'ซาบีน่า’ มุ่งสู่รีจินัลแบรนด์ ปี 67 เล็งแตกไลน์สินค้าใหม่ ชิงเค้กก้อนโต

'ซาบีน่า’ มุ่งสู่รีจินัลแบรนด์  ปี 67 เล็งแตกไลน์สินค้าใหม่ ชิงเค้กก้อนโต

ซาบีน่า ไม่จำกัดกรอบอยู่แค่ตลาดชุดชั้นใน ปี 67 เตรียมสร้างเซอร์ไพรส์ แตกไลน์สินค้าใหม่ มองโอกาสเสื้อผ้าชั้นนอก สินค้าอื่นๆ เสริมแกร่งการเติบโต เดินหน้าผลักดันแบรนด์ไทย ผงาดรีจินัล

นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ชุดชั้นในแบรนด์ซาบีน่ามีเป้าหมายจะผลักดันการเป็นแบรนด์สัญชาติไทยหรือโลคัล ให้ก้าวสู่ระดับภูมิภาค(รีจินัล)ในอนาคต ปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายหลายประเทศ รวมถึงการเปิดร้าน(สโตร์)ในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น เวียดนาม 19 สาขา กัมพูชา 6 สาขา ฟิลิปปินส์ 38 สาขา โดยสิ้นปีนี้คาดจะมีร้านจำหน่ายสินค้าแตะ 100 สาขา จากปัจจุบันมี 93 สาขา

ทั้งนี้ ตลาดฟิลิปินส์ เป็นอีกตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง จากจำนวนประชากร 114 ล้านราย หรือเกือบ 2 เท่าของจำนวนประชากรในประเทศไทย ที่สำคัญลักษณะประชากรศาสตร์อายุต่ำกว่า 40 ปี สัดส่วนมากถึง 70% เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญสำหรับชุดชั้นในด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีซื้อและควบรวมกิจการ(M&A) ที่ฟิลิปินส์เพื่อขยายธุรกิจด้วย

\'ซาบีน่า’ มุ่งสู่รีจินัลแบรนด์  ปี 67 เล็งแตกไลน์สินค้าใหม่ ชิงเค้กก้อนโต “วิสัยทัศน์ของเราต้องการขยายแบรนด์ซาบีน่าจากโลคัลสู่รีจินัล การเปิดร้านมีบางประเทศลดลงเมื่อผลงานไม่ดี แต่สิ้นปีนี้จะมีสโตร์แตะ 100 สาขา โดยฟิลิปินส์เป็นประเทศที่มีศักยภาพ โอกาสทำยอดขาย 3,000 ล้านบาท เหมือนในประเทศไทย มองว่าเป็นไปได้ เพราะครึ่งปียอดขายเติบโตสูงถึง 42% แต่สิ่งสำคัญบริษัทต้องวางรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง เพื่อรองรับตลาดบูมในอนาคต”

นอกจากการมุ่งสู่รีจินัลแบรนด์ ซาบีน่า ยังทลายข้อกำจัดการเติบโตแค่ชุดชั้นในเท่านั้น ปี 2567 จะสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการแลกไลน์สินค้ากลุ่มใหม่ๆมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้าชั้นนอกต่างๆ(Outerwear) เพราะหากประเมินขุมทรัพย์ตลาดมีขนาดใหญ่มาก อย่างประเทศไทยมีมูลค่าราว 70,916 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 72.21% ขณะที่ชุดชั้นในมีมูลค่า 25,069 ล้านบาท สัดส่วน 25.53% เท่านั้น

\'ซาบีน่า’ มุ่งสู่รีจินัลแบรนด์  ปี 67 เล็งแตกไลน์สินค้าใหม่ ชิงเค้กก้อนโต “การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เราวางแผนการผลิตระยะ 3-5 ปีค่อนข้างลำบาก เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่โร้ดแมปของซาบีน่าที่จะก้าวไปข้างหน้า คือการทำเรื่องเซ็กเมนต์ผลิตภัณฑ์ให้ชัดขึ้น ดูจากตลาดโลก ชุดชั้นในมีมูลค่า 88,000 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียแปซิฟิก 40% ตามจำนวนประชากร ส่วนไทยตลาดมีสัดส่วน 2% หรือมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท แต่เป็นเสื้อผ้าชั้นนอกที่มีขนาดใหญ่ ทำให้จากนี้ไปเราไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ชุดชั้นในเท่านั้น จะมีการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบลูกค้าเฉพาะบุคคลหรือเพอร์ซันนอลไลซ์มากขึ้น ซึ่งภาพความชัดเจนจะเห็นช่วงปีหน้า”

ด้านภาพรวมครึ่งปีแรก 2566 ซาบีน่าสร้างยอดขาย 1,731 ล้านบาท เติบโต 10.2% มีกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท เติบโต 9.1% ส่วนภาพรวมทั้งปีคาดการณ์จะทำยอดขายให้เติบโตตามเป้าในอัตรา 2 หลัก หรือ 10-15% จากแรงส่งกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัว จากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งผ่านไป 6 เดือนแรกจำนวนนักท่องเที่ยวเยือนไทยแล้ว 12 เท่าตัว เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

\'ซาบีน่า’ มุ่งสู่รีจินัลแบรนด์  ปี 67 เล็งแตกไลน์สินค้าใหม่ ชิงเค้กก้อนโต ปัจจุบันซาบีน่า มีร้านให้บริการลูกค้า 521 สาขา ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิดมีร้าน 585 สาขา โดยที่ผ่านมาร้านที่ทำยอดขาย หรือผลงานไม่ดี ทำให้ต้องปิดสาขาไป และมีการเปิดสาขาใหม่ทดแทนในทำเลที่มีศักยภาพ โอกาสสร้างยอดขายโต