เจาะกลยุทธ์ ‘ซิกตี้ ดีกรี’ น้องใหม่ ชิงตลาดน้ำแร่ 4,000 ล้านบาท
ภาพรวมตลาดน้ำแร่มีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ผู้เล่นหลักที่เห็นอาจมี 4 แบรนด์ ทว่า มีน้องใหม่เข้ามาชิงเค้กอีกราย พร้อมประกาศแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด 20% เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งท็อป 3 ให้ได้
ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดมีขนาดใหญ่หลายหมื่นล้านบาท ในนี้ยังมี “น้ำแร่” แทรกตัวอยู่ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
ภาพรวมตลาดน้ำแร่มีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ผู้เล่นหลักที่เห็นอาจมี 4 แบรนด์ ทว่า มีน้องใหม่เข้ามาชิงเค้กอีกราย พร้อมประกาศแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด 20% เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งท็อป 3 ให้ได้
รีน่า อุดมคุณธรรม ผู้ก่อตั้งบริษัท แร่เบฟเวอเรจ จำกัด ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรม และที่สำคัญมีอาณาจักรครอบครัวที่ขึ้นชื่อหลายโปรเจค เช่น โครงการสวอนเลค เขาใหญ่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่ สอร์ต เป็นต้น
ล่าสุด ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ในหมวดน้ำแร่ธรรมชาติ 100% พร้อมกับการทุ่มงบลงทุนก้อนโต 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตสินค้า บนเนื้อที่ 18 ไร่ ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
เดิมการสำรวจพื้นที่ เพื่อพัฒนาโรงแรมต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยว แต่การพบต้นกำเนิดจากแหล่งน้ำพุร้อนใต้ดินแห่งแรกของไทย ความลึกกว่า 200 เมตร และมีอุณหภูมิ 60 องศา ที่อำเภอเชียงดาว ซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลของไทย จึงเปลี่ยนแผนสู่การสร้างโรงงานน้ำแร่แทน
ที่ดินทั้งแปลงมีเนื้อที่ 300 ไร่ ถูกแบ่งเฟสมาสร้างโรงงานผลิตน้ำแร่ 8.5 แสนขวดต่อวัน จากเต็มที่สามารถผลิตได้กว่า 1 ล้านขวดต่อวัน พร้อมกันนี้ได้ปั้นแบรนด์ “ซิกตี้ ดีกรี”(6ty Degrees) ออกสู่ตลาด
- จุดเด่น “ซิกตี้ ดีกรี”
ตลาดน้ำแร่มีผู้เล่น 4 รายสำคัญ โดยเพอร์ร่า ครองความเป็นหนึ่งในตลาดด้วยส่วนแบ่งสูงสุด ตามด้วยมิเนเร่ มองต์เฟลอ และออร่า ตลาดนอกจากน้ำแร่ธรรมชาติ 100% ยังมีน้ำแร่ หรือน้ำดื่มที่เติมแร่ธาตุแบรนด์อื่นแทรกตัวแข่งขันด้วย (FYIตลาดน้ำแร่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มน้ำแร่ธรรมชาติ 100% กระบวนการผลิตไม่เติมแร่ธาตุใดๆ และน้ำแร่ที่มีการเติมแร่ธาตุภายหลัง การผลิตไม่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติ 100%)
ในฐานะผู้ท้าชิงใหม่ จุดเด่น “ซิกตี้ ดีกรี” คือการมีแต้มต่อของแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ 100% ซึ่งการสำรวจพบทำให้บริษัทส่งตัวอย่างน้ำแร่ไปตรวจสอบคุณภาพที่ 3 สถาบันรับรองแร่ธาตุ ได้แก่ SGS ประเทศออสเตรเลีย INTERTEK ประเทศอังกฤษ และ ALS ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนได้รับการการันตีคุณภาพ
เมื่อคุณภาพเป็นหัวใจสำคัญในการส่งมอบน้ำแร่ธรรมชาติแก่ผู้บริโภค มาถึงการทำตลาดและสร้างการรับรู้แบรนด์และผลิตภัณฑ์(Brand Awareness) ได้ทุ่มเงิน 100 ล้านบาท สื่อสารการตลาด พร้อมดึง “วรรณสิงห์ ประเสิรฐกุล” นักเดินทางชื่อดัง และ “มานิต อุดมคุณธรรม” บิดามาเป็นพรีเซ็นเตอร์”
