เจาะมาสเตอร์แพลน 'ไร่สุวรรณ' รีโนเวทใหญ่เพิ่มสินค้า ขยายพันธมิตร

Key Points

• เจาะมาสเตอร์แพลน ไร่สุวรรณ แบรนด์เรือธงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
• ปี 2566 ปรับรีโนเวทพื้นที่ใหญ่ เพิ่มกำลังการน้ำนมข้าวโพดในรอบ 10 ปี 
• ขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่ดึงท่องเที่ยวเชิงเกษตร 
• รุกขยายพันธมิตรกาแฟพันธุ์ไทย ส่งน้ำนมข้าวโพดตีตลาดกาแฟ

“ไร่สุวรรณ” ตำนานร้านขายปลีกข้าวโพดที่อยู่โด่งดังคู่ปากช่อง จ.นครราชสีมา มายาวนาน ก่อตั้งโดย ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่สุวรรณ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้คิดค้นพันธุ์ข้าวโพดหวานอินทรี 2 ที่ให้ความหวานจากธรรมชาติโดยเฉลี่ย 14.5 องศาบริกซ์ รสชาติหวาน นุ่ม หอม เมื่อนำไปแปรรูปน้ำนมข้าวโพดจะมีรสชาติหอมหวานที่พิเศษและโดดเด่น แตกต่างจากน้ำนมข้าวโพดที่อื่นๆ จึงได้รับความนิยมยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน

 

“รศ. ดร.ธานี ศรีวงศ์ชัย” คณบดี คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยอธิการบดีได้มีนโยบายจัดทำมาสเตอร์แพลนในการปรับปรุง “ไร่สุวรรณ” ครั้งใหญ่ ซึ่งจะพลิกโฉมพื้นที่ร้านใหม่ให้สวยงามขึ้น ดึงร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาเสริมในพื้นที่ และการจัดทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการและท่องเที่ยว

“ทำเลยุทธศาสตร์ของไร่สุวรรณ บริเวณปากช่อง กม.115 เป็นจุดกึ่งกลาง ทำให้ทุกคนสามารถเข้ามาแวะพักเมื่อเดินทาง กลายเป็นสถานที่สำคัญ และการมีสินค้ายอดนิยมอย่างน้ำนมข้าวโพดเป็น ดึงดูดทุกคนให้แวะเมื่อเดินทางผ่านทุกครั้ง”

“รศ. ดร.ธานี ศรีวงศ์ชัย” คณบดี คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

การปรับโฉมไร่สุวรรณครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี 

การปรับโฉมพื้นที่จะมีการจัดทำ "ตลาดชุมชน" ในช่วงวันศุกร์และเสาร์ อาทิตย์ เพื่อดึงร้านค้าในชุมชน นำผลผลิตทางการเกษตร และผลิตทางการเกษตรจากพื้นที่รอบมาจำหน่ายเป็นตลาดชุมชน พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างร่วมมือกับเครือข่าย สถานีวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ นำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่าย

ทั้งจากสถานวิจัยทับกวาง ภาควิชาสัตวบาล ที่มีการแปรรูปผลิตจากเนื้อสัตว์ไปสู่ เบอร์เกอร์รสชาติสุดพิเศษ และในระยะต่อไป อาจมีเมนูกลุ่มสเต็ก สถานีวิจัยปากช่อง มีผลผลิตกล้วยนำมาแปรรูป สถานีวิจัยเพชรบูรณ์ ที่ผลิตผลิตภัณฑ์กาแฟ ช็อกโกแลต และสถานีวิจัยดอยปุย ที่แปรรูปผลิตภัณฑ์จากสตรอเบอรี่ มาร่วมจัดเป็น "ฟู้ดทรัค" จำหน่ายสินค้าในพื้นที่เช่นกัน

“ไร่สุวรรณมีสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มเป็นหลัก แต่ยังไม่มีสินค้าในกลุ่มอาหารและขนมขบเคี้ยว การเพิ่มกลุ่มอาหารใหม่จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้เข้ามารับประทานอาหารในพื้นที่มากขึ้น”

อีกสิ่งที่ดำเนินการควบคู่กัน นั่นคือ การจัดกิจกรรมในไร่สุวรรณอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นนำผลงานวิจัยจากสถานีวิจัยภายใต้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาร่วมนำเสนอ และการสาธิตผลผลิตทางการเกษตร ส่วนบริเวณโดยรอบของพื้นที่ยังมีการปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล เพื่อให้ลูกค้าได้ถ่ายรูป พร้อมกันนี้จะมีการขยายพื้นที่จอดรถอีก 20%

แผนการปรับโฉมพื้นที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีนี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้

