สินค้าแบรนด์หรูทุ่มหนัก ยึดสื่อโฆษณานอกบ้าน 'แพลน บี มีเดีย' โกย 200 ล้านบาท

สินค้าแบรนด์หรูทุ่มหนัก ยึดสื่อโฆษณานอกบ้าน 'แพลน บี มีเดีย' โกย 200 ล้านบาท

ไทยขึ้นชื่อเป็นประเทศที่ช้อปสินค้าหรูไม่แพ้ชาติใดในโลก เมื่อตลาดฟื้นตัว ทำให้บรรดาแบรนด์เนมตบเท้าใช้จ่ายเงินโฆษณาอย่างคึกคัก โดยเฉพาะยึดพื้นที่สื่อนอกบ้านในทำเลทองเพื่อโปรโมทคอลเล็กชั่นต่างๆ "แพลน บี มีเดีย" ตั้งเป้ารับทรัพย์อู้ฟู่ 200 ล้านบาท

 

 

ผ่านครึ่งทางของปี 2566 ชีพจรธุรกิจมีทั้ง “ขึ้น-ลง” ตามแต่ละเซ็กเตอร์ แม้หลายภาคส่วนมีความหวังจะเห็นการฟื้นตัว การค้าขายกลับมาเติบโตครั้ง แต่ “การเมือง” ดูจะเป็นความเปราะบางที่พร้อมจะฉุดทุกอย่างให้ดิ่งลง หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมสื่อโฆษณา หากทันทีมีความเสี่ยง บรรดาแบรนด์ เจ้าของสินค้าจะ “เบรก” ใช้จ่ายงบประมาณลงสื่อต่างๆทันทีไม่มากก็น้อย

ไตรมาส 2 อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาเงินสะพัด 29,514 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 2% แต่ครึ่งปีกลับ “ติดลบ” 0.2% ด้วยเม็ดเงินรวม 55,530 ล้านบาท ทว่า หมวดสื่อที่ยังโกยเงินขาขึ้น สร้างการเติบโต คือดิจิทัล และ “สื่อโฆษณานอกบ้าน”(Out Of Home :OOH)และสื่อเคลื่อนที่นั่นเอง โดยครองเม็ดเงิน 4,035 ล้านาท เพิ่มขึ้น 26% และครึ่งปีสะพัดถึง 7,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%

 

ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ของสื่อโฆษณานอกบ้าน ยกให้ “แพลน บี มีเดีย” ซึ่งสะท้อนมุมมองตลาด แบรนด์สินค้าที่ใช้จ่ายอย่างน่าสนใจ ซึ่ง ธนพร เตชวิวรรธน์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ และ รวิสรา อัศวเหล่าวรพงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด(มหาชน) ฉายภาพว่า สื่อโฆษณานอกบ้าน “ฟื้นตัว” แกร่ง ขานรับเศรษฐกิจ และ “การท่องเที่ยว” ที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านกันอย่างคึกคักอีกครั้ง

สินค้าแบรนด์หรูทุ่มหนัก ยึดสื่อโฆษณานอกบ้าน \'แพลน บี มีเดีย\' โกย 200 ล้านบาท สื่อโฆษณานอกบ้านในทำเลทองที่เติบโตอย่างโดดเด่น หนีไม่พ้นห้างค้าปลีก ซึ่งสินค้าแบรนด์เนมหรูหราหรือลักชัวรี ต่างเทเงินซื้อพื้นที่ป้ายโฆษณา เพื่อประกาศศักดาของแบรนด์ให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อแบรนด์เนมทุ่มทุนซื้อสื่อโฆษณานอกบ้าน “แพลน บี มีเดีย” จึงเดินเกมรุกยึดพื้นที่ฟาซาดของห้างค้าปลีกชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าสยามพารากอนมาพลิกเป็นป้ายโฆษณาดิจิทัล ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่หน้าห้าง บริเวณชั้น 2 และ 3 ของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม

