ประสบการณ์ใหม่! เซ็นทรัล ปั้น ‘C-Verse’ โลตัสชูร้านไร้พนักงาน เอาใจขาช้อป

ประสบการณ์ใหม่! เซ็นทรัล ปั้น ‘C-Verse’ โลตัสชูร้านไร้พนักงาน เอาใจขาช้อป

พฤติกรรมชอปปิงและความต้องการของผู้บริโภคไม่เคยหยุดนิ่ง “บิ๊กค้าปลีก” เดินหน้าพัฒนาโมเดลธุรกิจ แพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้า ควบคู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ก้าวสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัว

“เซ็นทรัล รีเทล” ค้าปลีกเบอร์ 1 ของเมืองไทย นอกจากมีหน้าร้านครอบคลุมพื้นที่ทั้งในไทยและต่างประเทศ ยังนำเทคโนโลยีมายกระดับการช้อปภายใต้ยุทธศาสตร์ CRC Retailligence มุ่งสู่ผู้นำ Next-Gen Omni Retailer แห่งเอเชีย ล่าสุดเปิดโปรเจกต์ CRC Immersive Retail Platform ที่เตรียมลงทุน “หลายพันล้านบาท” ในระยะ 5 ปี เพื่อเสริมแกร่งอาณาจักรชอปปิง

ณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจพาณิชย์ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ฉายภาพว่า ภายใต้โปรเจกต์ใหญ่ CRC Immersive Retail Platform บริษัทได้เปิดตัวแอปพลิเคชันแรก “C-Verse” แพลตฟอร์มค้าปลีกเสมือนจริงแห่งแรกของโลกผสานกับช่องทางหน้าร้านหรือ Physical และ Virtual Store ออนไลน์ เพื่อให้บริการและมอบประสบการณ์ชอปปิงใหม่แก่ลูกค้า

โดย C-Verse เริ่มให้บริการที่ “ท็อปส์ คลับ” แห่งแรก เนื่องจากมีเพียง 1 สาขา ทำให้ลูกค้ายังเข้าถึงได้ไม่ง่ายนัก ด้านรูปแบบสินค้ายังมีขนาดใหญ่ เหมาะแก่การส่งถึงบ้าน จากนั้นจะต่อยอดไปสู่สินค้ากลุ่มความงาม กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ของแต่งบ้าน และยังมีแผนขยายไปยังห้างสรรพสินค้า “รีนาเซนเต” ประเทศอิตาลี เชื่อมการช้อปไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก

“วิชั่นของซีอาร์ซีต้องการเป็นผู้นำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าในการชอปปิงผ่านโลกเสมือนจริงหรือ Immersive ออฟไลน์หน้าร้าน ออนไลน์ และ Virtual Store แอปพลิเคชันต่างๆ เชื่อมทุกช่องทางแบบไร้รอยต่อตามเป้าหมายการเป็น Next-Gen Omnichannel”

ประสบการณ์ใหม่! เซ็นทรัล ปั้น ‘C-Verse’ โลตัสชูร้านไร้พนักงาน เอาใจขาช้อป ณัฐธีรา บุญศรี

C-Verse ตั้งเป้าหมายมียอดมีผู้ดาวน์โหลดแอป 3 หมื่นดาวน์โหลดภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งผู้จะใช้งานแอปดังกล่าวต้องเป็นสมาชิกบัตร “เดอะ วัน” ที่ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 20 ล้านราย

นอกจากนี้ ต้องการผลักดันให้ยอดขายช่องทาง Personal Shopper ของซีอาร์ซี เติบโตเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันสัดส่วน 10%

“เป้าหมายของ C-Vesre ไม่ใช่แค่ยอดดาวน์โหลดแอป ความสำเร็จด้านยอดขาย หรือ เอนเกจสินค้า แต่ต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิงโลกเสมือนจริง ซึ่งการพัฒนา C-Verse ในโปรเจกต์ CRC Immersive Retail Platform จะลงทุนต่อเนื่องหลายพันล้านบาท”

จุดเด่นของ C-Verse ดูสินค้าได้ 360 องศา เทียบชอปปิงในโลกเสมือนจริงอื่นๆ เมื่อซื้อสินค้า 1 ชิ้น ชำระเงินจะต้องออกจากเวิร์ส แล้วไปช้อปบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่อ และเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ช้อปได้ทั้งหน้าร้านและโลกเสมือนได้พร้อมกัน

ประสบการณ์ใหม่! เซ็นทรัล ปั้น ‘C-Verse’ โลตัสชูร้านไร้พนักงาน เอาใจขาช้อป สมาชิก "เดอะวัน" ดาวน์โหลด C-Verse สร้างอวตารไปช้อปโลกเสมือนจริงได้แล้วที่ "ท็อปส์ คลับ" แห่งแร

โกวินทร์ กุลฤชากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายนวัตกรรม เซ็นทรัล รีเทล ดิจิทัล กล่าวว่า กล่าวว่า เซ็นทรัล มุ่งเสาะหาทุกประสบการณ์ชอปปิงเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการซื้อสินค้าที่หลากหลาย 

“การเปิดตัว C-Verse แอปชอปปิงโลกเสมือนจริง มีความท้าทายคือเทรนด์ เพราะที่ผ่านมา เมตาเวิร์ส กระแสแผ่วลง แต่เมื่อแออ๊ปเปิ้ลเปิดตัวแว่นตา Apple Vision Pro ช่วยปลุกกระแสกลับมาอีก”