- “มานิต อุดมคุณธรรม” พ่อผู้สวมบทพรีเซ็นเตอร์
นอกจากคนดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้น้ำแร่ซิกตี้ ดีกรี “รีน่า” ยังได้คุณพ่อ มานิต อุดมคุณธรรม มารับบทดังกล่าว เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ด้วย สาเหตุที่เลือกพ่อมาร่วมงานและทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ เพราะเป็น Passion อย่างแท้จริง
“ให้คุณพ่อมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะคิดว่าคุณพ่อถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี เนื่องจากสิ่งที่นำเสนอเป็น Passion ของคุณพ่อจริงๆ เป็นโปรเจคที่คุณพ่ออยากทำจริงๆ ตั้งแต่เห็นแหล่งน้ำแร่ น้ำแร่คุณภาพที่ควรจะทำเป็นสินค้าให้คนไทยได้บริโภคจริงๆ”
น้ำธรรมชาติยังเป็นโปรดักท์ตอบโจทย์ด้านสุขภาพของผู้บริโภคด้วย ซึ่ง “มานิต” ยังเป็นตัวจริงของคนรักสุขภาพ เพราะปัจจุบันยังปั่นจักรยาร้อยกิโลเมตรได้ในวัยกว่า 70 ปี ที่สำคัญ แม้เป็นนักธุรกิจดังอาณาจักรมั่งคั่ง ยังคงปั่นจักรยานไปทำงาน ประชุมต่างๆ ด้วย
ส่วนแบรนด์ “ซิกตี้ ดีกรี” ที่มาเกิดจากแหล่งน้ำแร่ที่ให้ความร้อน 60 องศา เพื่อย้ำดีเอ็นเอ จุดกำเนิดของสิ่งที่อยู่ในขวด
- ทุ่มทุนเนรมิตโรงงานสวย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ “ซิกตี้ ดีกรี” คือโรงงาน ที่นอกจากจะนำเทคโนโลยี เครื่องจักรทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต หุ่นยนต์ใช้ในโรงงานจนทำให้มีเพียง 5 คนควบคุมการผลิต เทียบกับการสร้างโรงงานในอดีตอาจใช้คนงานร่วม “ร้อยชีวิต”
โรงงานยังถูกออกแบบให้มีความสวยงานและกลมกลืนธรรมชาติที่สุด มีการนำต้นไม้ต่างมาอยู่ในพื้นที่
สอบถาม “รีน่า” จำเป็นขนาดนี้เลยหรือที่ต้องออกแบบ สร้างโรงงานให้สวย คำตอบคือ “แค่ค่าจ้างออกแบบก็..โอ้โห” ก่อนขยายความว่าการทำธุรกิจยุคนี้ต้องเป็น “ตัวอย่าง” ให้กับคนรุ่นใหม่
รีน่า อุดมคุณธรรม และมุมหนึ่งของโรงงานผลิตน้ำแร่ 6ty Degrees
“รีน่าชอบความสวยงาม แต่จริงๆเราอยากเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ เราเลือกออกแบบ สร้างโรงงานให้ประหยัดได้ แต่ยุคนี้ต้องมองการลงทุนหลายมิติ มิติแรก ทำอะไรให้กลมกลืนธรรมชาติ ทำให้สวยเหมือนโครงการสวอนเลค เพราะธรรมชาติมีส่วนสร้างสมดุลชีวิต”
3 ปีขอขึ้นท็อป 3 ผู้นำน้ำแร่ธรรมชาติ
สำหรับการทำตลาดน้ำแร่ในประเทศไทย เป้าหมายภายใน 3 ปี ต้องการมีส่วนแบ่งทางการตลาด 20% ขึ้นเป็นเบอร์ 3 ของตลาด โดยการเคลื่อนสู่เป้าดังกล่าว นอกจากขายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ จะมีโมเดล “สมาชิก”(Subcribtion) ตอบโจทย์ลูกค้า เพียงสั่งซื้อน้ำแร่ธรรมชาติ “ซิกตี้ ดีกรี” ขนาดใดก็ได้ขั้นต่ำ 5 แพ็ค พร้อมส่งถึงบ้านทันที
จะขยายช่องทางสู่ HoReCa หรือโรงแรม ร้านอาหารด้วย หนึ่งในนั้นจะป้อนโรงแรมของครอบครัวด้วย
นอกจากนี้ จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายความสัมพันธ์(Connection)ของพ่อ “มานิต” ด้วย ซึ่งขณะนี้มีประเทศสิงคโปร์ ซาอุดิอาระเบีย จีน และ อินเดีย ติดต่อมา ซึ่งรูปแบบสินค้าจะมีทั้งขวด PET และขวดแก้ว
“อีกไม่นานเราน่าจะได้เห็นแบรนด์ซิกตี้ ดีกรี วางจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นความภูมิใจของสินค้าสัญชาติไทยอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะไปสู่ตลาดโลก”