เมื่อ Novo Nordisk เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของยุโรปเพราะยาลดน้ำหนัก

เมื่อ Novo Nordisk เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของยุโรปเพราะยาลดน้ำหนัก

ชื่อ Novo Nordisk อาจไม่คุ้นหูสำหรับคนจำนวนมาก ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอาจจะคุ้นในฐานะบริษัทที่ผลิตอินซูลินสำหรับผู้ที่ป่วยเบาหวาน แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Novo ได้สร้างปรากฏการณ์การก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีคุณค่ามากที่สุดของยุโรป แทนที่แชมป์เก่าอย่าง LVMH

สาเหตุนั้นมาจากเศรษฐกิจของจีนที่มีทิศทางที่ไม่สดใส ส่งผลให้ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจสินค้าหรูอย่าง LVMH (เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Louis Vitton และ Dior) มีแนวโน้มที่ไม่สดใสไปด้วย ขณะที่ Novo สามารถผงาดขึ้นมาได้ก็เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่ใช่อินซูลิน แต่เป็นสินค้าตัวใหม่คือยาลดน้ำหนัก

Novo Nordisk ก่อตั้งในปี 2466 เริ่มต้นผลิตอินซูลินสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และโด่งดังจากการคิดเข็มฉีดยาแบบพกพารูปร่างคล้ายปากกาที่ผู้ป่วยสามารถฉีดได้ด้วยตนเอง

ในปี 2560 Novo ออกยากลุ่มเซมากลูไทด์ (ชื่อสามัญ semaglutide) สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน และต่อมาเริ่มมีคนนำไปใช้เป็นยาลดน้ำหนักมากขึ้น

Novo จึงพัฒนายาขึ้นมาใหม่ขึ้นมาซึ่งมีส่วนประกอบเดียวกัน แต่ด้วยปริมาณที่แตกต่างกัน และเป็นยาที่มุ่งเป้าไปในเรื่องของการลดน้ำหนักโดยเฉพาะ มีรายงานจาก webmd.com ที่ระบุว่าคนไข้ที่ใช้ยาดังกล่าวสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 13.3% ภายในเวลาปีครึ่ง 

คุณสมบัติสำคัญของยาดังกล่าว จะไปจำลองฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่ออิ่ม ทำให้ผู้ที่ใช้ยาจะไม่รู้สึกหิวและรับประทานน้อยลง อีกทั้งภายหลังยังมีการศึกษาที่พบว่านอกจากช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังมีผลในเชิงบวกต่อเรื่องของหลอดเลือดและหัวใจด้วย

กลยุทธ์ของ Novo ในการรุกสู่ตลาดยาลดน้ำหนัก โดยเป็นผู้นำและรายแรกในการพัฒนายาลดน้ำหนักที่มีประสิทธิผลและได้รับการยอมรับ ดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์ที่ถูกทั้งเหตุการณ์และเวลา 

ในปัจจุบัน WHO คาดการณ์ว่าทั่วโลกมีคนที่เป็นโรคอ้วน (BMI เกิน 30) มากกว่า 1 พันล้านค้น และเป็นยุคที่คนใส่ใจกับเรื่องของน้ำหนักตัวและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันมากขึ้น

เมื่อ Novo Nordisk เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของยุโรปเพราะยาลดน้ำหนัก

คู่แข่งของ Novo ในตลาดนี้คือ Eli Lilly ซึ่งก็มียาลดน้ำหนักที่สรรพคุณคล้ายกัน เพียงแต่อยู่ระหว่างการอนุมัติจาก FDA เพื่อการลดน้ำหนัก ทำให้ในปัจจุบันยาลดน้ำหนักของ Novo สามารถครองความได้เปรียบในสมรภูมินี้ได้อย่างชั่วคราว และนำไปสู่ปัญหาสินค้ามีไม่เพียงพอกับความต้องการ

ยาลดน้ำหนักของ Novo ได้รับอนุมัติให้ขายในบางประเทศเท่านั้น และสัปดาห์ที่แล้วก็เพิ่งได้รับอนุมัติให้ขายได้ในอังกฤษแบบจำกัด โดยรัฐมนตรีด้านสาธารณสุขของอังกฤษ (Steve Barclay) ก็ได้โพสต์ลง X (Twitter) ว่า ยาตัวนี้จะสามารถที่จะเป็น game-changer ได้ 

ทำให้ความต้องการในตัวยาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ทาง Novo จะทำการเร่งเพิ่มกำลังการผลิต แต่บริษัทก็ระบุว่าจะไม่รีบร้อนขยายเร็วเกินไปจนส่งผลต่อคุณภาพ 

เมื่อ Novo Nordisk เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของยุโรปเพราะยาลดน้ำหนัก

CEO ของ Novo ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์กับทาง CNN ไปว่าทาง Novo เองคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่มีอยู่ได้ บริษัทคาดว่ากำไรในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 37% ซึ่งเมื่อต้นปีคาดการณ์ไว้อยู่ที่เพียง 19%

นอกจากผลเชิงบวกต่อบริษัทแล้ว เศรษฐกิจของเดนมาร์กก็ได้รับประโยชน์ด้วย การขายยารักษาเบาหวานและยาลดน้ำหนักของ Novo ทำให้มีเงินตราต่างประเทศเข้าสู่เดนมาร์กมากขึ้น ทำให้ค่าเงินโครนแข็งขึ้น จนธนาคารกลางของเดนมาร์กต้องประกาศให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตรากลางที่ทางธนาคารกลางยุโรปกำหนด 

มีบทวิเคราะห์ในสื่อของทางยุโรปที่ระบุว่าในช่วงครึ่งปีแรก GDP ของเดนมาร์กเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.7% โดยถ้าตัดอุตสาหกรรมยาออกไป GDP ของประเทศจะตกลง 0.3%

ความน่าสนใจคือ กลยุทธ์ของบริษัทยาที่ประสบความสำเร็จในการบุกตลาดที่กำลังมีการเติบโต โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่มีอย่างมากมาย ขณะเดียวกันก็คุมกำลังการผลิตไม่ให้มากเกินไปจนทำให้คุณภาพเสีย ทำให้ผลิตเท่าไรก็ขายได้ ประกอบกับยังไม่มีคู่แข่งที่มีสินค้าที่ดีในระดับเดียวกัน ทำให้เกิดภาวะ Temporary Competitive Advantage ขึ้นมา

ส่วนเรื่องของการใช้ยานั้น ขอให้ปรึกษาแพทย์ก่อนนะครับ.