‘ฟู้ดสตาร์’ ดันแบรนด์น้ำผลไม้ไทยสู่โลก เจาะสหรัฐ-ซาอุฯดันรายได้ตปท.50%

‘ฟู้ดสตาร์’ ดันแบรนด์น้ำผลไม้ไทยสู่โลก เจาะสหรัฐ-ซาอุฯดันรายได้ตปท.50%

การเดินทางสู่ทศวรรษที่ 4 ของ "ฟู้ดสตาร์" ผู้ผลิตน้ำผลไม้แบรนด์ไทย ดีโด้ มิกกุ ฯ มองโอกาสโตในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะ "สหรัฐ-ซาอุดีอาระเบีย" ขุมทรัพย์ใหม่ที่ต้องเดินเกมรุก พร้อมปูทางปักหมุดดันแบรนด์ไทยสู่เวทีโลก

“ฟู้ดสตาร์” ทำตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ภายใต้แบรนด์ “ดีโด้” และ “มิกกุ” มากว่า 30 ปี สร้างการเติบโตเป็น “ผู้นำ” ในเซ็กเมนต์อีโคโนมี ตอบโจทย์ผู้บริโภควงกว้าง(Mass)

ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 บริษัทได้จัดกิจกรรม “FoodStar Strategic Partner Conference - Go Together Grow Together 2023" พบปะพันธมิตรธุรกิจ พร้อมเล่าวิสัยทัศน์ อัพเดตเป้าหมายธุรกิจของฟู้ดสตาร์ ผ่าน 5 กลยุทธ์ ได้แก่ 1. ยกระดับคุณภาพ (Up Quality) 2.ยกระดับเทคโนโลยีและผู้คน (Up Technology & People) 3.ยกระดับการบริการ (Up Service) 4. ยกระดับนวัตกรรม (Up Innovation) 5.และยกระดับแบรนด์สินค้า (Up Branding) ให้แข็งแกรง

จันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ฉายภาพใหญ่ถึงเป้าหมายของบริษัทว่า ต้องการนำพาแบรนด์น้ำผลไม้สัญชาติไทยให้เติบใหญ่เป็นที่รับรู้ (Brand Awareness) ในตลาดโลกมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทเสิร์ฟสินค้าในต่างแดนกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

หมุดหมายที่บริษัทนำแบรนด์ไทยไปปักไว้ช่วงโควิดได้นำสินค้าทั้งน้ำผลไม้ดีโด้ และน้ำผลไม้ผสมโยเกิร์ตมิกกุ เปิดตลาดสหรัฐ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นคนใช้แรงงาน และผู้บริโภคที่รู้จักสินค้าเป็นทุนเดิม

นอกจากนี้ ยังกรุยทางสู่ตลาด “อินเดีย” มาแล้ว แต่ช่วงโควิดสะดุดเล็กน้อย เสริมทัพด้วยประเทศฟิลิปปินส์ และ “จีน” ตลาดใหญ่ รวมถึงตะวันออกกลาง ปลายเดือน ส.ค. จะเห็นการขยายเข้าสู่ “ซาอุดีอาระเบีย” หลังความสัมพันธ์ทางการทูตของไทยกับซาอุฯ กลับมาอีกครั้งในรอบหลายทศวรรษ

‘ฟู้ดสตาร์’ ดันแบรนด์น้ำผลไม้ไทยสู่โลก เจาะสหรัฐ-ซาอุฯดันรายได้ตปท.50%

จันทรา พงศ์ศรี 

“ปีนี้เราจะเปิดตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่ซาอุดีอาระเบีย เพราะมองว่ามีโอกาสทางธุรกิจการค้าเกิดขึ้นมหาศาล”

การขยายตลาดโลกให้กว้างขึ้น จะใช้เวทีงานอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่สุดอย่าง ANUGA Food Fair จัดขึ้นเดือน ต.ค. ที่ประเทศเยอรมนี เป็นพื้นที่แนะนำตัวให้พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจในประเทศต่างๆ ได้รู้จักและทดลองสินค้าด้วย

“ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 ในด้านยอดขายเราต้องการเติบโตระดับหมื่นล้านบาท การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ล้วนเป็นสิ่งที่มองไว้ แต่สเต็ปแรก คือการผลักดันยอดขายต่างประเทศให้เติบโตเท่าตัว หรือแตะระดับ 2,000 ล้านบาท ในอนาคตยังต้องการให้สัดส่วนรายได้ต่างแดนอยู่ที่ 50% เท่ากับในประเทศ จากปัจจุบันต่างประเทศทำรายได้ 1,000 ล้านบาท สัดส่วน 30% ที่สำคัญเป้าหมายใหญ่ต้องการนำแบรนด์น้ำผลไม้สัญชาติไทยไปเติบโตต่างประเทศ”

ส่วนในประเทศ การเติบโตไม่จำกัดแค่ “น้ำผลไม้” อีกต่อไป ซึ่งการผลิตสินค้าของบริษัทมีฐานจากน้ำผลไม้พร้อมดื่มหรือ Fruit Juice (Non 100%) ปลายปี 2566 เตรียมต่อยอดสู่สินค้าใหม่ในกลุ่มขนมหวาน ลูกอม (Confectionery) เช่น ดีโด้ กัมมี ส่วนปีหน้าจะขยายตลาดสู่ขนมขบเคี้ยว (สแน็ก) รวมถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือฟังก์ชันนอลดริ้งค์

“การจะเติบโตในอนาคต เราต้องพัฒนาสินค้าใหม่ๆ หมวดใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดและผู้บริโภค เทรนด์สุขภาพมาแรง บริษัทต้องมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพตอบโจทย์และขยายสู่ขนมหวาน เพราะเราทำตลาดน้ำผลไม้ผสมโยเกิร์ตแบรนด์มิกกุได้ดี และสแน็ก โดยมีดีโด้ เยลลี่ อีกทั้งมีการพัฒนา การผลิตสินค้าที่แข็งแกร่งช่วยต่อยอดได้”

‘ฟู้ดสตาร์’ ดันแบรนด์น้ำผลไม้ไทยสู่โลก เจาะสหรัฐ-ซาอุฯดันรายได้ตปท.50% แผนงานรองรับการเติบโต บริษัทยังมีการลงทุนเกือบ 300 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้า ซึ่งครึ่งปี 2566 สามารถสร้างยอดขายเติบโต 26% เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนฐานราก ร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ

แม้ยอดขายฟื้นตัวดี แต่ผู้ประกอบการยังเผชิญความท้าทายด้าน “ต้นทุน” ผลิตสินค้า ทำให้ที่ผ่านมาต้องปรับขึ้นราคาขายส่งราว 1% แต่ยังตรึงราคาขายปลีก เพื่อไม่ให้กระทบค่าครองชีพผู้บริโภค

“เราไม่ขึ้นราคาสินค้าขายปลีก เพราะผู้คนยังไม่มีรายได้เพิ่มมากนัก การใช้จ่ายยังไม่เติบโต จึงต้องบริการจัดการต้นทุน วัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ”

สำหรับภาพรวมในปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายแตะระดับ 4,000 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% แต่ตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าขาย คือ “ปัญหาทางการเมือง” มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ไม่เข้ามา ไร้เงินผันสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่วนการท่องเที่ยวหากไม่มีการชุมนุม หรือเหตุการณ์รุนแรง เชื่อว่านักท่องเที่ยวยังมาไทย ช่วยเพิ่มอำนาจซื้อได้