'ดีแลนด์' เร่งปรับพื้นที่ ดึงทัวร์สายมู รับทราฟฟิก Porto Chino - Porto Go พุ่ง

นายสุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คอมมูนิตี้มอลล์ และจุดพักรถ หรือ Rest Area เปิดเผยว่า ในครึ่งปีบริษัทจะเดินหน้าเพิ่มกลยุทธ์เพิ่มความหลากหลาย พร้อม Re-positioning ในไลฟ์สไตล์มอลล์ 3 ศูนย์ได้แก่ Porto Chino ถนนพระราม 2 และ Porto Go 2 สาขา ทั้งที่บางปะอินและท่าจีน 

สำหรับสาขาแรก Porto Chino พระราม 2 ได้วางกลยุทธ์เป็น "ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่เป็นเพื่อนที่รู้ใจ" มุ่งเพิ่มบริการและสินค้าร้านค้าที่หลากหลาย เจาะเป้าหมายทุกกลุ่ม พร้อมเพิ่มพื้นที่จอดรถ บริการรถเข็นคนพิการ/สัตว์เลี้ยง ฟรี Wifi และ EV Charger ส่วน Porto Go 2 สาขา มุ่งกลยุทธ์เป็น “เพื่อนรู้ใจนักเดินทาง” ทั้งจัดทำห้องน้ำติดแอร์แบบไร้สัมผัส การจัดสรรพื้นที่เฉพาะสำหรับคนพิการ และครอบครัว และมุมถ่ายภาพ

นอกจากนี้วางแผนขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ใน Porto Go 2 สาขาบางปะอิน และท่าจีน โดยจากการสำรวจเชิงลึกพบว่า มีนักเดินทางจำนวนมากนิยมเดินทางมาเพื่อไหว้สักการะและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อส่วนบุคคล จึงมีโอกาสขยายตลาดกลุ่มใหม่ ที่เป็นตลาด "ทัวร์สายมู"

ทั้งนี้เส้นทางบางปะอิน-อยุธยา มีมากกว่า 100 วัดดัง มีทั้งวัดที่สายมูนิยมมากราบไหว้ และวัดที่มีความสวยงามของโบราณสถานและวัตถุโบราณต่าง ๆ อาทิ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดหน้าพระเมรุราชิการาม วัดท่าการ้อง เป็นต้น

 

สำหรับ Porto Go ท่าจีน มุ่งตลาดทัวร์สายมู เนื่องจากเป็นพื้นที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปกราบไหว้ขอพรวัดดังย่านสมุทรสาคร ซึ่งมีวัดดัง อาทิ วัดใหญ่จอมปราสาท วัดเกตุม วัดกาหลง เกจิชื่อดังของตี๋ใหญ่ และแวะไหว้วัดค่ายบางกุ้ง เป็นจุดที่นิยมเดินทางไปขอเลขเด็ด เป็นต้น

“Porto Go มีเป้าหมายในการเป็นจุดพักรถที่ดีที่สุด และตอบโจทย์นักเดินทางยุคนิว นอร์มอล สู่การนำพาพันธมิตรให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน”

ภาพรวมในครึ่งปีแรก มีกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในไลฟ์สไตล์มอลล์ 3 ศูนย์ได้แก่ Porto Chino และ Porto Go 2 สาขา ทั้งที่บางปะอินและท่าจีน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนกว่า 1 ล้านคัน แบ่งเป็น Porto Chino 3.72 แสนคัน Porto Go บางปะอิน 5.40 แสนคัน และ Porto Go ท่าจีน 2.43 แสนคัน โดย Porto Go ทั้ง 2 สาขา มีนักท่องเที่ยวและนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพิ่มกว่า 80% จากช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ถือว่ากลับมาใกล้เคียงก่อนช่วงโควิดแล้ว

ทั้งนี้ประเมินว่าในปี 66 ยอดทราฟฟิกโตเพิ่ม 100% ทั้งจากกลุ่มทัวร์สายมูทั้ง 2 เส้นทาง นักท่องเที่ยวและคนทั่วไป