้น อาทิ Virtual Production, AR/XR, AR location base, CG และ 3D Model จากผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าในสาขาต่างๆ ของเมืองไทย พร้อมสัมผัสประสบการณ์การทำงาน ใน XR Studio ชั้นนำของประเทศ เช่น Supreme Studio และ L&E Virtual Studio ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้พัฒนาความรู้ ประสบการณ์ นำไปต่อยอดเพื่อทำธุรกิจได้จริง รวมถึงเป็นโอกาสในการมองหานักลงทุนต่อไปในอนาคต" นายเชิดชัย กล่าว

ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA ในฐานะผู้จัดโครงการ Content Lab สร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย ดันไกลสู่สากล และแกนหลักในกลุ่ม Film & Series กล่าวว่า โครงการนี้นับเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมคอนเทนต์ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น และร่วมขับเคลื่อน "เศรษฐกิจสร้างสรรค์" ให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมคอนเทนต์ทั้งสาขาภาพยนตร์และซีรีส์ 

"โครงการนี้เป็นแพลตฟอร์มผลักดันอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยให้ขายได้ ยกระดับให้ก้าวสู่ตลาดสากล จากพลังของการสร้างสรรค์ผ่าน Soft Power พร้อมขยายผลสู่ตลาดต่างประเทศ อาทิ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ รวมทั้งการต่อยอดกิจกรรม Business Matching ไปสู่ International Content Market เพื่อผลิตออกสู่ตลาดสากลโดยเริ่มจากตลาดอาเซียน และประเทศสำคัญในตลาดเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เป็นต้น" ดร.ชาคริต กล่าว

ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ \'Content Lab\' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล
 

ดร.ชาคริต กล่าวถึงแผนการจัดโครงการ Content Lab ในครั้งต่อไปว่า ทาง CEA จะนำข้อเสนอแนะจากการจัดในปีนี้ มาพัฒนาหลักสูตรการบ่มเพาะให้เข้ากับความต้องการของอุตสาหกรรมคอนเทนต์มากขึ้น และขยายหลักสูตรที่ลงลึกในแต่ละสาขา เช่น Script Writing การเพิ่มเติมหลักสูตรสำหรับกลุ่มแอนิเมชัน นอกจากจากนั้นยังมีเป้าหมายขยายพื้นที่จัดโครงการไปยังต่างจังหวัด รวมทั้งพัฒนาด้านเทคโนโลยี ด้วยการเชื่อมต่อโปรแกรมการอบรมผ่าน Virtual Media Lab ที่จะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2566 นี้ ณ ชั้น 4 TCDC กรุงเทพฯ

สำหรับผู้ผ่านคอร์สอบรมเข้มข้นจนผ่านเข้ารอบสุดท้าย มีจำนวน 19 ทีม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 

  1. กลุ่มภาพยนตร์และซีรีส์ (Film & Series) จำนวน 13 ทีม ที่ได้มีโอกาสร่วม Business Matching กับสตูดิโอ ค่ายหนัง ผู้ผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ รวมถึงสตรีมมิงแพลตฟอร์มชั้นนำในระดับประเทศและต่างประเทศกว่า 26 ค่าย อาทิ WeTV, Netflix, Amazon Studios, iQIYI (Thailand), บริษัท จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด, GMMTV, บริษัท เนรมิตรหนังฟิล์ม จํากัด, บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด, บริษัท GDH 559 จํากัด, บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จํากัด, บริษัท บีอีซีสตูดิโอ จํากัด, Workpoint, Thai PBS, GroupM Motion Entertainment และ The Monk Studios เป็นต้น
  2. กลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) นำเสนอภายใต้โจทย์ "Meaningful Travel ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์" โดยมีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 6 ทีม ซึ่งแต่ละทีมได้นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการในสาขาต่างๆ โดยทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ LocalXplorer - แอปพลิเคชันสำหรับการท่องเที่ยว เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับชุมชน รางวัลรองชนะเลิศ เงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ Sermtat | Thai VR Boxing Game - เกมออกกำลังกายศิลปะแม่ไม้มวยไทยในโลกเสมือนจริง ด้วยเทคโนโลยี Virtual Reality และ Thailand Culture Guide แอปพลิเคชันเพื่อนคู่ใจสำหรับนักท่องเที่ยวสายมู 

ผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Content Lab และเว็บไซต์ CEA

ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ \'Content Lab\' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ \'Content Lab\' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล ปตท. ผนึก CEA หนุนโครงการ \'Content Lab\' เดินหน้าเปิดรุ่น 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่สากล