ไทวัสดุ เรือธงยุทธศาสตร์โต ฮาร์ดไลน์ เซ็นทรัลรีเทล ปรับขยายสาขาใหม่ทั้งปี

“ไทวัสดุ” ได้ประกาศแผนครั้งใหม่ในช่วงไตรมาสสอง ด้วยการปรับแผนขยายสาขาใหม่ในปี 2566 สู่ 14 สาขา จากแผนเดิมที่วางไว้จะขยายสาขาตลอดปีที่ 10 สาขา จากสัญญาณบวกของตลาดวัสดุก่อสร้างและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาคึกคักในรอบหลายปี 

สำหรับไทวัสดุ เรือธงกลุ่ม ฮาร์ดไลน์ (Hardline) ภายใต้ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2555 เป็นระยะเวลา 13 ปีแล้ว แต่สามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และก้าวขึ้นมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองในด้านยอดขายของตลาดวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านแล้ว 

 

หากไปสำรวจตลาดวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านของไทย ผู้นำตลาดจะเป็น โฮมโปร ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ จำนวน 96 สาขา และมียอดขายมากที่สุดในตลาด ต่อมาอันดับสอง ได้แก่ ไทวัสดุ ในปัจจุบันมี 74 สาขา

“สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุได้มุ่งการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในปี 2566 ตามความต้องการกลุ่มสินค้าด้านด้านวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัว

 

กลยุทธ์ในการขยายสาขาของไทวัสดุสาขา ได้มุ่งนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์การเกษตร เครื่องมือช่าง กระเบื้อง เฟอร์นิเจอร์ เคมีภัณฑ์ ของตกแต่งบ้าน รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับโรงแรมและร้านอาหาร รองรับกลุ่มทั้งลูกค้าทั่วไป และลูกค้าผู้รับเหมาก่อสร้างต่างๆ

โมเดลการเปิดสาขาของไทวัสดุ จะมีทั้ง ร้านไทวัสดุ รวบรวมสินค้าวัสดุก่อสร้างของตกแต่งบ้านและซ่อมแซมบ้านครบวงจร มีขนาดเนื้อที่กว่า 1.6-17 หมื่นตร.ม. มีสินค้าประมาณ 3.80 หมื่นรายการ และอีกฟอร์แมตกับ "ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม" มีขนาดพื้นที่รวมกว่า 2-3 หมื่นตร.ม. ที่รวบรวมสินค้าวัสดุก่อสร้างรวมกว่า 3.80 หมื่นรายการเช่นกัน

ทางด้าน “ไท จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน” บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ประเมินถึงแนวโน้มที่ไทวัสดุมีการขยายตัวต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงกลางปีที่ผ่านมา ที่มีเติบโตในระดับสองหลัก ทำให้บริษัทจึงมีการปรับแผนใหม่จะขยายการเปิดสาขาของ ไทวัสดุ ให้เป็น 14 สาขาในปีนี้ จากแผนเดิมจะเปิด 10 สาขา รองรับตลาดกำลังโต!

“นับตั้งแต่ไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ไทวัสดุ สร้างสร้างยอดขายคิดเป็น สัดส่วน 55-60% ของธุรกิจ Hardline และเป็นธุรกิจที่เซ็นทรัลรีเทลไฮไลท์ให้ความสำคัญ โดยที่ผ่านมามียอดขายเติบโตสองหลักติดต่อกันในหลายไตรมาสแล้ว”

ภาพรวมในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ไทวัสดุ มีการเปิดสาขาไปแล้ว 4 สาขา และผ่านจนถึงเดือน มิ.ย. ได้เปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ทำให้ในปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการรวม 74 สาขา ใน 43 จังหวัดทั่วประเทศไทย

ในช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้ปักธงสาขาใหม่ที่ ไทวัสดุ จังหวัดเลย ใช้งบลงทุน 340 ล้านบาท นำเสนอสินค้าวัสดุก่อสร้างของตกแต่งบ้านและซ่อมแซมบ้านครบวงจร มีพื้นที่กว่า 16,000 ตร.ม. เพื่อรองรับดีมานด์ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจก่อสร้าง และการท่องเที่ยวหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะเส้นทางการค้าชายแดน ที่มีจำนวนถึง 6 ด่าน เป็นการเชื่อมการสัญจรประเทศไทยและสปป.ลาว จึงเป็นแรงเศรษฐกิจที่สำคัญในพื้นที่

อีกทั้ง ไทวัสดุ สาขาเลย จะเข้ามาร่วมเสริมกำลังให้กับไทวัสดุสาขาอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกลุ่มลูกค้าชาวจังหวัดเลยกว่า 230,763 ครัวเรือน และบริเวณโดยรอบ อีกทั้งสาขาแห่งนี้ยังมีการจ้างงาน 300 คน จากคนในพื้นที่

ต้องจับตามองไทวัสดุ ที่เร่งขยายสาขาครั้งใหม่ จะผลักดันยอดขายในช่วงสิ้นปี 2566 พุ่งทะยานอย่างไร!