AWC ตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม สืบสานดูแล 'ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว' ใน 'เดอะ ล้ง 1919'

AWC ตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม สืบสานดูแล 'ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว' ใน 'เดอะ ล้ง 1919'

'AWC' จัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม สืบสานการดูแล 'ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว' ภายใต้โครงการ 'เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น' โดยผลกำไรจะนำมาใช้ทำนุบำรุงศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ชูความมุ่งมั่นร่วมอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ และจิตวิญญาณของชุมชนอย่างยั่งยืน

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า หลังจาก AWC เข้ามาดำเนินการเช่าที่ดินริมน้ำประวัติศาสตร์ “ล้ง 1919” เมื่อปลายปี 2565 เพื่อพลิกโฉมพื้นที่ประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำที่ “เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น” ยกระดับกรุงเทพฯ สู่การเป็นจุดหมายปลายทางลักซ์ซัวรี่ระดับโลก ผ่านความร่วมมือกับแมริออท อินเตอร์เนชันแนล (Marriott International) ในการพัฒนาและบริหารโรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์ (The Ritz-Carlton Bangkok, The Riverside) ร่วมสร้างเป็นแลนด์มาร์กศูนย์สุขภาพริมน้ำในระดับสากล (The Integrated Wellness Destination) 

ล่าสุดในส่วนของศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ทาง AWC ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือบริษัท ศาลเจ้าแม่ หม่าโจ้ว จํากัด โดยตั้งเป้าดำเนินงานให้เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบริหารศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ภายใต้โครงการเดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น ให้เกิดการบริหารจัดการและดูแลศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว เพื่อให้ผู้คนที่นับถือได้เข้าเยี่ยมชมและกราบสักการะ โดยจะนำกำไรกลับมาอนุรักษ์และพัฒนาศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วต่อไป สอดคล้องความมุ่งมั่นของ AWC ในการอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ และจิตวิญญาณของชุมชนให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

“ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ของ ล้ง 1919 ซึ่ง AWC จะพัฒนาโครงการโดยยังคงอนุรักษ์คุณค่าของโครงสร้างอาคารเก่าทั้ง 4 อาคารไว้ ตลอดจนวัฒนธรรมท้องถิ่น สถาปัตยกรรมและศิลปะจีนโบราณอันทรงคุณค่า เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์ ควบคู่การสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน รวมถึงการส่งต่อวัฒนธรรมให้คนรุ่นต่อไปได้สักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจและที่นับถือของคนทั่วไป รวมถึงคนในชุมชนเพื่อความเป็นสิริมงคล

โดยในศาลเจ้ามีองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วประดิษฐาน 3 ปาง ได้แก่ 1) ปางเด็กสาว หรือ ปางจุ้ยบ๊วยเนี้ย จะประทานพรเรื่องการศึกษา คู่ครอง 2) ปางผู้ใหญ่ หรือ ปางให่ตั้งหม่า จะประทานพรเรื่องธุรกิจการค้า เงินทอง และ 3) ปางเทพ หรือ ปางเทียนโหวเชี่ยบ้อ จะประทานพรในเรื่องของสุขภาพ ความร่ำรวย” นางวัลลภา กล่าว

โดยที่ผ่านมา AWC ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาชุมชนโดยรอบพื้นที่ที่ดำเนินธุรกิจอยู่ เพื่อคุณภาพชีวิตชุมชนรอบข้างที่ดีขึ้น และได้จัดกิจกรรมประจำปีเพื่อสักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วร่วมกับคนในชุมชน อาทิ การกราบสักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว ขอพรเสริมสิริมงคลในช่วงเทศกาลตรุษจีน สารทจีน และวันไหว้พระจันทร์ เป็นต้น

และในปี 2565 บริษัทฯ ยังได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ณ เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำจาก บริษัท หวั่งหลี จำกัด เป็นระยะเวลาประมาณ 64 ปี ในการสร้างคุณค่าระยะยาวร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย

ทั้งนี้ “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” หรือ “เจ้าแม่ทับทิม” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่คู่กับท่าเรือ “ฮวย จุ่ง ล้ง” หรือท่าเรือ ล้ง1919 ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ.2393 (ค.ศ.1850) สมัยรัชกาลที่ 4 มาจนถึงปัจจุบัน นับระยะเวลารวมกว่า 170 ปี เป็นเทพอุปถัมภ์การเดินเรือทางทะเล อันเป็นเส้นทางการค้าขายในอดีต เมื่อคนจีนเดินทางจากโพ้นทะเลมาถึงฝั่งประเทศไทยก็จะมากราบสักการะท่านเพื่อรับพรและเป็นการขอบคุณที่ช่วยทำให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และเมื่อจะเดินทางกลับไปประเทศก็จะมากราบลาเจ้าแม่ที่นี่เช่นกัน

“เจ้าแม่หม่าโจ้ว” จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนที่มาทำการค้าจนเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลให้พื้นที่ ล้ง 1919 เชื่อมโยงไปถึงทรงวาดและเยาวราช นอกจากจะเป็นเทพที่คุ้มครองความปลอดภัยให้การเดินทางทางเรือแล้ว ยังเป็นเทพแห่งความมั่นคง และประสบความสำเร็จอีกด้วย ผู้คนจึงนิยมกันไปสักการะขอพรด้านการงานและความสำเร็จกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน