ส่อง‘4เทรนด์ทรงพลัง’เคลื่อนธุรกิจ จี้นักการตลาดทรานส์ฟอร์มทันโลก

ส่อง‘4เทรนด์ทรงพลัง’เคลื่อนธุรกิจ  จี้นักการตลาดทรานส์ฟอร์มทันโลก

สมาคมการตลาดฯเผย 4 เทรนด์ทรงพลังเคลื่อนธุรกิจปี 66 แนะนักการตลาดเร่งทรานส์ฟอร์มก้าวทันโลกยุคใหม่ มุ่งเจาะลูกค้าตรงเฉพาะบุคคล เชื่อมทุกช่องทางไร้รอยต่อ ฉลาดใช้เทคโนโลยี บิ๊กดาต้าต่อยอดธุรกิจ ปรับตัวตลอดเวลา พร้อมดึงพันธมิตรเสริมเขี้ยวเล็บเหนือคู่แข่ง

บริบทการค้า การแข่งขัน และพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา การขบคิด วางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับกสถานการณ์ทางการตลาด ณ ห้วงเวลานั้น สำคัญอย่างยิ่งเพื่อสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพ "สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย" หรือ MAT นอกจากเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายให้ภาคธุรกิจใช้ “การตลาด” เป็น “อาวุธ” ในการสร้างแบรนด์แห่งชาติ หนุนเศรษฐกิจไทย ยังมุ่งทรานส์ฟอร์ม "นักการตลาด" ให้ก้าวทันโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปิดช่องว่างระหว่างเจนเนอเรชันคนเก่าแต่เก๋าประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่เก่งเทคโนโลยีดิจิทัล แต่ต้องเสริมใยเหล็กด้านการตลาด

นายบุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงในโลกเกิดขึ้นค่อนข้างมาก และเชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคย่อมไม่เหมือนเดิม โดย 3 ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประกอบด้วย 1.พฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์เปลี่ยน 2.ความต้องการเปลี่ยน และ3.ความคาดหวังของผู้บริโภคเปลี่ยน

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงยังเกิดเร็วและแรง จากเทคโนโลยีดิจิทัล ส่วนคนรุ่นใหม่ที่มีพลังเฉพาะตัว ลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในตลาด กลายเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลมากขึ้น ผู้คนยังมองหาการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆเชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์แบบไร้รอยต่อ และหาสิ่งที่มีคุณค่าให้กับตัวเองมากขึ้น

นอกจากนี้ ยุคดิจิทัลทำให้เกิดประชากรอินเตอร์เน็ต (Netizen) มาพร้อมกับเทคโนโลยีบอท (Botizen) ซึ่งนักการตลาดต้องทำความเข้าใจในการทำตลาด

ส่อง‘4เทรนด์ทรงพลัง’เคลื่อนธุรกิจ  จี้นักการตลาดทรานส์ฟอร์มทันโลก “อนาคตประชากรอาจไม่ใช่ดูแค่ 7,000 ล้านคน เพราะยังมีชาวเน็ต ที่พฤติกรรมต่างจากการซื้อสินค้าบนออฟไลน์ และยังมีบอท ซึ่งหลายครั้งที่โลกออนไลน์มีการถามว่าคุณเป็นบอทหรือไม่”

อีกปัจจัยสร้างการเปลี่ยนแปลงคือความขัดแย้งของโลกที่เกิดการแบ่งขั้วหรือ Bipolar มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกิดกลุ่มก้อนทางภูมิรัฐศาสตร์โลก การค้า เช่น กลุ่มสหภาพยุโรป จีน สหรัฐ อินเดีย เป็นต้น ด้านเศรษฐกิจถือเป็นปัจจัยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ก่อนโควิดเศรษฐกิจ(จีดีพี)มีการเติบโตในระดับสูงทุกปี หลังโรคระบาดจีดีพีโตยาก หากโตยังเป็นอัตราที่ต่ำด้วย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น จากเดิมอยู่ในระดับต่ำ

“การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคสับสน มีความชอบและไม่ชอบ ขณะที่นักการตลาด สินค้าและแบรนด์หากไม่ปรับตัวให้สอดคล้องสิ่งที่เกิดขึ้น อาจอยู่ไม่ได้หายไปจากตลาด และบางครั้งอาจต้องหาพันธมิตรเสริมแกร่งเพื่ออยู่รอด”

