‘เซ็นทรัลเวิลด์’ โหมโรงปลุกไฮซีซัน ดึง ‘โกลบอลแบรนด์-อีเวนต์’ รุกนักช้อป

‘เซ็นทรัลเวิลด์’ โหมโรงปลุกไฮซีซัน ดึง ‘โกลบอลแบรนด์-อีเวนต์’ รุกนักช้อป

‘เซ็นทรัลพัฒนา’ เปิดแผน เซ็นทรัลเวิลด์ ครึ่งปีหลัง รุกจัดอีเว้นท์ใหญ่ เสริมทัพแบรด์ดังระดับโลก 10 แบรนด์ ร่วมเปิดสโตร์ ประเดิม 'นิโตริ' แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สินค้าตกแต่งบ้านจากญี่ปุ่นเปิดสาขาแรก ย้ำเซ็นทรัลเวิลด์ โกลบอล เดสทิเนชั่น ชี้ครึ่งปีหลังคึกคัก ตามนักท่องเที่ยว

เซ็นทรัลเวิลด์” ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ แลนด์มาร์กแห่งย่านราชประสงค์ ปักหมุดหมายสู่การเป็น “โกลบอล เดสติเนชั่น” ด้วยการดึงแบรนด์ดังทั่วโลกเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการเดินหน้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี หรือไฮซีซัน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นโอกาสการขายที่สำคัญ!

ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์​ “The Magnitude Of World-Class Phenomenon” รุกทำการตลาดเชิงรุกในครึ่งปีหลังนี้ด้วยการมุ่งจัดอีเวนต์ระดับโลก และดึงแบรนด์ระดับโกลบอลเปิดแฟลกชิปสโตร์ ตอกย้ำความเป็น The Real Global Landmark ของเซ็นทรัลเวิลด์สำหรับกลุ่มลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ในครึ่งปีหลังนี้จะมีแบรนด์ระดับโลกเตรียมเข้ามาเปิดให้บริการรวม 10 แบรนด์ จากภูมิภาคเอเชียและยุโรป ส่วนใหญ่เปิดแฟลกชิปสโตร์ในไทยครั้งแรก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า

“เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมดึงแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่อง สอดรับกลยุทธ์องค์กรที่ไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า ทั้งสะท้อนศักยภาพของพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ในการเป็น City of Center-City of Thailand  เป็นแม่เหล็กดึงดูดไลฟ์สไตล์แบรนด์ชื่อดังทั่วโลกให้เข้ามาเปิดบริการครั้งแรกในประเทศไทย”

‘เซ็นทรัลเวิลด์’ โหมโรงปลุกไฮซีซัน ดึง ‘โกลบอลแบรนด์-อีเวนต์’ รุกนักช้อป

ประเดิมแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน นิโตริ (Nitori) จากประเทศญี่ปุ่น เปิดแฟลกชิปสโตร์ พื้นที่ 2,500 ตร.ม. รับตลาดของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ในไทยที่กำลังขยายตัว และเดือน ธ.ค.นี้ นิโตริ จะเปิดสาขาที่ “เซ็นทรัล เวสต์เกต”

อีกกลยุทธ์ในครึ่งปีหลังเน้นจัด “อีเวนต์ขนาดใหญ่” รับกลุ่มลูกค้าทั่วโลกที่จะเดินทางมาเยือนไทย โดยจะมีการจัดงานเปิดตัวครั้งแรกในไทยของ “POP MART” ผู้นำด้านป๊อปคัลเจอร์จากจีน งานแสดงกันดั้ม “GUNDAM Docks at THAILAND” มีโชว์กันดั้มความสูงกว่า 6 เมตร งาน Thailand Coffee Hub เทศกาลดนตรี Melody of Life งาน YWCA ออกร้านของสถานทูตในไทย เทศกาลเปิดไฟต้นคริสต์มาส และ centralwOrld Bangkok Countdown ร่วมสร้างสีสัน บรรยากาศ กระตุ้นเศรษฐกิจ

