'บิ๊กซี รีเทล' ชะลอเข้าไอพีโอ ชี้ตลาดทุนผันผวน จับตาเศรษฐกิจโลก-พลังงาน

บิ๊กซี รีเทล เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการค้าปลีก การค้าส่ง การสั่งผลิต การนำเข้าและการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมมีโมเดลค้าปลีกที่หลากหลาย ทั้ง บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซี ดีโป้, บิ๊กซี มินิ, บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส ซึ่งมีสาขารวมประมาณ 1,741 สาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

ตามแผน บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใช้ชื่อย่อ BRC โดยเตรียมขายหุ้นไอพีโอจำนวน 3.77 พันล้านหุ้น มีเป้าหมายนำเงินไปขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ แต่ล่าสุดได้ประกาศแผนชะลอเข้าตลาดหุ้นออกไปก่อน 

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BRC” กล่าวว่า บริษัทได้ประกาศ ชะลอการดำเนินการตามแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO  และการนำหุ้นสามัญของ BRC เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกไปก่อน

สำหรับชะลอแผนในครั้งนี้ ได้พิจารณาจากสถานการณ์ตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความผันผวนจากสภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวม และติดตามปัจจัยจากวิกฤตราคาพลังงาน เป็นต้น  รวมถึงการพิจารณาร่วมกับที่ปรึกษา จึงพิจารณาชะลอการดำเนินการตามแผน IPO ในครั้งนี้ออกไป ด้วยการพิจารณาอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายโดยรวมเป็นหลัก

 

"ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจต่อแผน IPO เป็นอย่างดี"

สำหรับแผนระดมทุนในอนาคต บริษัทมีความมั่นใจในการเติบโตของธุรกิจที่กำลังฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดและจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามสภาวะของตลาดทุน และจะทบทวนแผน IPO ของ BRC อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์ภาพรวมตลาดทุนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น บริษัทมีแผนรายงานความคืบหน้าให้แก่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียต่อไป 

สำรวจไทม์ไลน์ของ บิ๊กซี รีเทล พบว่า ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2566 ได้แจ้งแผนการ IPO ต่อนักลงทุน และคณะกรรมการบริษัท BJC ได้อนุมัติแผน IPO และ BRC ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกและเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2566 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ภาพรวมผลประกอบการของ บิ๊กซี รีเทล ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมอยู่ที่ 113,573 ล้านบาท สร้างผลกำไรสุทธิ 6,757 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมประมาณ 336,833 ล้านบาท ส่วนฐานลูกค้าสมาชิก ผ่าน บัตรสมาชิกบิ๊กพอยต์ จำนวนกว่า 18 ล้านราย