‘ไทย’ อันดับ 7 ตลาดค้าชาใหญ่สุดในโลก เปิด 5 โปรดักต์ ‘ชาเพื่อสุขภาพ’ มาแรง!

‘ไทย’ อันดับ 7 ตลาดค้าชาใหญ่สุดในโลก เปิด 5 โปรดักต์ ‘ชาเพื่อสุขภาพ’ มาแรง!

จากเทรนด์ “ตลาดชา” ระดับโลกในปี 2565 (Global Tea Market 2022) พบว่าการผลิตชาทั่วโลกมีมูลค่ามากกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่การค้าชาทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 9,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแหล่งรายได้หลักมาจากการส่งออกชา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยาภรณ์ เชื่อมชัยตระกูล หัวหน้าสถาบันชาและกาแฟ แห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เล่าในหัวข้อ “กระแสสถานการณ์ชาโลกต่อการเปลี่ยนแปลงตลาดชาไทย” ภายในงานการประชุมเครือข่ายชา-กาแฟประเทศไทย 2566 เมื่อต้นเดือน ก.ค. ว่า “มีการประเมินว่าภายในปี 2566 ตลาดชาจะเพิ่มสูงขึ้น 6-7% และภายในปี 2568 วัฒนธรรมการทานชานอกบ้านจะสูงขึ้น 5% พร้อมคาดการณ์ด้วยว่าในปีเดียวกันจะมีปริมาณชา 7.4 พันล้านกิโลกรัม”

ทั้งนี้จากสถิติการประเมินยอดขายชาในปี 2565 พบว่า “8 ประเทศที่มีตลาดค้าชาใหญ่ที่สุดในโลก” ได้แก่ อันดับ 1 จีน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกชารายใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่า 99,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.4 ล้านล้านบาท) รองลงมาอันดับ 2 อินเดีย 15,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (540,276 ล้านบาท) อันดับ 3 ญี่ปุ่น 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (498,981 ล้านบาท) อันดับ 4 สหรัฐ 13,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (461,127 ล้านบาท)

อันดับ 5 บราซิล 11,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (406,067 ล้านบาท) อันดับ 6 ตุรกี เป็นตลาดที่มีสัดส่วนผู้บริโภคชามากที่สุดในโลก มีมูลค่า 11,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (406,067 ล้านบาท) อันดับ 7 ไทย 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (196,151 ล้านบาท) และอันดับ 8 อินโดนีเซีย 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (144,532 ล้านบาท)        

“เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ตรงที่ประเทศไทยติดอันดับ 7 ของตลาดค้าชาใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งที่ไม่ได้มีการบริโภคสูงมากนัก”

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการบริโภคชาทั่วโลกขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.5% ต่อคนต่อปี โดย 10 เทรนด์น่าสนใจในอุตสาหกรรมชาตั้งแต่ปี 2564-2566 ได้แก่ 1.การดื่มชาพรีเมียมที่บ้าน (Premium Tea at Home) 2.ชาเพื่อสุขภาพ (Wellness Teas) 3.ชอปปิงชาผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Shopping) 4.ชาแคปซูล (K-Cups) 5.ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Packaging) 6.โคลด์บรูว์ส (Cold Brews) 7.คนดื่มกาแฟเปลี่ยนมาดื่มชาแทน (Coffee Drinkers Switch to Tea) 8.คุณภาพและการคัดสรร (Quality and Selection) 9.ชุดทดลอง (Sample Packs) และ 10.ชอปปิงชาอย่างเข้าถึงท้องถิ่น (Shopping Locally)

‘ไทย’ อันดับ 7 ตลาดค้าชาใหญ่สุดในโลก เปิด 5 โปรดักต์ ‘ชาเพื่อสุขภาพ’ มาแรง!

