'Amazing Thailand' แบรนด์แกร่งท่องเที่ยวโลก 'คอลแลบส์' พันธมิตรดึงทัวริสต์
'กลยุทธ์ X' หรือที่เรียกกันติดปากว่า 'คอลแลบส์' เป็นกลยุทธ์การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ (Brand Collaboration) ทั้งพันธมิตรแบรนด์ร่วมอุตสาหกรรม และแบรนด์ต่างอุตสาหกรรม ได้รับความนิยมสูงมากโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
หลากหลายแบรนด์ต่างจับมือสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดร่วมกัน เติมสีสัน ความแปลกใหม่ และตอบโจทย์แบรนด์ในเชิงธุรกิจเพิ่มรายได้
สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก หนึ่งในแบรนด์ที่แข็งแกร่งคือ “Amazing Thailand” ของ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ซึ่งถือกำเนิดในฐานะแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศเมื่อปี 2541 หลังประเทศไทยเผชิญ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ซึ่งเป็นวิกฤติการเงินครั้งใหญ่เมื่อปี 2540 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสร้างความเสียหายต่อหลายภาคส่วน
แต่ในห้วงเวลานั้น... ประเทศไทยได้เม็ดเงินการท่องเที่ยวจาก “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เป็นรายได้หลักประคองเศรษฐกิจไทย กระทั่งผ่านพ้นวิกฤติได้สำเร็จ ก่อนจะเดินหน้าต่อยอดรายได้ทางการท่องเที่ยว จนสามารถยกระดับสัดส่วนเพิ่มเป็น 18% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในฐานะ “เครื่องยนต์หลัก” ของเศรษฐกิจไทย ด้วยรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในและต่างประเทศ 3 ล้านล้านบาทเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดมหาวิกฤติโควิด-19
ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เล่าว่า จากการที่ ททท. ใช้แคมเปญ “Amazing Thailand” (อะเมซิ่ง ไทยแลนด์) เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2541 หรือกว่า 25 ปีที่ผ่านมา ทำให้ “Amazing Thailand” กลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง! ททท.จึงวางแนวทางสื่อสารการตลาดให้ครอบคลุมพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่มีความเฉพาะมากขึ้น
ด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกผ่านแคมเปญ “Brand Collaboration: Amazing Thailand x 5F” โดยจะทำงานร่วมกับสินค้าต่างๆ และนำแบรนด์ Amazing Thailand ไปประทับลงบนสินค้า ถือเป็นการคอลแลบส์ร่วมกัน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเที่ยวไทยมากขึ้น
“ภาคการท่องเที่ยวของไทยในตอนนี้ถือว่ากลับมาเต็มรูปแบบแล้ว เป็นโอกาสที่ ททท.จะได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม หรือหน่วยงานใดก็ตาม ถ้าสนใจเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว สามารถหารือกับ ททท.ได้ เพราะการร่วมพลังกันจะช่วยสร้างประโยชน์มากมายให้กับประเทศไทย”
ฉัททันต์ เล่าเพิ่มเติมว่า ในช่วงหลังหลายธุรกิจมีเป้าหมายอยากได้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากขึ้น ดังนั้น แทนที่จะนั่งทำกันเอง ก็มาร่วมมือกับ ททท.ได้ เช่น ที่ผ่านมา ททท. เองก็เคยทำกิจกรรมเสริมด้านแฟชัน เวลานักท่องเที่ยวมาไทยก็ให้มาซื้อเสื้อผ้าของบางแบรนด์ใส่เที่ยว ส่วนในหมวดอาหาร ก็มีผู้ผลิตอาหารบางรายเริ่มมาคุยกับ ททท.ว่า เขาควรจะมีโปรโมชันอาหารบางตัวโดยใช้แบรนด์ Amazing Thailand เป็นตัวนำและมีโลโก้รวมกัน จะได้ทำโปรโมชันร่วมกันไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่ภาคเอกชนก็ได้ ทาง ททท.ก็ได้เช่นกัน
“การประกาศจับมือร่วมกันหรือมาคอลแลบส์ เป็นเรื่องที่ทำแล้วสนุกและได้ผลดีทั้งสองฝ่าย”
สำหรับแผนการคอลแลบส์ที่ ททท.วางไว้เบื้องต้น จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ของประเทศไทย “5F” ได้แก่ Food: อาหาร, Film: ภาพยนตร์และซีรีส์, Fashion: การออกแบบแฟชันไทย, Fight: ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ Festival: เทศกาลประเพณี
ประกอบด้วย 1.Amazing Thailand x Michelin Guide จัดทำคู่มือ Michelin Guide แนะนำร้านอาหารเด็ดในภาคอีสาน เพิ่มเติมจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภูเก็ต พังงา เชียงใหม่ และพระนครศรีอยุธยา 2.Amazing Thailand x Fashion ร่วมกับแบรนด์แฟชันชื่อดังจัดทำคอลเลกชันพิเศษ
3.Amazing Thailand x Film ร่วมกับสตรีมมิงแพลตฟอร์ม (Streaming Platform) ชั้นนำจัดทำ Original Film และเผยแพร่เนื้อหาเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยว รวมถึงจัดทำ Play list “Thailand Recommends” รวมภาพยนตร์และซีรีส์ที่นำเสนอประสบการณ์เที่ยวเมืองไทยที่น่าสนใจ
4.Amazing Thailand x Festival ร่วมกับ Music Organizer จัดงาน Music Festival ในประเทศไทย และสนับสนุนต่อยอดเทศกาลทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และ 5.Amazing Thailand x Fight ร่วมกับ Sport Media Platform ระดับโลก จัดอีเวนต์สร้างประสบการณ์การชมการแข่งขันชกมวยรูปแบบใหม่ในแหล่งท่องเที่ยว