'Big Bad Wolf Books' ปลุกโลกนักอ่านคนไทย จุดประกายสร้างสรรค์ไม่รู้จบ

นับถอยหลังอีก 3-4 วันเท่านั้น สำหรับงาน Big Bad Wolf Books เทศกาลหนังสือภาษาอังกฤษสุดยิ่งใหญ่ที่นไทยรู้จักกันอย่างดี ซึ่งหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้การจัดงานได้กลับมาสร้างความสุขและส่งต่อแรงบันดาลใจอีกครั้ง ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00-24.00 น.

งาน Big Bad Wolf Books ปี 2566 ยังเปลี่ยนสถานที่จัดมาอยู่ใจกลางกรุงที่ The Market Bangkok ราชประสงค์ เพื่อเอาใจนักอ่านให้เดินทางไปชมและเลือกซื้อหนังสือเล่มโปรดได้ง่ายขึ้น แน่นอน นอกจากหนังสือคุณภาพดีแล้ว กลยุทธ์ “ราคาย่อมเยา” ยังเป็นจุดเด่นที่จะตอบโจทย์หนอนหนังสือหรือนักอ่านชาวไทยเต็มที่เหมือนเดิม

สำหรับ Big Bad Wolf Books เป็นเทศกาลหนังสือภาษาอังกฤษสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก ก่อตั้งขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในปี พ.ศ. 2552 จากสองสามีภรรยา “แอนดรูว์ แย็บ" และ “แจ็คเกอลีน อึ๊ง” ที่หลงรักการอ่านหนังสือและเชื่อว่าหนังสือจะเป็นตัวจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้นักอ่านทุกช่วงวัยไล่ตามความฝันของตัวเอง ทำให้ทั้งคู่ปลุกปั้นเทศกาลหนังสือที่รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษจากทั่วโลกมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงหนังสือที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม

แม้จุดเริ่มต้นรักการอ่านแต่ “แจ็คเกอลีน” ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการ Big Bad Wolf Books ยังมีพันธกิจสำคัญคือการทำให้ผู้คนได้รับความรู้ ควบคู่การสร้างนิสัยการอ่านอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งกลยุทธ์ด้านราคาย่อมเยา เป็นหนึ่งในการมีส่วนกระตุ้นให้ทุกคน “กระหาย” ที่จะอ่านหนังสือได้ ไม่มากก็น้อย

“หนังสือ 1 เล่ม ถือว่ามีความจำเป็นสำหรับผู้คน เพราะไม่เพียงแค่เป็นแหล่งความรู้เท่านั้น แต่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตสู่การเติบโต สามารถจุดประกายความสร้างสรรค์ได้อย่างไม่รู้จบ”

ปี 2559 เป็นปีแรกที่ Big Bad Wolf Books เข้ามาบุกตลาดจัดงานในประเทศไทย และสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างท่วมท้น ขยายสังคมคนรักการอ่านให้ยิ่งใหญ่ขึ้น นอกจากหนังสือภาษาต่างประเทศ ปี 2566 งานยังมีบริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ไทย บุ๊ค ยูไนเต็ด เป็นพันธมิตร เปิดพื้นที่ให้สำนักพิมพ์ไทยเข้าร่วมเติมสีสันและนำหนังสือดีมีคุณภาพมาป้อนนักอ่านด้วย

สำรวจสถานการณ์อ่านหนังสือของไทย หลังโควิดเป็นอย่างไร ข้อมูลจากภายในงาน ระบุว่าช่วงโควิด-19 ระบาด งานหนังสือต่างๆ ต้องงดจัดเช่นหลายธุรกิจ ช่วงดังกล่าวยังพบหนอนหนังสือกลุ่มเด็กไทยอายุ 10-16 ปี ซึ่งเป็นนักอ่านวัยรุ่น ได้เบรกการซื้อหนังสือไปเช่นกัน เพราะไม่เพียงเจอโรคระบาด แต่ระบบการศึกษาที่บีบอัดให้เด็กเร่งสร้างผลการเรียน ทำผลงานเพื่อเตรียมเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมการศึกษา ทำให้การอ่านหนังสือนอกเวลาหายไป

หนังสือต่างประเทศมีบทบาทสำคัญต่อนักอ่าน แต่เทรนด์หรือหนังสือที่เป็นกระแสครองใจคนอ่านยุคนี้ยังคงเป็น หนังสือเด็ก นวนิยาย หนังสือ How To ต่างๆ ที่สำคัญคือ “นิยายวาย”(เรื่องราว ตัวละครที่มีเพศสภาพเดียวกัน เช่น ชายรักชาย) และถูกมองว่าเป็นผลงานที่นักเขียนเขียนเองจำหน่ายเองด้วย ถึงขั้นบางเล่มไม่มีเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ(ISBN)

ภาพรวมตลาดหนังสืออาจผ่านอยู่ในช่วง “ขาลง” มาสักระยะ จากการถูกดิสรัปชั่นโดยโลกดิจิทัล สื่อออนไลน์ ทว่า เมื่อเศรษฐกิจ สถานการณ์ในประเทศเริ่มฟื้นตัว ตลาดหนังสือเริ่มกลับมาคึกคักเช่นกัน

หากจะสร้างนิสัยรักการอ่าน คำแนะนำจากผู้จัดงาน ต้องมีการจุดไฟในตัวเองอีกครั้ง(rekindle) หยิบหนังสือมาอ่านเพียงวันละ 20 นาที ทำติดต่อกันกว่า 20 วัน จะมีทักษะรักการอ่าน สร้างสมาธิในการอ่านได้มากขึ้น

วันนี้คนไทยยังมีการ “บูลลี่” เกี่ยวกับการอ่านหนังสือของคนในชาติว่า “อ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัด” ประเด็นนี้ควรเลิกด้อยค่าได้แล้ว เพราะการอ่านหากนับรวมสื่ออื่นๆด้วย คนไทยอ่านหรือเสพสื่อเฉลี่ยเกินกว่า 2 ชั่วโมง(ชม.)ต่อคนต่อวัน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม งาน Big Bad Wolf Books นอกจากมีหนังสือภาษาอังกฤษจำนวนมาก อีกไฮไลท์ที่คนเข้าชมงานจะได้สัมผัสคือร้านอร่อยรูปแบบ “ฟู้ดทรัค” ซึ่งผู้จัดมีการนำมาสลับสับเปลี่ยน ให้ลิ้มลองกัน หากช้อปหนังสือจนดึกด้วย