การไลฟ์ขายของในจีนจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

การไลฟ์ขายของในจีนจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

มาไลฟ์สดขายทุเรียนถึงในประเทศไทยจนทำยอดขายทะลุ 1.6 ล้านลูกภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่พ่อค้าออนไลน์จีนก็ไม่หยุดพัฒนา คราวนี้หันไปใช้กลยุทธ์ #ไลฟ์ขายของ ด้วยการดึงนักบาสเอ็นบีเอมาไลฟ์ขายไวน์ทาง Douyin จนทำให้ไวน์หมื่นขวดหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที

 

หลังจากที่ ‘ซิน โหย่วจือ’ หรือ ‘ซินปา’ หนุ่มจีนเจ้าของสมญาราชานักไลฟ์ สร้างความฮือฮาด้วยการมาปักหลักไลฟ์ขายทุเรียนกันถึงประเทศไทยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แล้วปิดการขายไปด้วยยอดสั่งซื้อทุเรียนสูงถึง 1.62 ล้านลูก

 

คิดเป็นน้ำหนักกว่า 4,800 ตัน ด้วยยอดรวมการขายเหยียบ 300 ล้านหยวน หรือ กว่า 1,450 ล้านบาท

 

ที่สำคัญ ยอดขายดังกล่าวยังไม่นับรวมสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมจากชาวจีนอีกหลายอย่าง เช่น มังคุด ที่มีรายงานว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าด้วยยอดสั่งซื้อถึง 1.26 ล้านออเดอร์ต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีข้าวหอมมะลิ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์จากยางพาราอีกหลายอย่าง

 

ซินปา ปิดจ็อบการไลฟ์ครั้งนั้นไปด้วยยอดขายกว่า 830 ล้านหยวน (กว่า 4,000 ล้านบาท) จากคำสั่งซื้อกว่า 6.78 ล้านออเดอร์

 

การไลฟ์ขายของในจีนจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

 

ความสำเร็จในระดับปรากฎการณ์ของซินปาส่งผลให้เกิดกระแสไลฟ์ขายทุเรียนตามมาในอีกหลายช่องทาง โดย ยะฮู ไฟแนนซ์ รายงานว่าในช่วงระหว่างวันที่ 5-18 มิถุนายนที่ผ่านมา การขายทุเรียนทาง Shopee Live ทำสถิติมีผู้เข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทำยอดขายไปได้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของยอดขายรวมในช่วงนี้ของ Shopee อีกด้วย

 

แต่นักไลฟ์ขายของในจีนไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ล่าสุดมีการไปดึงนักบาสเอ็นบีเอมาไลฟ์ขายไวน์จนยอดขายถล่มทลายถึง 10,000 ขวดภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที

 

การไลฟ์ขายของในจีนจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน

 

China Film Insider รายงานว่าการไลฟ์ขายของครั้งนี้เกิดขึ้นทาง Douyin เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย เจมส์ ฮาร์เดน ผู้เล่นตำแหน่งการ์ดจากทีม Philadelphia 76ers ไปร่วมไลฟ์กับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังชาวจีนที่ชื่อ Crazy Little Brother Yang เพื่อโปรโมทไวน์ยี่ห้อ J-Harden Wines ของเขา

 

ผลปรากฎว่าเจมส์ ถึงตะลึงเมื่อไวน์ที่มีอยู่หมื่นขวด โซลด์เอาท์ภายในเวลาไม่กี่วินาทีจนเจ้าตัวถึงกับตะโกนออกมาว่า “เป็นไปไม่ได้” แล้วรีบวิ่งเข้าไปดูหน้าจอเพื่อตรวจสอบตัวเลขให้ชัดเจนอีกครั้ง

 

ส่วนสาเหตุที่ เจมส์ ฮาร์เดน ตกใจขนาดนั้นก็เป็นเพราะปกติแล้วไวน์ของเขาจะขายได้แค่วันละไม่กี่ขวดเท่านั้น

 

ปฏิกิริยาดังกล่าวของเจมส์ ฮาร์เดน ได้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย พร้อมแฮชแท็ก #哈登震惊于中国卖货速度 ที่แปลว่า “ฮาร์เดนช็อกกับสปีดการขายสินค้าในจีน” ล่าสุดแฮชแท็กดังกล่าวมียอดวิวเกือบ 270 ล้านครั้งแล้ว เพราะชาวจีนพากันแซวว่าแชมป์แรกที่เจมส์ทำได้ในอาชีพนักบาสของเขาคือ sales champion (销冠)

 

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จถล่มทลายในการไลฟ์ขายของแบบที่กล่าวมามีปัจจัยเกื้อหนุนหลายอย่าง กรณีของ ซินปา นั้นนอกเหนือจากความชื่นชอบในผลิตภัณฑ์จากไทยของชาวจีนแล้ว ซินปายังขนลูกทีมมาหลายร้อยคนเพื่อเดินทางไปยังสวนทุเรียน สวนมังคุด และแหล่งผลิตสินค้าอื่น ๆ เพื่อรับประกันคุณภาพสินค้าที่จะส่งถึงมือผู้ซื้อว่าต้องเป็นของเกรดเอเท่านั้น

 

ส่วนกรณีของนักบาสเอ็นบีเอนั้น นอกจากความมีชื่อเสียง และความรักใคร่ชอบพอที่ชาวจีนมีให้กับเจมส์ ฮาร์เดน เจ้าของสมญา The Beard แล้ว (เขามีผู้ติดตามทาง Weibo อยู่ราว 2 ล้านคน) Jacob Cooke ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอบริษัท WPIC Marketing + Technologies ยังวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า

 

นักบาสดาวเด่นแบบเจมส์นั้นจะมีความแตกต่างจากเซเล็บโดยปกติทั่วไปตรงที่ฐานแฟนส่วนใหญ่ของพวกนักบาสจะเป็นผู้ชายที่ส่วนใหญ่อยู่ในวัย 25-34 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้โซเชียลมีเดีย อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ระดับสูง (high-tier cities) แล้วที่สำคัญเลยก็คือมีกำลังซื้อสูง 

 

จึงไม่แปลกที่ผลตอบรับจะออกมาถล่มทลายแบบนั้น