หากสำรวจจุดแข็งของเซ็นทรัลเวิลด์ ในการเป็นจุดหมายปลายทางของแบรนด์ดังทั่วโลกนั้น ประกอบด้วย 3 แม่เหล็กสำคัญ “Location” ด้วยความเป็น Strategic location ใจกลางกรุงเทพฯ และราชประสงค์คือย่านการค้าและท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในไทย โดยปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าเดินทางเข้ามาในย่านราชประสงค์สูงถึง 6 แสนคนต่อวัน เป็นศูนย์กลางธุรกิจและเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก

“ทีม B2B Marketing ที่แข็งแกร่ง” พร้อมทำงานร่วมกันในโมเดล Tenant Centric และนำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจร ที่สนับสนุนการดำเนินงานของร้านค้า ทั้งการเพิ่มยอดขาย เพิ่มทราฟฟิก กระตุ้นการชอปปิง ด้วยเครื่องมือ CRM เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า จึงดึงดูดโกลบอลไลฟ์สไตล์แบรนด์ทั่วโลกอยากเข้ามาเปิดสาขาที่นี้

และ “การเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจ (Top of Mind) ของพาร์ทเนอร์ระดับโลก” ปัจจุบันมีกว่า 3,000 แบรนด์ เปิดบริการทั้งกลุ่มร้านอาหารดังกว่า 500 ร้าน

ปัจจุบันเซ็นทรัลเวิลด์มีลูกค้าใช้บริการแตะระดับ 1.5 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 120% จากปี 2562 และมียอดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนในช่วงที่มีอีเวนต์ใหญ่จะมีทราฟฟิกพุ่งถึงระดับ 1.8-2. แสนคนต่อวัน สัดส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการเป็น คนไทย 65% ต่างชาติ 35% นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการมากที่สุด คือ เอเชีย จากทั้ง จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และตะวันออกกลาง โดย 83% เป็นกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง (FIT)

‘เซ็นทรัลเวิลด์’ โหมโรงปลุกไฮซีซัน ดึง ‘โกลบอลแบรนด์-อีเวนต์’ รุกนักช้อป

‘นิโตริ’ชี้ไทยตลาดศักยภาพเล็งปูพรม 200-300 สาขา

ทาเคดะ มาซาโนริ กรรมการ ผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Merchandising และผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Sales Promotion รับผิดชอบส่วนธุรกิจขายต่างประเทศ บริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด กล่าวว่า การเลือกเปิดสาขา นิโตริ (Nitori) แฟลกชิปสโตร์ ครั้งแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวบรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของตกแต่งบ้าน จำนวนสินค้าประมาณ 5,000 เอสเคยู นำเสนอในรูปแบบเรียบง่ายในสไตล์มินิมอล

“การเลือกมาเปิดสาขาในไทยครั้งแรก เนื่องจากมองโอกาสในการขยายตลาดเฟอร์นิเจอร์ที่ประเทศไทย ที่เป็นตลาดมีศักยภาพขยายตัวดีต่อเนื่องและกำหนดราคาที่เทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่น พร้อมนำเสนอแนวคิดในการดำเนินธุรกิจคือ มอบเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก”

แผนการขยายสาขาในไทยช่วงปีแรกจะเปิดสาขารวม 4 แห่ง เน้นทำเลศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ปี 2567 เปิดสาขารวม 10 สาขา วางเป้าหมายระยะ 5 ปีข้างหน้าเปิดสาขาในไทยรวม 25 สาขา รวมถึงได้วางแผนในระยะยาว อยากเปิดสาขาในไทยให้ถึงระดับ 200-300 สาขา

การเปิดสาขาในไทยครั้งนี้ เป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน ต่อจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์  ปัจจุบันทั่วโลกมีสาขารวม 930 สาขา ที่จะมุ่งสู่ 3,000 สาขา สร้างยอดขาย 7.2 แสนล้านบาท ภายในปี 2575 

หลังจากนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่ในเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง และเกาหลีใต้เพิ่มเติม

การเข้ามาขยายธุรกิจรีเทลในไทยครั้งนี้ นิโตริ ได้จัดตั้ง บริษัทธุรกิจรีเทล ภายใต้ชื่อ บริษัท นิโตริ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 210 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายระยะยาวสู่ผู้นำตลาดในประเทศไทย