‘ไทวัสดุ’ ขยายคลังสินค้า-ลงทุนไอทีครั้งใหญ่ พลิกโฉมชอปปิงแบบไร้รอยต่อ

ไทวัสดุ ธุรกิจฮาร์ดไลน์ ในเครือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล โดยตามแผนขยายสาขาใหม่ในปี 2566 ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 8 สาขา ประกอบด้วย 1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิต คลอง 4 2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล 3. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต ฉลอง 4. ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร

5. ไทวัสดุ สาขาชัยนาท และ 6. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเมืองเอก 7. ไทวัสดุ สาขาเลย 8. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาสมุทรปราการ รวมถึงมีแผนเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศให้ครบ 80 สาขาภายในปีนี้

 

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า บริษัทมีคลังสินค้าอยู่ที่ วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป มีขนาดพื้นที่ 1.80 แสนตร.ม สามารถรองรับสินค้าหมุนเวียนมูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท เพื่อกระจายสินค้าไปยังไทวัสดุกว่า 74 สาขาและธุรกิจในเครือ ทั้ง บีเอ็นบี โฮม และโก! ว้าว เป็นต้น

ทั้งนี้ได้มีการลงทุนใหม่ในคลังวัสดุด้วยการนำเทคโนโลยี ระบบ AS/RS (Automated Storage/Retrieval System) หรือ ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายอัตโนมัติ ที่จะเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้สูงขึ้น ทั้งหมดจะร่วมส่งเสริมกลยุทธ์ออมนิแชนเนล ในการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อ ในทุกช่องทางทั้งหน้าร้านและออนไลน์

 

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนขยายคลังสินค้าแห่งที่ 2 สู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะใช้โมเดลเดียวกับคลังสินค้าวังน้อย เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าแก่ 15 สาขาในภูมิภาค ทั้งหมดจะรองรับทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า และร่วมสนับสนุนทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม การเชื่อมเส้นทางการค้า – การท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาคและชายแดนให้มีความสะดวกขึ้น พร้อมรองรับความต้องการภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการเติบโตดีต่อเนื่อง

 

นางปริยวดี ประจวบเหมาะ Head of Supply Chain and vFIX บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า การเปิดศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย จังหวัดอยุธยา เป็นศูนย์กลางในการสต๊อกสินค้า และจุดพักสินค้าจากพันธมิตรคู่ค้า เพื่อกระจายสินค้าไปยังไทวัสดุกว่า 73 สาขาและธุรกิจในเครือ ทั้งหมดรองรับความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์งานช่าง เฟอร์นิเจอร์ สินค้าของตกแต่งบ้าน ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้า ของกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ

อีกทั้งคลังสินค้ายังได้รับรอง ISO 45001 ในมาตรฐานด้านการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พร้อมมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกว่า 1,000 คน ภายในพื้นที่

 

นอกจากนี้ คลังสินค้าวังน้อย ถือเป็นคลังสินค้ารักษ์โลก โดยได้มีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ ขนาด 1 MWp ในระบบ On Grid จึงช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 483 ตันต่อปี และลดรายจ่ายค่าไฟฟ้าบางส่วนลง หรือคิดเป็น 30% จากเดิม อีกทั้งได้ตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าภายในคลังสินค้า รองรับรถบรรทุกพลังงานสะอาดหรือ EV Truck ซึ่งเริ่มดำเนินการกับรถออกส่งสินค้าไปยังไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม และ โก! ว้าว สาขาต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2565 ทั้งหมดสอดคล้องกับนโยบายค้าปลีกอย่างยั่งยืน