ขณะเดียวกันมีแผน เพิ่มกำลังการผลิตของน้ำนมข้าวโพดใหม่ขึ้นอีก 1 เท่าตัว จากปัจจุบันผลิตได้วันละ 8,000-10,000 ขวด จะเพิ่มเป็นผลิตที่ 20,000 ขวดต่อวัน ในกลุ่มผลิตพาสเจอร์ไรส์เป็นหลัก คาดเริ่มผลิตได้ในเดือน พ.ย.หรือไม่เกินช่วงสิ้นปี 2566 คาดงบลงทุนเบื้องต้นทั้งในส่วนของโรงงานและการปรับโฉมใหม่ไร่สุวรรณหลายสิบล้านบาท

การปรับโฉมร้านไร่สุวรรณใหม่ใหม่ครั้งนี้ นับเป็นการปรับใหญ่ในรอบเกือบ 10 ปี หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2508 ที่มหาวิทยาลัยเริ่มเข้ามาบริหารพื้นที่ ต่อมาเริ่มมีการวิจัยปลูกข้าวโพด และเริ่มจำหน่ายข้าวโพดต้มด้วยการจัดทำเป็นซุ้มในช่วงแรก หลังจากนั้นมาเริ่มผลิตน้ำนมข้าวโพด และขยายสู่การสร้างโรงงานเล็กๆ เมื่อพบว่าลูกค้าสนใจมากขึ้น ได้เริ่มขยายทำโรงงานขนาดใหญ่ในปี 2557 บริเวณหลังร้าน ทำให้ได้ความสดใหม่และรสชาติที่อร่อย

การปรับเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานก็เป็นการปรับครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 10 ปีเช่นกัน

การดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ร่วมท่องเที่ยวเชิงเกษตร 

ไร่สุวรรณโฉมใหม่และกิจกรรมเชิงรุก จะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาใช้บริการ โดยเฉพาะ “คนรุ่นใหม่” ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงการเกษตร จากในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเป็น กลุ่มคนทำงานขึ้นไป และกลุ่มครอบครัวที่พาลูกเดินทางท่องเที่ยว

โดยช่วงวันธรรมดาไร่สุวรรณ มีลูกค้าใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 คน ส่วนวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็น 30,000-40,000 คน ยิ่งหน้าเทศกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีนักท่องเที่ยวจะไปเขาใหญ่จำนวนมาก!

การนำน้ำนมข้าวโพดไปสู่เครื่องดื่มกาแฟ รุกร้านกาแฟพันธุ์ไทย 

“รศ.ดร.ธานี” กล่าวต่อว่า นอกจากช่องทางจำหน่ายสินค้าหลักผ่านที่ไร่สุวรรณ ปากช่อง ยังมีร้านของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ในชื่อ “The Premium @KU” พร้อมกันนี้มีแผนจะขยายช่องทางจำหน่ายของผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวโพดในช่องทางใหม่ๆ และสนใจนำผลผลิตทางการเกษตรของไร่สุวรรณไปต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงการนำผลงานวิจัยของผลิตภัณฑ์ไปขยายตลาดเพิ่มเติมผ่านการร่วมมือกับภาคเอกชน 

ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับร้านกาแฟ “กาแฟพันธุ์ไทย” โดย บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) นำน้ำนมและเมล็ดข้าวโพดจากไร่สุวรรณ มาเป็นส่วนผสมในเมนูเครื่องใหม่ 3 เมนูในร้านกาแฟพันธุ์ไทยได้แก่ โพดลาเต้ โพดชาเขียว และโพดโกโก้ นับเป็นครั้งแรกที่นำข้าวโพดไปเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มกาแฟ จึงเป็นการช่วยขยายผลผลิตทางการเกษตรอีกทาง

“มหาวิทยาลัยไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในด้านการตลาด แต่หากมีภาคเอกชนมาร่วมมือ และต่อยอดงานวิจัย จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้อีกมาก ซึ่งพร้อมที่จะเปิดรับภาคเอกชนเข้ามาร่วมมือต่อเนื่อง”

พร้อมกันนี้ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ในการสนับสนุนการศึกษา ส่งเสริมงานวิจัย พัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมต่างๆ ร่วมถึงร่วมสนับสนุนช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรของมหาวิทยาลัย ผ่านร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ ทั้งสถานีบริการน้ำมันพีที ร้านกาแฟพันธุ์ไทย และร้านสะดวกซื้อ แมกซ์มาร์ท ทั่วประเทศ

“การปลูกพันธุ์ข้าวโพดหวานอินทรี 2 เป็นการร่วมมือกับเกษตรกรในพื้นที่ปลูก โดยในปัจจุบันมีความร่วมมือแล้วกว่า 100 ราย ที่จะรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและมีการรับประกันราคาสินค้าไว้ ดังนั้นหากมีการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้น จะเป็นผลการช่วยเกษตรกรอีกทาง และมีโอกาสขยายพื้นที่ปลูกใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต”