สสว. ผนึก สทท. ชูโครงการ SME Restart 2566 ดันเอสเอ็มอีสู่ 'ท่องเที่ยววิถีใหม่'

สสว. ผนึก สทท. ชูโครงการ SME Restart 2566 ดันเอสเอ็มอีสู่ 'ท่องเที่ยววิถีใหม่'

‘สสว.’ จับมือ ‘สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย’ (สทท.) ขับเคลื่อนโครงการ “SME Restart 2566” เตรียมพร้อม SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เชื่อมโยงชุมชน สร้างรายได้แบบยั่งยืน คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 500 ล้าน

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “SME Restart 2566” ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ว่า โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นเรื่องการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการกลุ่มท่องเที่ยว 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ใน 10 พื้นที่ เชื่อมโยงกับชุมชน 15 ชุมชน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,000 รายพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์วิถีการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท

นายวีระพงศ์ กล่าวว่า ในปี 2564 สสว. และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้ร่วมกันจัดโครงการ SME Restart เพื่อ Upskill Reskill ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ภูเก็ต พังงา และสุราษฎร์ธานี กว่า 1,000 รายให้มีความพร้อมต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวในยุคนิวนอร์มอล (New Normal) จนเป็นให้เกิด Phuket Sandbox Model ที่เป็นต้นแบบในการเปิดประเทศอย่างปลอดภัยและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก

โดยในปีนี้ สสว. ได้ร่วมกับ สทท. อีกครั้งจัดโครงการ SME Restart 2566 โดยมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทรานส์ฟอร์ม (Transform) ธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านสินค้า การตลาดและเทคโนโลยี ควบคู่กับการเติบโตอย่างยั่งยืน และเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวไปยังชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมกระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วประเทศ ตามแนวคิด “เตรียมพร้อม SME สู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เชื่อมโยงชุมชนสร้างรายได้แบบยั่งยืน”

สสว. ผนึก สทท. ชูโครงการ SME Restart 2566 ดันเอสเอ็มอีสู่ \'ท่องเที่ยววิถีใหม่\'

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวเสริมว่า จากความสำเร็จของ SME Restart 2564 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศได้แจ้งความจํานงค์มาที่ สทท.ว่า อยากให้มีการจัดกิจกรรมดีๆ เช่นนี้อีกทั่วประเทศ ทีมงาน สทท. เราจึงได้เดินทางร่วมกับผู้บริหาร สสว. ไปทั่วประเทศเพื่อท่า Focus Group สอบถามถึงความต้องการของผู้ประกอบการว่าสนใจที่จะปรับตัวในเรื่องใด และได้ข้อสรุปว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวยุคนี้ ต้องการพัฒนาใน 3 เรื่อง คือ Smart Tourism, Green Tourism และ Wellness Tourism 

ดังนั้น SME Restart 2566 นี้จึงมีการจัดกิจกรรมทั้งหมดใน 10 พื้นที่ คือ นครราชสีมา อุดรธานี ชลบุรี เชียงใหม่ พิษณุโลก นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ตประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ และมีการเชื่อมโยงไปยังชุมชนที่โดดเด่นในเรื่อง BCG / SDG และ Wellness Tourism ไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง เพื่อที่จะต่อยอดให้ผู้ประอบการและชุมชน มีกลยุทธการบริหารและตลาดที่ Smart มีการเล่าเรื่องที่ดีและต่อยอดไปสู่การเป็น Virtual Tourism ที่สามารถประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวไปยังกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้อย่างน่าสนใจ

นายวีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังการฝึกอบรม จะมีการหา Workshop การเชื่อมโยงธุรกิจ (Business Collaboration) และพัฒนาเชิงลีกให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว 15 กลุ่ม โดยดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น การปรับรูปแบบธุรกิจ (Business Model) การพัฒนาการเล่าเรียง (Storytelling) การสร้าง Digital Content การประสานเครือข่ายธุรกิจแบบ B2B และการท่องเทียวบนโลกเสมือน (Virtual Tour) 

ทั้งนี้เพื่อสร้างต้นแบบกลุ่มท่องเที่ยวธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน และจัดทำต้นแบบทางธุรกิจ (Success Case) ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ โดยคาดว่า เมื่อผู้ประกอบการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการประกอบธุรกิจ จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท 

สสว. ผนึก สทท. ชูโครงการ SME Restart 2566 ดันเอสเอ็มอีสู่ \'ท่องเที่ยววิถีใหม่\'