เปิดแผน ‘ยัสปาล’ หนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่ระดับโลก

เปิดอาณาจักร "ยัสปาล" (JASPAL) ที่มีเส้นทางการดำเนินธุรกิจสินค้าแฟชั่นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมายาวนานกว่า 70 ปี โดยมีแบรนด์ภายใต้การบริหารรวม 19 แบรนด์ และมีกลุ่มสินค้าที่นอนและเครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้ Inhouse Brand และ Import Brand รวม 6 แบรนด์

การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ ยัสปาล ล่าสุดในปี 2566 ได้ประกาศแผนเตรียมเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น 

 

นายจรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน)  หรือ JPC กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ "การจะเป็นผู้นำในธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ เพื่อนำความสุขที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้คนนับล้านทั่วโลก" จึงมุ่งสร้างสรรค์สินค้าแฟชั่นและบริการ ที่มุ่งออกแบบและผลิตด้วยการใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อร่วมสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่จดจำและให้ทุกคนทั่วโลกเข้าถึงได้ พร้อมวางเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ชั้นนำ รวมถึงมุ่งสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยให้เป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นระดับโลก

ทั้งนี้จากข้อมูลรายงานภาวะอุตสาหกรรมของ Euromonitor International บริษัทถือเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจสินค้าแฟชั่นของภูมิภาคอาเซียนและเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าในไทย 

จรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัสปาล

ภาพรวมกลุ่มธุรกิจของบริษัท เป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหาและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ มีทั้งแบรนด์ที่กลุ่มบริษัทเป็นเจ้าของ (Inhouse Brand) และแบรนด์ที่กลุ่มบริษัทได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือได้รับสัญญาแฟรนไชส์ หรือ ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Import Brand) จำนวนรวมกว่า 19 แบรนด์ ได้แก่ Jaspal (ยัสปาล), Misty Mynx (มิสตี้ มิงซ์), CC Double O (ซีซี ดับเบิ้ลโอ), CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์), Lyn (ลิน), Lyn Around (ลิน อะราวนด์), Fred Perry (เฟร็ด เพอร์รี่), Diesel (ดีเซล), Superdry (ซุปเปอร์ดราย) เป็นต้น

สำหรับกลุ่มสินค้าแฟชั่น รวมจำนวนสินค้ามากกว่า 113,000 SKUs มีสินค้าทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางและแว่นตา เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ผลิตจัดหาและจำหน่ายที่นอนและเครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้ Inhouse Brand และ Import Brand รวม 6 แบรนด์ มีจำนวนสินค้ากว่า 21,500 SKUs ภายใต้แบรนด์ SANTAS, SANTAS Home, Stevens, Sealy, Tempur  และ Ethan Allen ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม 

ขณะที่ช่องทางจำหน่ายสินค้า มีทั้งสาขาและจุดจำหน่ายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า รวม 462 สาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผ่านช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างๆ ส่วนกลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน มีช่องทางจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ สาขาหน้าร้านและจุดจำหน่ายในศูนย์การค้ามากกว่า 508 แห่ง การขายงานโครงการ และการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ  

ขณะที่แผนการเสนอการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น และได้มีการแต่งตั้ง บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะสานต่อพันธกิจการเป็นผู้นำธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับสากล พร้อมร่วมยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก