'บอส คอฟฟี่' ท้าชิงผู้นำกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียม เล็งโมเดล 'คาเฟ่' ต่อยอดโต

“ตลาดกาแฟ” มีทั้งในบ้านและนอกบ้าน หรือร้าน คาเฟ่ต่างๆ ทำให้มูลค่าใหญ่หลักหลายหมื่นล้านบาท

เจาะย่อยตลาดกาแฟพร้อมดื่ม(Ready to Drink : RTD)มีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท แน่นอนว่าหมวดใหญ่คือตลาดแมสราคา 10-12 บาท และเป็นรูปแบบกระป๋อง ซึ่งบิ๊กแบรนด์ครองตลาดอย่างแข็งแกร่ง ทั้ง “เนสกาแฟ” จากค่ายเนสท์เล่ และ “เบอร์ดี้” ของอายิโนะโมะโต๊ะ

ขณะที่กาแฟพร้อมดื่มเซ็กเมนต์ “พรีเมียม” แม้จะมีสัดส่วนน้อย เป็นตลาดเล็กมูลค่าหลัก “ร้อยล้านบาท” (ราว 500 ล้านบาท : กรุงเทพธุรกิจ) แต่การเติบโตเป็นอัตรา 2 หลักต่อเนื่อง

กาแฟพร้อมดื่มพรีเมียม เป็นสนามของ “ยักษ์ใหญ่” เช่นกัน หากสำรวจแบรนด์จะมีทั้ง "อาราบัส" จากค่ายดัชมิลล์ กับพันธมิตรจากเกาหลีโซล ฟู้ด แอนด์ เบเวอร์เรจ แบรนด์ “ยูซีซี โตเกียวคัปป้า” จากญี่ปุ่น “คาเฟ่ อเมซอน” จากโออาร์และบุญรอดบริวเวอรี่ ร่วมทุนกัน และยังมีกาแฟพร้อมดื่มบรรจุภัณฑ์กระป๋องที่ราคา 20 บาทขึ้นไปท้าชนด้วย เช่น เซกาเฟรโด เบอร์ดี้ บาริสต้า และ เนสกาแฟดริปทริปเปิลแบล็ค เป็นต้น

“บอส คอฟฟี่” เป็นอีกแบรนด์ที่ทำตลาดกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมเข้าขวบ 3 ปี เรียนรู้ เข้าใจตลาดและผู้บริโภคมากขึ้น ปี 2566 เห็นการขยับตัวทั้งปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ และ “สูตร” กาแฟให้เข้มข้น เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายชาวไทย

อนวัช สังขะทรัพย์

นายอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า บอส คอฟฟี่ เป็นกาแฟพร้อมดื่ม “เบอร์ 1” ในประเทศญี่ปุ่น ทำการตลาดยาวนาน 30 ปีแล้ว และมีสินค้าที่เสิร์ฟผู้บริโภคมากกว่า 300 รายการ(SKU) มีสินค้าสร้างสีสัน รับเทศกาลต่างๆตอบสนองกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

• 3 ปี เติบโตร้อนแรง!

3 ปีที่ผ่านมา “บอส คอฟฟี่” เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย สร้างผลตอบรับอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมาย ยอดขายมีการเติบโตสูง เช่น ปี 2565 โตแรง 300% และปี 2566 โต 120% (ม.ค.-มิ.ย.66)

ในญี่ปุ่น “บอส คอฟฟี่” คือ “ผู้นำ” อย่างแข็งแกร่ง เมื่อทำตลาดที่ไทย จึงวางเป้าหมายโตตามรอยแดนอาทิตย์อุทัย ปี 2566 จึงเห็นการติดอาวุธให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง มุ่งสร้างแบรนด์ควบคู่มอบประสบการณ์ให้กลุ่มเป้าหมาย

กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย 1. มุ่งเน้นการยกระดับภาพลักษณ์ของ บอส คอฟฟี่ จากกาแฟพร้อมดื่มสู่กาแฟสไตล์คาเฟ่ พร้อมดึง ฌอห์ณ จินดาโชติ และ 2 หนุ่มดูโอวง HYBS อย่าง เจมส์ – อลิน วี และกานต์ – กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ พรีเซนเตอร์คู่แรก 2.มุ่งสร้างโอกาสใหม่ๆ เพิ่มการบริโภคผ่านแคมเปญ ‘บัดดี้เพื่อทุกเช้าดีดี กับบอส คอฟฟี่’ จับมือร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นออกเมนูจับคู่กาแฟพร้อมดื่ม “บอส คอฟฟี่” กับแซนวิชยอดฮิต “Ezy Taste”

