กางรายได้ ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา สูงสุด ‘ร้อยล้าน’ ฟันกำไรเกือบทุกปี

กางรายได้ ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา สูงสุด ‘ร้อยล้าน’ ฟันกำไรเกือบทุกปี

เปิดรายได้ “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” แหล่งท่องเที่ยวริมน้ำ จำลองวิถีชีวิต-วัฒนธรรม 4 ภูมิภาคหลักของไทย เคยทำรายได้สูงสุดแตะ “ร้อยล้าน” กำไรสูงสุด “30 ล้านบาท” ก่อตั้งโดย “วะริดา แซอึ้ง-มนัส มีพงษ์” หวังขายความเป็นไทย-ส่งเสริมผู้ประกอบการรายเล็ก

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 รายงานข่าวระบุว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ความรุนแรงของเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ในระดับที่ 4 มีการประเมินเบื้องต้นว่า อาจมีมูลค่าความเสียหายราว 50 ล้านบาท เนื่องจากวัสดุใน “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” เต็มไปด้วยเชื้อเพลิงไวไฟ ส่วนใหญ่ทำจากไม้และหลังคามุงจาก ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมเพลิงไว้ได้แล้วเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ พบว่า ความเสียหายของอาคารไม้ในตลาดน้ำ 4 ภาคถูกเปลวเพลิงเผาไหม้แทบทั้งหมด

“กรุงเทพธุรกิจ” พาย้อนประวัติ “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” พร้อมเปิดรายได้ย้อนหลังพบว่า มีตัวเลขการเติบโตที่น่าสนใจแม้อยู่ในช่วงโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศระหว่างปี 2562-2564

  • ปักหมุดสร้างแลนด์มาร์ก ยึดหัวหาดตลาดน้ำ 4 ภาค “ใหญ่สุดในโลก”

“ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 โดย “วะริดา แซ่อึ้ง” ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร “บริษัท ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) จำกัด” โดย “วะริดา” เคยให้สัมภาษณ์กับ “ผู้จัดการออนไลน์” ถึงจุดเริ่มต้นการทำตลาดน้ำว่า เกิดจากมุมมองที่ต้องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจ.ชลบุรี เธอและสามีเคยเดินทางมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แถบอ.บางละมุง จากนั้นได้พบกับพื้นที่เวิ้งน้ำป่ากกขนาดใหญ่ เมื่อเห็นดังนั้นจึงเกิดแนวคิดสร้างมูลค่าพื้นที่เพิ่มด้วยการจัดทำแหล่งท่องเที่ยวที่มี “แหล่งน้ำ” เป็นตัวชูโรง 

“วะริดา” ทุ่มงบเปลี่ยนป่ากกให้เป็นตลาดน้ำ 4 ภาค แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจ.ชลบุรี ด้วยงบประมาณกว่า 350 ล้านบาท พื้นที่ 65 ไร่ และด้วยบรรยากาศตลาดน้ำตามขนบวัฒนธรรมไทยโครงสร้างและวัสดุทุกอย่างต้องเป็นไม้ทั้งหมด ภายในตลาดน้ำไม่ได้มีแค่ร้านอาหารแต่ยังประกอบไปด้วยจุดชมกิจกรรมย่อย พิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลัก ศูนย์รวมหัตถกรรมพื้นบ้าน เวทีแสดงศิลปวัฒนธรรม แปลงนาสาธิต โดย “วะริดา” ตั้งเป้าให้ “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ให้ต่างชาติได้เข้ามาทำความรู้จักมนต์เสน่ห์แบบไทยๆ ผ่านสายน้ำบนเนื้อที่กว่า 65 ไร่แห่งนี้

ความสำเร็จของ “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ได้รับการชื่นชมขนานนามจากต่างชาติตามปรารถนาของผู้ก่อตั้ง โดยตลาดน้ำแห่งนี้เคยได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวชาวจีนขึ้นแท่น “สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทย” คว้ารางวัล “2015 Best Tourists Attraction” ด้วยผลคะแนนโหวตกว่า 5.6 ล้านแอคเคานต์ แม้ในช่วงโควิด-19 “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ต้องเผชิญกับวิกฤติการระบาดใหญ่ นักท่องเที่ยวต่างชาติหดหายทำเอารายได้ลดฮวบลงจากหลักร้อยล้านเหลือหลักสิบล้าน และมีกำไรสุทธิที่หลักล้านบาท โดยในปี 2564 ผลประกอบการ “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ติดลบกว่า 7 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงต้นปี 2566 “วะริดา” ให้สัมภาษณ์กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ตลาดน้ำฟื้นตัวมาจากช่วงปิดประเทศเกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ผู้ประกอบการเข้ามาเช่าพื้นที่ร้านค้ากว่า 400 ร้านค้า มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอินเดีย, เวียดนาม, เกาหลีใต้, รัสเซีย และไต้หวัน เป็นต้น 

  • เปิดรายได้-กำไร “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” สูงสุดแตะร้อยล้าน กำไรเกือบทุกปี

จากการตรวจสอบข้อมูลผลประกอบการ “บริษัท ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) จำกัด” เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 บนเว็บไซต์ “Creden Data” พบว่า รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างดี แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดใหญ่แต่บริษัทก็สามารถประคับประคองให้ตัวเลขระหว่างปี 2562-2564 อยู่ในเกณฑ์ดี จากทั้งหมด 9 ปีย้อนหลัง มีเพียงปี 2564 ที่ขาดทุน เคยทำรายได้สูงสุดได้ 125,761,534 บาท กำไรสุทธิมากสุด 30,913,689 บาท ในปี 2562 เดียวกัน โดยมีรายละเอียดผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้

  • ปี 2560 รายได้รวม 102,676,264 บาท กำไรสุทธิ 22,325,940 บาท
  • ปี 2561 รายได้รวม 122,081,605 บาท กำไรสุทธิ 29,796,907 บาท
  • ปี 2562 รายได้รวม 131,306,089 บาท กำไรสุทธิ 30,913,689 บาท
  • ปี 2563 รายได้รวม 53,708,527 บาท กำไรสุทธิ 3,026,767 บาท
  • ปี 2564 รายได้รวม 19,429,156 บาท ขาดทุน -7,862,230 บาท
  • ปี 2565 รายได้รวม 26,304,559 บาท กำไรสุทธิ 1,167,704 บาท

อ้างอิง: Creden DataMGR Online 1MGR Online 2Nation TVPrachachat 1Prachachat 2