ชนะเลือกตั้ง 14 ล้านเสียง แพ้โหวตนายก ‘พิธา’ กวาด 50 ล้านเอนเกจเมนต์บนโซเชียล

ชนะเลือกตั้ง 14 ล้านเสียง แพ้โหวตนายก ‘พิธา’ กวาด 50 ล้านเอนเกจเมนต์บนโซเชียล

ชนะใจประชาชน ไม่เพียงพอต่อการเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย สำหรับ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เพราะโหวตเลือกนายกฯ ยังไม่ผ่านด่าน "สว." ที่ทั้งงดออกเสียง-ไม่เห็นชอบ งานนี้ทำให้ชาวโซเชียล ถกต่อกลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล สามารถพาทีมชนะการเลือกตั้งใหญ่ โกยคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนชาวไทย 14 ล้านเสียง และวานนี้(13 ก.ค.66) เป็นการ “โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี” คนที่ 30 ของประเทศไทย และผลคาดการณ์ล่วงหน้า ส่งสัญญาณว่าอาจไม่ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ ทว่า การโหวตจริง ผลก็เป็นตามที่สื่อหลายสำนักฟันธง คือ แพ้โหวตนายกรอบแรก

เมื่อผลออกมา ค้านเสียงประชาธิปไตยและกติกาการเลือกตั้งที่ผู้ชนะ ยังไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมตรี จึงมีเสียงสะท้อนจากโลกออนไลน์ หรือบรรดาชาวโซเชียลต่างๆมากมาย จนกลายเป็นประเด็นร้อนระอุ! เลยทีเดียว

ประเด็นแห่งชาติ บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงติดตามกระแสอย่างใกล้ชิด และได้ทำการเก็บข้อมูลจากโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ได้แก่ Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, TikTok, Pantip, และเว็บไซต์ข่าว โดยใช้คำสำคัญและใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับการโหวตนายกฯ ทั้งหมดบนเครื่องมือ Social Listening หรือ ZOCIAL EYE เพื่อนำมาวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2566

จากดาต้าพบว่ามีการติดแฮชแท็กทั้ง #โหวตนายก, #นายกพิธา, #ประชุมสภา, #เลือกนายกตามผลเลือกตั้ง เบียดกันติดท็อปเทรนด์ทวิตเตอร์นาทีต่อนาที และมีข้อความไหลไม่ต่ำกว่า 100,000 ข้อความ! และเมื่อผลประกาศออกมาว่า “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ จึงทำให้กระแสการพูดถึงเกิดขึ้นตลอดทั้งคืนวันที่ 13 กรกฎาคม

ทั้งนี้ วันที่ 12 - 13 กรกฎาคม มีข้อความการพูดถึงเพิ่มสูงขึ้น 10 เท่า มียอดรวมข้อความทั้งสิ้น 285,816 ข้อความ คิดเป็นเอ็นเกจเมนต์รวม 50 ล้านเอ็นเกจเมนต์ จากกว่า 55,000 ผู้ใช้งาน โดยช่องทางที่มีการพูดถึงอันดับ 1 คือ Twitter คิดเป็น 52% ตามด้วย Facebook คิดเป็น 42% และช่องทางอื่นๆ 6%

สำหรับโพสต์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงที่สุดบนช่องทาง Twitter เป็นโพสต์ที่กล่าวชมการแสดงผลโหวตแบบเรียลไทม์ พร้อมบอกชื่อและพรรคของคนที่ลงคะแนน จัดทำโดยสำนักข่าว Thai PBS ได้รับการรีทวิตไปทั้งสิ้นมากกว่า 150,000 ครั้ง

ช่วงเวลาที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงสุด คือ 10.00-11.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นพิจารณาโหวตเลือกนายกฯ มีเอ็นเกจเมนต์สูงถึง 3.6 ล้านเอ็นเกจเมนต์ และช่วง 16.00-18.00 น. ซึ่งเป็นช่วงนับคะแนนโหวตไปจนถึงประกาศผล