  • เกาะติด4 เทรนด์ทรงอิทธิพล

ขณะที่เทรนด์ใหญ่ทรงอิทธิพลต่อการทำตลาดปี 2566 มี 4 ด้าน ได้แก่ 1.การตลาดเฉพาะบุคคล(Personalize Marketing) ดังนั้น การทำตลาดจึงจำเป็นต้องรู้ใจกลุ่มเป้าหมายเชิงลึกขึ้น 2.การตลาดในโลกหลายใบ(Marketing on Multiverse)ไม่ใช่แค่ออฟไลน์ ออนไลน์ แต่ปัจจุบันมีโลกอื่นๆเพิ่มขึ้นด้วย การทำตลาดจึงต้องเชื่อมทุกโลกให้ได้ 3.การตลาดด้วยความจริงใจ(Real Marketing) วันนี้ไม่ใช่แค่ความจริงใจ นักการตลาดยังต้องเร็วออกอาวุธให้ทันการณ์(Real Time) สินค้าต้องของจริง(Real Product) สร้างประสบการณ์จริง(Real Experience)ด้วย

ส่อง‘4เทรนด์ทรงพลัง’เคลื่อนธุรกิจ  จี้นักการตลาดทรานส์ฟอร์มทันโลก 4.การตลาดพร้อมปรับ(Dynamic Brand)ยุคนี้การสร้างแบรนด์ให้ยั่งยืน นอกจากการทำตลาดจุดกระแสวูบวาบแล้ว แบรนด์ต้องปรับตัว เปลี่ยนเร็วด้วย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา หากอยู่เฉยอาจโดนดิสรัป คู่แข่งแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดได้ ตัวอย่างแบรนด์แฟชั่นระดับโลก แม้มีอายุเก่าแก่ร้อยปี แต่ปรับตัวร่วมมือ(Collaboration)กับแบรนด์อายุน้อยเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เป็นต้น

“วันนี้แบรนด์ดังระดับโลก มีการใช้กลยุทธ์ทำตลาดร่วมหรือ Co-Branding และจะเห็นมากขึ้น เพราะนอกจากรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ ยังขยายฐานสู่กลุ่มใหม่ได้ด้วย”

  • แนะประยุกต์-ต่อยอดสู่ความสำเร็จ

สมาคมฯ ยังมีข้อเสนอแนะให้นักการตลาดนำไปต่อยอด ประยุกต์ใช้เพื่อปูทางสู่ความสำเร็จ ประกอบด้วย 1.ให้อำนาจแก่ลูกค้า(Customer Empowerment) แบรนด์ต้องไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่การออกสินค้าและบริการต้องให้อำนาจแก่ลูกค้าเป็นที่ตั้งว่าชอบหรือไม่ชอบ ต้องการหรือไม่ต้องการอะไร 2.ต้องฉลาดใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ตลาดใช้คอมพิวเตอร์เรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อสร้างประโยชน์ในกระบวนการตลาดและการขาย (Applying Data Analytics and Machine Learning)

ส่อง‘4เทรนด์ทรงพลัง’เคลื่อนธุรกิจ  จี้นักการตลาดทรานส์ฟอร์มทันโลก “นักการตลาดสามารถใช้เทคโนโลยีเอไอ ดาต้าขับเคลื่อนการตลาด วิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของลูกค้าได้”

3.เร่งทำตลาดเฉพาะบุคคลแต่ขยายขนาดให้ได้(Accelerating Personalized Marketing at Scale) เมื่อผู้บริโภคปัจจุบันมีความเป็นปัจเจกทำให้การตลาดต้องตอบสนองแต่ละคนมากขึ้น ทว่า โจทย์นี้เป็นเรื่องท้าทายนักการตลาดอย่างมาก เพราะข้อเสียคือ หากเจาะลึกความต้องการแต่ละบุคคลได้ การพัฒนาสินค้าและบริการตอบสนองคนๆเดียวไม่สามารถทำได้หมด ต้องหาทางเชื่อมโยงความต้องการแต่ละคนให้เกิดขนาดใหญ่หรือ Scale ให้ได้

