lululemon บุกไทย ชูแฟลกชิป-นวัตกรรม สร้างคอมมูนิตี้ชิงแชร์ ชุดออกกำลังกาย

lululemon แบรนด์ชุดออกกำลังกาย และชุดโยคะ จากแคนาดา ก่อตั้งมาร่วม 25 ปี กลายเป็นแบรนด์ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็วในทุกประเทศที่เข้าไปทำตลาด รวมถึงในช่วงโควิด-19 ก็ยังรักษาระดับการเติบโตในตัวเลขสองหลัก

ล่าสุดได้เข้ามาขยายแบรนด์ในไทยครั้งแรก พร้อมเปิด สาขาแฟลกชิปสโตร์ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ปักหมุดหมายสร้างคอมมูนิตี้กลุ่มคนรักออกกำลังกาย ร่วมชิงตลาดชุดออกกำลังกายในกลุ่มพรีเมียมในไทย วางเป้าระยะยาว 3-5 ปีจะเปิดสาขา 5-20 สาขา

 

แกเร็ธ โป๊ป รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ lululemon กล่าวว่า ตลาดรวมชุดออกกำลังกายในไทยมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากกลุ่มนักออกกำลังกายในไทยที่มีจำนวนมากและเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ดี จากการประเมินตลาดชุดออกกำลังกาย แบ่งเป็น 3 เชคเมนต์ที่สำคัญทั้ง กลุ่มที่เป็นสปอร์ตแบรนด์ ที่มาจากแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาต่างๆ กลุ่มเสื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกวัน จะมีแบรนด์หลักเป็นกลุ่มแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นในตลาด และกลุ่มที่เป็นพรีเมียมเชคเมนต์ ที่มีแบรนด์ไฮเอนด์สนใจเข้ามาขยายชุดออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งในแต่ละตลาดจะมีฐานลูกค้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

สำหรับแบรนด์ lululemon มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้า “ระดับพรีเมียม” เน้นกลุ่มออกกำลังกาย และกลุ่มสนใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยตลาดไทยมีศักยภาพ ตามแนวโน้มรูปแบบไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่แอคทีฟมีจำนวนมากขึ้น 

ทั้งนี้ได้วางกลยุทธ์สร้างแบรนด์กับ Power of Three x2 เพื่อร่วมสร้างการเติบโตและเพิ่มธุรกิจเป็นสองเท่าในอนาคต พร้อมการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าชุดกีฬาที่มีความแตกต่าง ภายใต้แนวคิด Science of Feel ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายเมื่อสวมใส่ หรือ “ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ชุดออกกำลังกาย” ต่อมา การสร้างเครือข่ายของกลุ่มลูกค้า หรือ คอมมูนิตี้ (Community) เน้นกับกลุ่มสถานที่ออกกำลังกายต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าไว้ด้วยกัน

อีกความแตกต่างที่สำคัญคือ การวางตำแหน่งพนักงานในร้าน ไม่มีหน้าที่มุ่งขายสินค้า แต่ทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำต่างๆ และมุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าแก่ลูกค้า ตลอดจนการวางตำแหน่งของร้านเปรียบเสมือนบ้าน พร้อมต้อนรับลูกค้าในการเข้ามาเยี่ยมชม จากการวางกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้แบรนด์สามารถเติบโตได้รวดเร็วในทุกตลาดทั่วโลก จากในปัจจุบันมีสาขาอยู่รวม 662 แห่งทั่วโลก ทั้งในสหรัฐ ยุโรป และในภูมิภาคเอเชีย ทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลี รวมถึงประเทศจีน

การเลือกปักหมุดหมายมาเปิดสาขาในประเทศไทยครั้งนี้ บริษัทได้ศึกษาตลาดมายาวนานร่วม 4-5 ปีแล้ว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องชะลอแผนดังกล่าวออกไปก่อน แต่ปัจจุบัน บริษัทพร้อมที่จะเข้ามาทำตลาดด้วยการลงทุนของบริษัทเอง เปิดสาขา “แฟลกชิปสโตร์ในไทยครั้งแรก” ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ขนาดพื้นที่ 600 ตร.ม.

“การเข้ามาลงทุนในไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ มาจากบริษัทแม่ที่เข้ามาลงทุนเอง เปิดตลาดในไทย พร้อมวางเป้าหมายในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า มีโอกาสขยายสาขาในไทยได้เพิ่ม 5-20 สาขา โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ ในระยะยาว”

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมแผนการรุกตลาดในไทย ทั้งร่วมจัดกิจกรรมอีเวนต์กับกลุ่มลูกค้า และการเลือก “ไตรภพ เหล่าอุดม” หรือ “ภพ” ผู้ร่วมก่อตั้งไอรอนไฮฟ์ยิมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยคนแรกเพื่อร่วมสร้างคอมมูนิตี้ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ทีมผู้บริหาร lululemon

นาธาน ชาง  รองประธานฝ่ายการตลาดแบรนด์และชุมชนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก lululemon กล่าวย้ำว่า กลยุทธ์สำคัญของ lululemon ที่สร้างแบรนด์เติบโตแข็งแกร่ง มาจากการกำหนดนโยบาย Decentralize พร้อมเปิดรับทุกความคิดเห็น และให้ความสำคัญอย่างมากกับพนักงาน โดยเป็นกล่มที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกค้าโดยตรง เพื่อนำมารังสรรค์สิ่งที่ดีให้แก่ลูกค้า การมี ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง และมีทำเลเปิดสาขาที่มีศักยภาพ ตลอดจนการเน้นให้ความรู้ เพื่อสร้างเครือข่ายกลุ่มลูกค้าและมุ่งสร้างคอมมูนิตี้กลุ่มที่ชื่นชอบออกกำลังกายและกลุ่มสนใจดูแลสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม การเปิดสาขาไทยครั้งนี้ ถือเป็นสาขาที่ 100 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยสาขาที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์อยู่ที่ชั้น 1 มีผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้ง ผลิตภัณฑ์สำหรับการฝึกโยคะ วิ่ง เทรนนิ่ง และกีฬาประเภทต่าง ๆ ได้แก่ กอล์ฟ เทนนิส ปีนเขา รวมถึงเครื่องแต่งกายสำหรับชีวิตประจำวัน (On The Move)และผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ได้แก่ กางเกงรุ่นAlign™สำหรับผู้หญิงที่ผลิตจากผ้าNulu™ให้ความรู้สึกไร้น้ำหนักบนผิวกาย และกางเกงรุ่นABCแบบสลิมฟิตสำหรับผู้ชาย

ทั้งนี้กำหนดเปิดสาขา lululemon แห่งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ 28 ก.ค.นี้ มาพร้อมแคมเปญ “Get Into It” เพื่อขยายเครือข่ายกลุ่มลูกค้าในไทย