นอกจากนี้ ยังเปิดตัว “บอส คาเฟ่” แห่งแรกของเมืองไทย ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ให้บริการวันนี้ถึง 31 ส.ค.66 เพื่ออัพเกรดกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียม สู่การครีเอทเมนูในคาเฟ่ ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่ 2 ของโลก ต่อจากออสเตรเลีย ที่ลุยโมเดลดังกล่าว

“การเปิดบอส คอฟฟี่ ยังเป็นการศึกษาโมเดลธุรกิจ เพื่อขยายร้านต่อในอนาคต รับไลฟ์สไตล์คาเฟ่ ฮอปเปอร์ด้วย”

• ต้องการโต “เท่าตัว” ใน 3 ปีข้างหน้า

ทำตลาด 3 ปี บอส คอฟฟี่ ยังปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่ให้โดดเด่นและพรีเมียมยิ่งขึ้น ที่สำคัญฉลากมีการนำเทคนิคการสกัดผ่านกรรมวิธี แฟลช บริว (Flash Brew) เคล็ดลับเฉพาะของบอส คอฟฟี่ มาสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคด้วย เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ยังปรับ “สูตรกาแฟ” เพิ่มความเข้มของรสสัมผัสของกาแฟให้เด่นชัดขึ้น

“บอส คอฟฟี่ ในไทยต้องตามรอยญี่ปุ่นเพื่อเป็นเบอร์ 1 ไหม เบื้องต้นเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า เราต้องการเติบโตเท่าตัว ส่วนปีนี้วางเป้าหมายเติบโต 20-30%”

กลยุทธ์การทำตลาดสานเป้าดังกล่าว จะเห็นการนำสินค้าใหม่ๆ สร้างสรรค์รสชาติใหม่ เพื่อเสิร์ฟผู้บริโภค และเติมพอร์ตโฟลิโอให้หลากหลาย รวมถึงกาแฟพร้อมดื่มเจาะตลาด Mass ด้วย แต่ช่วงออกสตาร์ทนี้ ขอโฟกัสจุดแข็ง” ของบอส คอฟฟี่ ในการเสิร์ฟ กาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมก่อน

“ตลาดกาแฟพร้อมดื่มพรีเมียมยังเติบโตได้อีก จากผู้เล่นรายใหม่และใหญ่ที่เข้ามา”

ก่อนหน้านี้ตลาดมีผู้เล่นสำคัญ แต่ช่วงที่ผ่านมา “บางแบรนด์” ชะลอการทำกิจกรรมตลาด เน้นเพียงการจัดโปรโมชั่น กระตุ้นยอดขาย

• กุญแจความสำเร็จ “บอส คอฟฟี่” ในญี่ปุ่น

นายจูนิชิโร ทาคาตะ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ซันโทรี่ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า บอส คอฟฟี่ ในญี่ปุ่น มีผลิตภัณฑ์เสิร์ฟลูกค้ากว่า 300 รายการ แต่ละปีจะมีสินค้าใหม่เสริมทัพจำนวนมาก อย่าง 1-2 ปีที่ผ่านมา จะเห็น 70-80 รายการต่อปี ขณะที่สินค้าขายดี มี Craft Boss ซึ่งขายมากถึง 24 ล้านลังต่อปี

Nozomu Toyomura ผู้อยู่เบื้องหลังสินค้า 300 รายการ มา 20 ปี และ จูนิชิโร ทาคาตะ

ส่วนการเลือกสินค้ามาทำตลาดในไทย นำร่องบอส แบล็ก (BOSS Black)สูตรไม่มีน้ำตาล บอส อเมริกาโน่ (BOSS Americano) หวานน้อย เพราะรับเทรนด์สุขภาพที่เติบโต รวมถึง บอส ลาเต้ (BOSS Latte)

“เราเลือกสินค้ามาทำตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการหรือดีมานด์ของผู้บริโภคเป็นหลัก และพฤติกรรมการเลือกดื่มกาแฟพร้อมดื่มปราศจากน้ำตาล ที่กำลังเติบโต”

ขณะที่การเปิด “บอส คาเฟ่” ในไทยเป็นประเทศที่ 2 ของโลก ต่อจากออสเตรเลีย ที่เปิดไปต้นปี 2566 นอกจากมุ่งสร้างแบรนด์และประสบการณ์ให้ผู้บริโภค ยังรองรับกับบริบทของตลาดกาแฟที่มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องด้วย

“บริบทตลาดกาแฟเปลี่ยน มีคาเฟ่ ฮอปปิงเพิ่มขึ้น คนกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้าน อยากออกมาดื่มกาแฟนอกบ้าน แต่ Pain Point ผู้บริโภคที่ดื่มกาแฟในคาเฟ่ คือราคาสูง เราจึงนำเสนอเมนูจากกาแฟพร้อมดื่ม บอส คอฟฟี่ และยังจับคู่มื้อเช้า เพิ่มโอกาสบริโภคในกลุ่มวัยทำงานด้วย”