‘ซีอาร์จี’ ลงทุนครึ่งปีหลัง ขยายร้านอาหาร ซื้อแบรนด์ปิ้งย่าง - ชาบู เสริมทัพ

‘ซีอาร์จี’ ลงทุนครึ่งปีหลัง ขยายร้านอาหาร ซื้อแบรนด์ปิ้งย่าง - ชาบู เสริมทัพ

'ซีอาร์จี' มีงบลงทุนครึ่งปีหลัง 600-700 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านอาหารให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในประเทศ ยิ่งกว่านั้นคือ การอาศัย "ทางลัด" ด้วยการซื้อ และควบรวมกิจการ ร้านปิ้งย่าง และชาบู มาเสริมพอร์ต ส่วนต่างประเทศ "เวียดนาม" เป็นฐานสำคัญจะเข้าไปบุก แต่ต้องหาโอกาสดีๆ

สัญญาณบวกธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวคือ ภาพที่ผู้ประกอบการเห็นพ้องกัน โดยสิ่งที่ยืนยันคือ พฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน กลับมาคึกคักเป็นปกติยิ่งขึ้น และนอกจากกำลังซื้อของคนไทย อีกด้านยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสริมทัพการบริโภค

เมื่อแนวโน้มธุรกิจอาหารเติบโต จึงเห็นเกมรุกของบิ๊กแบรนด์ หนึ่งในนั้นคือ “ซีอาร์จี” ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของไทย ในตลาดร้านอาหารมูลค่าราว 4 แสนล้านบาท

ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี (CRG) ให้มุมมองภาพใหญ่ว่าธุรกิจร้านอาหารยังคงขยายตัว โดยเครื่องยนต์สำคัญที่เคลื่อนการเติบโตในเวลานี้คือ การท่องเที่ยวที่มีความคึกคัก ส่วนผู้บริโภคชาวไทย ไม่ว่าเจอสถานการณ์ใด “อาหาร” ยังเป็นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต จึงต้องบริโภคอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยข้างต้น ยังสะท้อนโอกาสในการดำเนินธุรกิจกลับมา ทำให้ครึ่งปีหลัง บริษัทยังวางแผนเชิงรุกขยายร้านอาหารทั้งในและ “ต่างประเทศ” เพื่อสร้างการเติบโต

เบื้องต้นบริษัทยังมีงบประมาณไม่ต่ำกว่า 600-700 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านอาหาร เพิ่มจำนวนสาขาให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย โดยโฟกัสแบรนด์หลัก เช่น เคเอฟซี อานตี้ แอนส์ สลัดแฟคทอรี่ ชินคันเซ็น ซูชิ นักล่าหมูกระทะ โอโตยะ และส้มตำนัว ซึ่งบางแบรนด์ยังมีสาขาค่อนข้างน้อย หรือบางแบรนด์มีช่องว่างให้ขยายได้อีกมาก

ขณะที่พอร์ตโฟลิโอร้านอาหารของซีอาร์จี มีมากมายถึง 20 แบรนด์ และมีร้านอาหารให้บริการรวมไม่ต่ำกว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศ มีพนักงานนับ “หมื่นชีวิต” คอยให้บริการแก่ลูกค้า

“ครึ่งปีหลัง เราโฟกัสแบรนด์หลักในการขยายร้านอาหาร อย่างชินคันเซ็น ซูชิ นักล่าหมูกระทะ เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพ โอกาสขยายได้อีกมาก”

นอกจากขยายสาขาร้านอาหารเพิ่ม อีกกลยุทธ์เพื่อสร้าง “ทางลัด” ในการเติบโต และเสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอร้านอาหาร บริษัทยังเดินหน้า “ซื้อและควบรวมกิจการ” หรือ M&Aโดยให้น้ำหนักกับหมวดร้านอาหารปิ้งย่าง และชาบู เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัว

“งบลงทุนปีนี้ เรามีความยืดหยุ่น รองรับการซื้อกิจการในกลุ่มอาหารปิ้งย่างหรือยากินิกุ และชาบู ซึ่งกำลังมีการเจรจาอยู่ เนื่องจากมองว่ามีศักยภาพในการเติบโตมาก ตลาดมีการเปิดกันค่อนข้างมาก เพื่อจับกลุ่มครอบครัวที่เราอาจยังมีไม่มากนัก จากปัจจุบันเรามีกลุ่มอาหารไทย ร้านอาหารบริการด่วนหรือคิวเอสอาร์ ร้านอาหารญี่ปุ่น และร้านอาหารจีนเล็กน้อย เป็นต้น”

ด้านความคืบหน้าขยายการลงทุนร้านอาหารในประเทศเวียดนาม วาง 3 โมเดลเพื่อบุกตลาด ประกอบด้วย 1.การร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งที่ผ่านมาได้ผนึก ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ ตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อขยายร้านคาเฟ่ อเมซอน ที่เวียดนาม 2.การเปิดร้านใหม่ด้วยตัวเองหรือ Greenfield และ 3.นำแบรนด์ที่มีในพอร์ตโฟลิโอไปต่อยอดเปิดให้บริการแก่ลูกค้า

การปักหมุดร้านอาหารในเวียดนาม เนื่องจากมองโอกาสทางการตลาดที่ใหญ่ จากประชากรจำนวน 100 ล้านคน ที่สำคัญซีอาร์จี ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น มีฐานธุรกิจในประเทศเวียดนามเป็นแต้มต่อที่สามารถสร้าง “ซีนเนอร์ยี” ได้

“เราพยายามจะเข้าไปลงทุนในต่างประเทศให้ได้ หากจังหวะเหมาะสมจะเข้าไปขยายร้านอาหารในประเทศเวียดนาม”

แม้ภาพรวมอาหารจะมีสัญญาณที่ดี ทว่า ความท้าทายยืนหนึ่งของผู้ประกอบการปีนี้ เป็นเรื่องของ “ต้นทุน” ที่ปรับตัวสูงขึ้นยกกระบิ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงพนักงาน ฯลฯ ซึ่งซีอาร์จี มีทีมงานให้บริการลูกค้านับหมื่นทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน ที่นับวันคนไทยเข้ามาอยู่ในสายงานบริการร้านอาหารลดลง ทำให้บริษัทต้องปรับตัว นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้

อีกด้านคือ กลุ่มลูกค้าที่เปราะบาง กำลังซื้อน้อย การทำตลาดค่อนข้างเหนื่อย เพราะแม้จะอัดโปรโมชัน เพื่อสร้างควาามคุ้มค่าให้ลูกค้า แต่ต้นทุนที่สูงมาก มีผลกระทบต่อธุรกิจได้

“ปีนี้ต้นทุนอย่างเดียวเลย ที่เรามีความกังวล และถ้าร้านอาหารเล่นโปรโมชันราคา จับตลาดแมสมากๆ จะเหนื่อย เพราะต้นทุนสูง ซึ่งเราเองก็พยายามเลี่ยงขึ้นราคาสินค้า พยายามตรึงราคาให้นานสุดเพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภค แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมา มีบางแบรนด์ปรับขึ้นราคาเล็กน้อย”

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองมีความเปราะบาง บริษัทมองว่าไม่กระทบแผนลงทุน เพราะเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นชั่วคราว มองการฟื้นตัวเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างประเทศเป็นตัวแปรมากกว่า ด้านภาพรวม 5 เดือนแรกบริษัทมียอดขายเติบโตดี และทั้งปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายเติบโตอัตรา 2 หลัก 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์