นอกจากนี้ เดือนกันยายน จะเห็นการเปิดตัวสื่อโฆษณานอกบ้านในพื้นที่ “ดิ เอ็มดิสทริค” ทั้งหมดตั้งแต่ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์”

บรรดาสินค้าแบรนด์ลักชัวรี ใช้จ่ายมากแค่ไหน รายงานจากแพลน บี มีเดีย ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีระดับ 200 ล้านบาท แต่ผ่านครึ่งปีแรก ทำเงินแล้วถึง 150% ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของเป้าหมายทั้งปี

สินค้าแบรนด์หรูทุ่มหนัก ยึดสื่อโฆษณานอกบ้าน \'แพลน บี มีเดีย\' โกย 200 ล้านบาท

อีกจุดยุทธศาสตร์ที่ดักการมองเห็น เข้าถึง(Reach)ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวไทย-เทศด่านแรกยกให้ “สนามบิน” ซึ่ง แพลน บี มีเดีย ยังคงทุ่มเงินลงทุนเพื่อขยายพื้นที่(Capacity)รองรับความต้องการของลูกค้า โดย 4 จุดสำคัญ ทั้งเส้นทางเข้าออกสนามบิน, จุดเชื่อมต่อเครื่องบิน, จุดรับกระเป๋า และสื่อบนรถเข็นต่างๆ ภายในสนามบิน เพื่อให้ไม่พลาดทุก Journey ของเหล่านักเดินทาง

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยกว่า 12 ล้านราย การเติบโตยังมีต่อเนื่อง การบุกตลาดของแพลน บี มีเดีย จึงตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสื่อสารตลาดกับกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติได้อย่างดี

นอกจากมุ่งดึงเม็ดเงินโฆษณาจากลูกค้าให้เปย์เงินใช้สื่อนอกบ้านอย่างต่อเนื่อง แพลน บี มีเดีย ยังสร้างรายได้ใหม่ๆ จาก Eangagement Marketing เช่น การจัดรายการมวย RWS ซึ่งนับตั้งแต่คิกออฟรายการ “เรทติ้ง” เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการดึงแม่เหล็ก นักมวยดังจากต่างประเทศ เช่น โคตะ มิอูระ เรียกฐานแฟนผู้หญิงไปดูการแลกหมัดกัน และยังมีบิ๊กแมทระหว่าง “บัวขาว VS คิโดะ” ซึ่งการันตี “ต่อยจริง” ไม่แค่โชว์ เพราะการปะทะครั้งนี้จะมีการนับคะแนนสะสมให้ทั้งคู่

ศึกมวยดึงคนไทยไม่พอ แพลน บี มีเดีย ยังผนึก DAZN เพื่อนำไปเปิดตลาดถ่ายทอดให้แฟนๆใน 200 ประเทศทั่วโลกได้รับชมอีกด้วย และจะมีการปั้นโมเดลธุรกิจเพื่อหารายได้และแบ่งกันต่อไป เป็นต้น

สินค้าแบรนด์หรูทุ่มหนัก ยึดสื่อโฆษณานอกบ้าน \'แพลน บี มีเดีย\' โกย 200 ล้านบาท ไฮไลท์สร้างรายได้ครึ่งปีหลัง ยังเตรียมรับรู้การบริหารสิทธิ์ การทำตลาดจากมหกรรมกีฬาของชาวเอเชียอย่าง “เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19” ที่เมืองหางโจว ประเทศจีนอีกราว 200 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกรับรู้แล้ว 54 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมตั้งไว้ 30 ล้านบาท

ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกบ้าน เมื่อเดินเกมรุกหนัก ปี 2566 ยังวางงบลงทุน(CAPEX) 700-900 ล้านบาท ลดลงจากเดิมวางไว้ 800-1,000 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิต เปลี่ยนป้ายโฆษณานอกบ้านเป็นดิจิทัล เป็นต้น

จากแผนงานดังกล่าว บริษัทยังปรับประมาณการณ์รายได้ปี 2566 เพิ่มเป็น 7,700-8,000 ล้านบาท จากเดิมคือ 7,200-7,500 ล้านบาท