“เมื่อก่อนนักการตลาดแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นวงกว้างหรือ Mass มาสู่เซ็กเมนต์ และแยกย่อยหรือ Fragmented วันนี้ลงลึกถึงปัจเจกบุคคล ความยากคือเราต้องหาจุดสนใจร่วมของทุกคนให้เจอเพื่อเชื่อมโยงไปสู่สเกลใหญ่”

4.การสร้างอีโคซิสเทมอย่างครบวงจร(Building Ecosystems)ไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญกับแบรนด์หรือตัวสินค้าภายในของตนเองเท่านั้น แต่ต้องพร้อมรองรับพันธมิตร กลุ่มผู้สนับสนุนนอกสายอุตสาหกรรมที่ตนเองอยู่ด้วย

"สรุปการตลาดยุคหน้า นักการตลาดต้องฉลาด มีความว่องไว เข้าใจความแตกต่างของลูกค้าแต่ละคน และการทำตลาดต้องมีพันธมิตรเสริมแกร่งมากขึ้น"

  • ปรับตัวรับโอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลง

ด้านนายเอกก์ ภทรธนกุล อุปนายกฝ่ายกิจกรรมการสื่อสารและการตลาดยั่งยืน สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ครึ่งปีหลัง 2566 ยังมีความท้าทายมากมายรอนักการตลาดอยู่ แต่ท่ามกลางโลกแห่งความเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาสให้ผู้บริหาร และนักการตลาดปรับเปลี่ยนและปฏิรูปแนวคิด เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินหน้าต่ออย่างราบรื่น ภายใต้สูตร PILOT ประกอบด้วย P : Pioneering มุ่งหน้า ปรับกระบวนท่าไม้ตายอยู่ตลอดเวลา I : Insights การตลาดต้องลงลึกให้ได้ L : Long-term มองยาวให้เป็น O : Openness เปิดใจรับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และ T : Timeliness ทันที การทำตลาดยุคนี้หากล่าช้ากว่า คนอื่นทำแล้วและทำเร็วกว่า จะส่งผลต่อการแข่งขันค้าขายได้

ส่อง‘4เทรนด์ทรงพลัง’เคลื่อนธุรกิจ  จี้นักการตลาดทรานส์ฟอร์มทันโลก “ผู้นำองค์กรต้องเป็น pilot ผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ แล้วให้เทคโนโลยีใหม่ๆมาเสริมทัพเป็น Co-pilot หากสามารถผสานวิสัยทัศน์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งต้องเริ่มจากตัวเองและทีมงาน”

  • ปฎิรูปแนวคิดเชื่อมความเก๋า-โลกยุคใหม่

อย่างไรก็ตาม วิธีสร้างความเปลี่ยนแปลงข้างต้น ควรเริ่มจากการ Reframe และ Reform หรือการปรับเปลี่ยนและปฏิรูปแนวคิดเสียก่อน โดยการปรับเปลี่ยน เป็นการเชื่อมความเก๋าเข้ากับโลกยุคใหม่ เมื่อเทคโนโลยี ผู้บริโภค เด็กยุคใหม่ก้าวกระโดด ผู้บริโภคก้าวกระโดด เด็กยุคใหม่ก้าวกระโดด ผู้นำองค์กรหรือนักการตลาด ก็ต้องกระโดดข้ามรูปแบบเดิมๆ เพื่อเดินกระบวนความคิดใหม่ให้เชื่อมกับความเปลี่ยนแปลง จะได้ทะยานต่อได้ ขณะที่การปฏิรูป หากต้องการให้ธุรกิจไปต่อได้ในโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน สิ่งสำคัญที่ผู้บริหารต้องเปิดมุมมองสู่แนวคิดใหม่ๆ เพื่อจะได้พบความเป็นไปได้ของการ ไปต่อและเติบโต

เมื่อสมาคมการตลาดฯ ต้องการทรานส์ฟอร์มนักการตลาดให้ก้าวทันโลก ยังมีการเปิด 2 หลักสูตรใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริหารที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง ได้แก่ หลักสูตร “XYZ : Experience Your Zero” แลกเปลี่ยน Insoight มิติต่างๆกับคนรุ่นใหม่ และหลักสูตร “MORPH : Visionary Re-Defined” เพื่อเข้าใจแก่นแท้ขอองค์กร การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้นำธุรกิจก้าวสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก