‘อาฟเตอร์ ยู’ ลุยร้านกาแฟแบรนด์ใหม่ ‘Song Wat Coffee Roaster’

“ความฝัน” อยากทำร้านขนมหวานของ “เมย์ กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ” ทายาทธุรกิจแพ็คฟู้ด ผู้ผลิตและส่งออกอาหารแช่แข็ง เคยถูกพ่อเบรกการเปิดร้านตั้งแต่อายุ 17 ปี กระทั่งอายุ 25 ร้านแรกเกิดขึ้นด้วยทีมงานไม่กี่ชีวิต ปัจจุบันอาฟเตอร์ ยู มีร้านขนมหวานมากถึง 56 สาขา และเติบโตกลายเป็น "อาณาจักรพันล้านบาท”

“เมย์ กุลพัชร์” ติดทำเนียบเศรษฐีอายุน้อยพันล้าน และเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หากย้อนไปยุคริเริ่ม เธอเคยเล่าให้ กรุงเทพธุรกิจ ถึงฝันและเป้าหมายใหญ่ที่อยากนำ “อาฟเตอร์ ยู” เป็นร้านเครือข่ายขนมหวานระดับโลกหรือเชน มีสาขาให้บริการลูกค้ามากมาย

วันนี้ “อาฟเตอร์ ยู” ไม่ได้มีแค่ “ขนมหวาน” แต่ยังมีร้านกาแฟแบรนด์ “มิกก้า” ที่มุ่งสร้างการเติบโตผ่าน “แฟรนไชส์” เป็นกลยุทธ์ในการสปีดจำนวนสาขาให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย และยังมีร้านผลไม้ “ลูกก๊อ” เอาใจผู้บริโภครักสุขภาพด้วย ซึ่งจากสาขาแรก ปัจจุบันเปิดเพิ่มที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ และตึกยูนิคอร์น พญาไท รวมแล้ว 7 สาขา

ล่าสุด น้องใหม่ในพอร์ตโฟลิโอ คือร้านกาแฟแบรนด์ใหม่ “Song Wat Coffee Roaster” หรือ SCR ที่ยึดพื้นที่ย่าน “ทรงวาด” ในการเปิดร้าน โดยมี “พันธมิตร” ทั้งเจ้าของร้าน “โรงกลั่นเนื้อ” ร้านกาแฟ “PRIDI” และตัวของ “เมย์ กุลพัชร์”

สำหรับร้านกาแฟ Song Wat Coffee Roaster เปิดให้บริการแก่ลูกค้าเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วางจุดยืน(Positioning) เป็นร้านกาแฟพิเศษ และมีโรงงานคั่วเมล็ดกาแฟ และชูการขายกาแฟจากเมล็ดกาแฟที่คั่วเองมีคุณภาพสูง นับเป็นอีกก้าวของการทำธุรกิจที่เกิดจาก Passion หรือความลุ่มหลงในการกิน-ดื่มของอร่อย มาต่อยอดเสิร์ฟลูกค้า

ตามเแผน “อาฟเตอร์ ยู” ต้องการขยายร้านกาแฟ Song Wat Coffee Roasteท เพิ่มในอนาคต ส่วนเป็นที่ไหนต้องติดตาม

16 ปีของ “อาฟเตอร์ ยู” ยังเดินหน้าออกสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย โดยเมนูความอร่อย ล้วนมีที่มาและเรื่องเล่า(Storytelling) สร้างประสบการณ์คววามอร่อย เติมอรรถรสในการทานขนมหวานให้ลูกค้า อย่างไตรมาส 2 เมนูที่มีเอกลักษณ์อย่าง Songkhla Salty Green Mangoes นำผลิตภัณฑ์มะม่วงเบา ของขึ้นชื่อจากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีที่ทั้งน้ำมะม่วงเบาปั่นพริกเกลือ มะม่วงเบาคากิโกริพร้อมซอสสูตรพิเศษออกจำหน่าย มีเมนู Durian Sticky Rice Kakigori เป็นต้น

ผลงานปี 2566 ของอาฟเตอร์ ยู ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา สร้างรายได้จากการขาย 299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ 6 เดือนแรกปี 2566 สร้างรายได้จากการขาย 563 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

แผนงานครึ่งปีหลัง บริษัทยังเดินหน้าเปิดร้านเพิ่มขึ้น โดยแบรนด์ “อาฟเตอร์ ยู” จะเห็นอีก 5-7 สาขา เน้นทำเลทองที่เป็นศูนย์กลางนักท่องเที่ยว ย่านพักอาศัยที่มีกำลังซื้อ โดยที่ผ่านมาเปิดเพิ่มแล้ว 2 สาขา ที่ตึกยูนิคอร์น พญาไท และซัสโก้สแควร์ พุทธบูชา ส่วนแบรนด์ “ลูกก๊อ” จะเห็นเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา เน้นทำเลห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ จากมี 7 สาขา ร้านกาแฟ “มิกก้า” ยังเดินตามแผน ซึ่งตอนต้นปี บริษัทจะเปิดร้านเพิ่ม 4-5 สาขา(บริหารเอง) จากมี 8 สาขา ส่วนการขยายแฟรนไชส์จะผลักดันให้แตะ 150 สาขา จากปี 2565 มีแฟรนไชส์ 109 สาขา

การบุกต่างประเทศ จะเห็นอาฟเตอร์ ยู สาขาที่ 2 แม้สาขาแรกจะปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อหาทำเลใหม่ก็ตาม นอกจากนี้ จะเห็นการขยายธุรกิจโมเดล “แฟรนไชส์” ในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามหรือ CLMV เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้ในประเทศ และยังเป็นกลยุทธ์สร้างการเติบโตระยะยาวด้วย

สำหรับโครงสร้างรายได้ของอาฟเตอร์ ยู มาจากร้านขนมหวาน ร้านกาแฟ และร้านผลไม้ 88% การขายสินค้าและวัตถุดิบ เช่น วัตถุดิบป้อนแฟรนไชส์ร้านกาแฟ มิกก้า อาฟเตอร์ ยู ฮ่องกง สัดส่วน 6.7% การขายและการจัดงานนอกสถานที่ รวมถึง Pop-up Store 3.7% และค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 1.6%