ในส่วนของ Sentiment หรือความรู้สึกนึกคิดต่อเรื่องดังกล่าว พบว่า เกิน 64% โพสต์ข้อความไปในเชิงลบ ในขณะที่ 32% มีความเห็นไปในเชิงเป็นกลาง มีเพียง 2% เท่านั้นที่แสดงความคิดเห็นในเชิงบวก

นอกจากนี้ ไวซ์ไซท์ ได้สรุปความคิดเห็นบนโลกโซเชียลในภาพรวม แบ่งเป็น 3 ประเด็น ดังนี้

1.ถามหาการเคารพเสียงของประชาชน เมื่อผลออกมาว่า "พิธา" ไม่ได้เป็นนายก ทำให้ชาวโซเชียลหลายคนเกิดคำถามว่า แล้วเสียงของประชาชนยังมีความหมายอยู่หรือไม่? หนึ่งในโพสต์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงมาจากคำพูดในช่วงอภิปรายของส.ส.พรรคก้าวไกลที่กล่าวว่า หากนายกคนใหม่ไม่เป็นไปตามผลเลือกตั้ง แล้วเราจะมีผลการเลือกตั้งไปทำไม ประชาชนอยู่ที่ไหนของประชาธิปไตยในประเทศนี้ โพสต์นี้เพียงโพสต์เดียวได้รับการรีทวิตไปทั้งสิ้นกว่า 100,000 ครั้ง!

2.“งดออกเสียง” ต่างกับ “ไม่เห็นชอบ” อย่างไร? จากผลการโหวตที่ส่วนใหญ่งดออกเสียง ทำให้ชาวโซเชียลหลายคนพูดถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ควรเก็บมาคิดเป็นคะแนน บ้างก็ว่าหากมาลงคะแนนว่างดออกเสียง จะมาทำไม หรือการงดออกเสียง ต่างจากไม่เห็นชอบอย่างไร ในเมื่อสุดท้ายก็คิดรวมเป็นคะแนนไม่เห็นชอบอยู่ดี ข้อความส่วนมากเป็นไปในเชิงลบ และแสดงความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ประเด็นนี้ ยังมีโพสต์จากดาราและนักร้องร่วมด้วย เช่น โพสต์ของ “ไหมไทย หัวใจศิลป์” จากข้อความงดออกเสียง ถนอมเส้นเสียงไว้ทัวร์คอนเสิร์ตกันรึไง? ได้รับเอ็นเกจเมนต์รวมไปมากกว่า 100,000 เอ็นเกจเมนต์, เบิ้ล ปทุมราช กล่าว “อั่น งด ออกเสียงนิ สิหอบสังขาร ไปเปลืองแอร์ ทำไม”(อั่น..ภาษาอิสานแปลว่า เอ่อ/คือว่า) เชื่อแล้วว่า #คนไทยเป็นคนตลก เพราะถึงแม้เรื่องราวจะเครียดเพียงใดโพสต์ที่ออกมาก็ยังเรียกรอยยิ้มให้ผู้อ่านได้อยู่ไม่น้อย

3.#กกตมีไว้ทำไม ยังคงเป็นอีกหนึ่งแฮชแท็กและเรื่องราวที่ได้รับความสนใจและมีคนพูดถึงทุกครั้งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองคงหนีไม่พ้นเรื่องการทำงานของกกต. จากกรณีกกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยปมหุ้น ITV โดยโพสต์ที่คนให้ความสนใจสูงมาก มาจาก Facebook ของคุณพอล ภัทรพล กวาดไปมากกว่า 260,000 เอ็นเกจเมนต์ และโพสต์จากคุณติ๊ก เจษฎาภรณ์ โพสต์ถามว่า #กกตมีไว้ทำไมคะ ซึ่งมียอดคนดูเกิน 1 ล้านบนทวิตเตอร์