‘ซีพี-เมจิ’ แจงน้ำนมดิบขาดตลาด! สินค้านมพาสเจอร์ไรส์มีขายปริมาณจำกัด
นมสด "เมจิ" ขาดตลาด "ซีพี-เมจิ" เร่งแจงเหตุเผชิญสถานการณ์น้ำนมดิบขาดแคลน จากโคนมเข้าสู่ช่วงพักรีด อีกด้านข้อมูลโลกออนไลน์ระบุต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งแรง เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมแบกภาระไม่ไหว ทยอยเลิกเลี้ยงโคนม แถมราคารับซื้อน้ำนมดิบต่ำ ผู้บริโภคกลัวสินค้าขึ้นราคา-แพง
ภาวะสินค้าขาดแคลนในกลุ่มนมพาสเจอร์ไรส์ หรือผู้บริโภคคุ้นชินคือนมสดกำลังเกิดขึ้น เมื่อผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ ‘ซีพี-เมจิ’ ได้ออกมาประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก ว่า
เนื่องด้วยสถานการณ์น้ำนมดิบขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง และโคนมกำลังเข้าสู่ช่วงพักรีดนม จึงทำให้สินค้ากลุ่มนมสดพาสเจอร์ไรส์มีจำนวนจำกัด บริษัทฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี่
ทั้งนี้ บริษัทฯพยายามสรรหาน้ำนมดิบมาเพื่อผลิตสินค้าอย่างเต็มกำลัง
ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ “เมจิ” มาโดยตลอด
- ต้นทุนเลี้ยงวัวพุ่ง ราคารับซื้อน้ำนมดิบต่ำ
หลังประกาศน้ำนมดิบขาดตลาดจนกระทบการผลิตสินค้า ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยเฉพาะ “โคนม” กำลังเข้าสู่ช่วงพักรีดนม เพราะอีกด้าน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทยอย “เลิก” หรือยุติการเลี้ยงโคนม เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น โดยเฉพาะอาหารโคนม เช่น ฟางอัดก้อนที่ราคาแพงระยับ! เมื่อแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว จึงต้องทยอยเลิกเลี้ยงโคนม หรือขายทิ้ง
นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเจอต้นทุนแพงเป็น “ปัญหาใหญ่” ทว่าเรื่องดังกล่าวกลับไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เมื่อ “ราคาอาหารสัตว์” ไม่ถูกควบคุม แต่ราคาน้ำนมดิบหน้าฟาร์มกลับมีการควบคุมราคา จะขยับทีต้องผ่านมติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมหรือมิลค์บอร์ด
ทว่า การอนุมัติขึ้นราคาน้ำนมดิบ บางครั้งยังสวนทาง ไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่พุ่งปรี๊ดด้วย ซึ่งความเห็นจากผู้บริโภคมีดังนี้
-ราคาอาหารสัตว์ขึ้นเดือนละ 2-3 ครั้ง ไม่ต้องผ่านมติบอร์ดอะไรเลย
-ราคาอาหารสัตว์ขึ้นที 10-20 บาทไม่แจ้ง แต่น้ำนมดิบจะขึ้นราคา 1 บาท ลำบากยากเย็น และแทบไม่ยอมให้ขึ้นด้วย
-น้ำนมดิบขาดตลาดเพราะโคนมเข้าสู่ช่วงพักรีดเป็นข้อเท็จจริงส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือเกษตรกรฟาร์มโคนมเลิกเลี้ยงกันมาก จากต้นทุนอาหารสัตว์ไม่สอดคล้องกับราคารับซื้อน้ำนมดิบ เป็นต้น
- ผู้บริโภคกลัวสินค้าขึ้นราคา
ภาวะสินค้าขาดตลาด สะท้อนปริมาณผลผลิตหรือ Supply ที่ช็อต ความกังวลใจตามมาคือ เรื่องการ “ขึ้นราคาสินค้า” ที่ผู้บริโภคกังวลใจอย่างยิ่ง เพราะช่วงที่ผ่านมาความต้องการหรือ Demand ยังมีอยู่สูง ทำให้ผู้มีโอกาสพบเจอสินค้านมพาสเจอร์ไรส์บนชั้นวาง ตู้แช่ ต้องหยิบตุนไว้
ไม่เพียงผู้บริโภครายย่อยที่จะได้รับผลกระทบจากการบริโภค แต่ยังรวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า โดยเฉพาะร้านเครื่องดื่มที่มีการใช้ “นมสดเมจิ” เป็นส่วนผสมของเมนูต่างๆ เสียงสะท้อนของผู้บริโภค ลูกค้าต่างๆ จึงส่งไปถึงผู้ผลิตบิ๊กแบรนด์ เช่น
-ขนาดนมสดเจ้าใหญ่ที่สุดในไทยยังขาดตลาด ตกใจง่ะ
-มิน่า หาซื้อไม่ได้เลย
-สินค้าขาดตลาดรอได้ แต่อย่าขึ้นราคานะ สงสารผู้ประกอบการรายเล็กด้วย
-ใดๆคือร้านกาแฟ คาเฟ่ เตรียมรับผลกระทบเลย
-จะขึ้นราคาหรือเปล่า
-ไม่ขึ้นราคาอีกใช่ไหม รอบที่แล้วขึ้นจาก 91 บาท มา 95 บาทเลย(ขนาด 2 ลิตร)
อย่างไรก็ตาม น้ำนมดิบขาดแคลน และภาวะสินค้านมพาสเจอร์ไรซ์ “เมจิ” ช็อตจะเกิดขึ้นสั้นยาวแค่ไหน แนวทางการแก้ปัญหาจะเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภค ผู้ผลิต ตลอดจนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม คงต้องติดตามต่อ