“6 คอนเซ็ปต์ในอุตสาหกรรมชาปี 2566” คือ 1.มอบประสบการณ์หรือเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม 2.เลือกบริโภคชาตามจุดประสงค์ เช่น การดูแลตัวเอง ประโยชน์เพื่อสุขภาพและจิตใจ มอบอารมณ์ (Mood) ตรงตามความต้องการเช่น มอบอารมณ์ผ่อนคลาย การหลับที่ดี การโฟกัสเรื่องงานหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และมอบพลังงานการตื่นตัว หลังผู้บริโภคเข้าใจตลาดมากขึ้น 3.พัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตชา เช่น ชาแบบแคปซูล ชาแบบโคลด์บรูว์ 4.การนำข้อมูลมาขับเคลื่อนธุรกิจชา 5.กระแสทางเลือกชาพร้อมดื่ม (Ready To Drink: RTD) และ 6.รสชาติแบบฟิวชัน (Fusion Flavors)

ด้านเทรนด์ “5 โปรดักต์ชามาแรงในปี 2566” ส่วนใหญ่จะเป็นชาจากสมุนไพรและผลไม้ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพ ได้แก่ “คอมบูชา” (Kombucha) หรือ ชาหมัก ช่วยในการย่อยอาหารและปรับสมดุลลำไส้ “ชามะรุม” (Moringa Tea) ช่วยรักษาโรคเบาหวาน รักษาสมดุลของระดับน้ำตาล “ชาผู่เอ๋อร์” (Pu-erh Tea) ช่วยขับสารพิษในลำไส้ “ชาฮันนีบุช” (Honeybush Tea) มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และ “ชาแบบสปาร์คกลิง” (Sparkling Tea) หรือชาอัดแก๊ส ดื่มแล้วสดชื่น เริ่มเข้ามาในตลาดเพื่อเจาะตลาดวัยรุ่นมากขึ้น

‘ไทย’ อันดับ 7 ตลาดค้าชาใหญ่สุดในโลก เปิด 5 โปรดักต์ ‘ชาเพื่อสุขภาพ’ มาแรง!

สำหรับสถานการณ์ตลาดชาในประเทศไทย พบว่าในปี 2563 ภาพรวม “ตลาดเครื่องดื่มในไทย” มีปริมาณการบริโภครวม 1.3 หมื่นล้านลิตร มูลค่าประมาณ 7.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คิดเป็นสัดส่วน 79:21 ในเชิงปริมาณการบริโภค และ 36:64 ในเชิงมูลค่า

ทั้งนี้ เมื่อดูเฉพาะสัดส่วนของ “ตลาดชาพร้อมดื่มในไทย” คิดเป็น 6.4% ของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยปี 2563 มีมูลค่า 11,279 ล้านบาท ปี 2564 มูลค่า 10,863 ล้านบาท และปี 2565 มูลค่า 13,229 ล้านบาท เติบโตถึง 22% ขณะที่สัดส่วนชาพร้อมดื่มแต่ละเซ็กเมนต์มีหลากหลาย นำโดยอันดับ 1 ชาทั่วไป (Regular Tea) 58% รองลงมาคือ ชาผลไม้+วุ้นมะพร้าว 13% เฮอร์เบิล ที 9% สปาร์คกลิง ที 6% ชาพรีเมียม 6% ชาหมัก 3% และอื่นๆ 5%

“ด้านแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มปี 2565-2568 ประเมินว่าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Functional Beverage) มาแรงต่อเนื่อง เห็นได้จากเทรนด์การบริโภคที่เริ่มมองหาเครื่องดื่มหวานน้อย รวมถึงการบริโภคชากาแฟแบบออร์แกนิกมากขึ้น”

‘ไทย’ อันดับ 7 ตลาดค้าชาใหญ่สุดในโลก เปิด 5 โปรดักต์ ‘ชาเพื่อสุขภาพ’ มาแรง!

‘ไทย’ อันดับ 7 ตลาดค้าชาใหญ่สุดในโลก เปิด 5 โปรดักต์ ‘ชาเพื่อสุขภาพ’ มาแรง!