สำหรับการใช้งาน C-Verse ลูกค้าเดินชอปปิงบนโลกเสมือน ผ่าน “อวตาร” ดูสินค้าได้ทุกมิติ กดเลือกสินค้าลงตะกร้า ชำระเงิน มีบริการจัดส่งถึงบ้านใน 1-2 วัน แอปยังมีฟีเจอร์ เช่น AI แชทบอทกับน้อง Annie ตอบทุกคำถาม เบื้องต้นมีสินค้า 600-800 รายการ จากท็อปส์ คลับ ที่มีสินค้า 3,000 รายการ สินค้าไฮไลท์ เช่น โซนแคมป์ปิ้ง มีอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง “พะพราว” ให้ข้อมูลสินค้า  

ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หัวเว่ย ได้นำโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เช่น 5G ระบบคลาวด์ และดาต้า เซ็นเตอร์ มาช่วยเสริมแกร่งแอปฯ C-Verse ซึ่งการช้อปในโลกเสมือนจริง ต้องใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง การรับส่งข้อมูลไม่หน่วง

ประสบการณ์ใหม่! เซ็นทรัล ปั้น ‘C-Verse’ โลตัสชูร้านไร้พนักงาน เอาใจขาช้อป โลตัส ผุดร้านอัจฉริยะ ไร้พนักงาน

ขณะที่ยักษ์ใหญ่ “โลตัส” พัฒนาโมเดลร้านค้าปลีกอัจฉริยะแบบไร้พนักงานแห่งแรก ที่ลูกค้าสามารถหยิบสินค้าและเดินออกได้เลย มนตร์ชัย อินทรพรอุดม ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาการปฏิบัติการธุรกิจโลตัส กล่าวว่า สาขารูปแบบใหม่ “Lotus’s Pick & Go by True Digital” ร้านค้าอัจฉริยะแบบไร้พนักงานครั้งแรกในไทย ใช้ระบบ AI บริหารจัดการแบบเต็มรูปแบบทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ชอปปิงแบบใหม่ เป็นสาขาเดี่ยวมีขนาด 30 ตร.ม. ตั้งอยู่ติด “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” มีสินค้า 400 รายการ ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว 90% และสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันอีก 10%

สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการจะต้องมีแอป “TrueMoney Wallet” และมีเงินในระบบขั้นต่ำ 200 บาท เมื่อเข้ามาในร้านจะต้องเปิดแอป และสแกนที่หน้าประตูทางเข้า จากนั้นเลือกซื้อสินค้าในร้าน เสร็จแล้วเดินออกได้ทันที แต่หากลูกค้าต้องการใบเสร็จ ก็สามารถเปิดแอป และสแกนที่หน้าจอตรงประตูทางออกเพื่อรับใบเสร็จที่จะมีการส่งให้ทางอีเมล 

โดยเฉลี่ยลูกค้าใช้เวลาในร้าน เลือกซื้อสินคาและจ่ายเงิน ทั้งหมด 1 นาทีเท่านั้น รองรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวก ซื้อสินค้าอย่างเร่งด่วน ไม่มีเวลาเข้าไปในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่”

การพัฒนาระบบใหม่นี้ มาจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) ในการพัฒนาแพลตฟอร์มค้าปลีกอัจฉริยะ ในชื่อ ทรู เวอร์โก เอไอ (True Virgo AI) เป็นการสร้างโมเดลค้าปลีกรูปแบบใหม่ สู่ RetialTech พลิกโฉมค้าปลีกของไทย ซึ่งในปีนี้โลตัสมีแผนเปิดโมเดล “Lotus’s Pick & Go by Digital” อีก 1 สาขา ในทำเลหรือสาขาของโลตัสเน้นพื้นที่ใกล้โรงเรียนหรือสำนักงาน และศึกษาการเปิดในหลากหลายรูปแบบต่อไป

ประสบการณ์ใหม่! เซ็นทรัล ปั้น ‘C-Verse’ โลตัสชูร้านไร้พนักงาน เอาใจขาช้อป

“ร้านค้าปลีกแบบไร้พนักงานที่ใช้ระบบ AI เต็มรูปแบบ ถือเป็นมิติใหม่ของวงการค้าปลีกของไทย ในภูมิภาคเอเชีย มีในประเทศจีน และยุโรป ซึ่งในไทยถือว่ามีระบบการคิดเงินที่ใช้ AI มีความรวดเร็วมาก และระบบบริหารร้านที่มีประสิทธิภาพสูงไม่แพ้ประเทศอื่น”

การพัฒนาโมเดลใหม่ของโลตัส สานเป้าหมายสู่การเป็น Smart community center โดยปี 2566 จะมีการปรับโฉมสาขาให้อยู่ในรูปแบบใหม่นี้ 10-15 สาขา อาทิ ลาดพร้าว บางกะปิ และสระบุรี รวมถึงสาขา เดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่จะเปิดบริการปลายปีนี้

ปีนี้โลตัสมีแผนเปิดสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 2-3 สาขา โลตัส โกเฟรช 100-150 สาขา รวมถึง “Lotus’s Pick & Go by True Digital” ภายใต้งบลงทุนรวม 12,000 ล้านบาท ปัจจุบันโลตัสมีสาขารวม 2,300 สาขา

เอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแพลตฟอร์มค้าปลีกอัจฉริยะ ทรู เวอร์โก เอไอ (True Virgo AI) ได้ใช้เทคโนโลยี AI มาบริหารจัดการร้านเต็มรูปแบบ แต่จะมีพนักงานเข้ามาเติมสินค้าที่หมดด้วยระบบเตือนผ่านแอป ในร้านยังได้จัดทำชั้นวางสินค้าที่เป็นป้ายราคาระบบดิจิทัลปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงที ในร้านมีกล้องอัจฉริยะ 38 ตัวและกล้องที่ติดตั้งตามตู้จัดวางสินค้าอีก 28 ตัว ทำให้บริหารจัดการร้านได้มีประสิทธิภาพสูงสุด