‘อำพลฟูดส์’ขยายฐานส่งออกบุกหนัก‘จีน’ ดัน‘มะพร้าวแปรรูป’รับเทรนด์สุขภาพ

‘อำพลฟูดส์’ขยายฐานส่งออกบุกหนัก‘จีน’  ดัน‘มะพร้าวแปรรูป’รับเทรนด์สุขภาพ

‘อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง’ ชี้โอกาสสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ กลุ่มอาหารพร้อมทานมาแรง ขนสินค้านวัตกรรมรุกงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 พร้อมส่งออกรุ่งสู่จีน ยกทัพสินค้าแปรรูปจากมะพร้าว เครื่องดื่มนมมะพร้าว กาแฟมะพร้าว รับกระแสชาวจีนนิยมสินค้าไทยสูง มุ่งสร้างธุรกิจโตแกร่ง

โลกยุคใหม่เน้นความสะดวกสบาย ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น นับเป็นเมกะเทรนด์โลกที่ “อำพลฟูดส์” นำมาตีโจทย์สู่กลยุทธ์พัฒนาสินค้าใหม่ที่นำมาเปิดตัวในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรสุดในเอเชีย  “THAIFEX-Anuga Asia 2023” ภายใต้คอนเซปต์ APF “The Growing up” อำพลฟูดส์แห่งการเติบโต นำเสนอสินค้าใหม่ที่ครองใจกลุ่มลูกค้าต่างชาติ สินค้าดาวรุ่งในตลาดจีน พร้อมกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีมาแรงที่ร่วมเป็นดิสทริบิวเตอร์

เกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ กลุ่มอำพลฟูดส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายกะทิ ชาวเกาะ กล่าวว่า เทรนด์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารที่กำลังมาแรงทั้งในตลาดไทยและตลาดโลกจะเป็นกลุ่มอาหารพร้อมทาน (Ready to eat) และกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคต่างให้ความสนใจดูแลสุขภาพ รวมถึงสนใจเลือกอาหารที่สะดวกมากขึ้น

จากเทรนด์ดังกล่าว ทำให้บริษัทได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดรับกับตลาดในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรสุดในเอเชีย ทั้ง “แบรนด์รอยไทย” แบรนด์เจ้าตำรับอาหารไทยที่สะดวกและอร่อย ที่นำเสนอสินค้ากลุ่มซอส ได้แก่ ซอสกะปิกุ้งเคยแท้ ซอสมะขาม ซอสกระเพรา และซอสปลาเค็ม เป็นต้น 

สำหรับแบรนด์ชาวเกาะ แบรนด์กะทิคู่ครัวไทย มาพร้อมสูตรใหม่ กะทิสูตรคั้นจากมะพร้าว  รวมถึงกลุ่มสินค้าที่กำลังมาแรงในตลาดต่างประเทศ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว เช่น นมมะพร้าว ที่ปัจจุบันชาวจีนนิยมมาก และผลิตภัณฑ์แพลนต์เบส (Plant based) ที่เป็นกระแสในทั่วโลก รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ป่วย พัฒนาภายใต้ศูนย์นวัตกรรมอำพลฟูดส์

‘อำพลฟูดส์’ขยายฐานส่งออกบุกหนัก‘จีน’  ดัน‘มะพร้าวแปรรูป’รับเทรนด์สุขภาพ

ในอีกบทบาทของ อำพลฟูดส์ ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า (ดิสทริบิวเตอร์) แบรนด์เอสเอ็มอีไทย ไปจนถึงแบรนด์ระดับโลก จากปัจจุบันมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ในเครือภายใต้การบริหารจัดการรวมกว่า 30 แบรนด์ เป็นแบรนด์ไทย 26 แบรนด์ และแบรนด์ระดับโลก อาทิ เครื่องดื่มรสนมกลิ่นผลไม้ตรา “ยังฟัน” โดย อีลี่ กรุ๊ป บริษัท นมอันดับหนึ่งเอเชีย “ขนมซูโม่ และวอยซ์” โดย บริษัท มอนเด นิสซิน จากประเทศฟิลิปปินส์ ล่าสุด “พาร์เล่” แบรนด์ขนมยักษ์ใหญ่จากประเทศอินเดีย ได้มานำเสนอในงานนี้เช่นกัน เพื่อตอกย้ำเส้นทางความสำเร็จของธุรกิจดิสทริบิวเตอร์

จุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจดิสทริบิวเตอร์มีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาติดต่อเนื่องมาจาก การมีเทคโนโลยีดิจิทัลแบบเรียลไทม์ รองรับการจัดทำวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ของกลุ่มลูกค้าและบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีและรวดเร็วแก่ลูกค้า โดยมีรถแคชแวนกว่า 500 คัน ประจำศูนย์กระจายสินค้า 80 ศูนย์ ครอบคลุมพื้นที่การขายกว่า 75%

‘อำพลฟูดส์’ขยายฐานส่งออกบุกหนัก‘จีน’  ดัน‘มะพร้าวแปรรูป’รับเทรนด์สุขภาพ

อย่างไรก็ดี จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา กระทบต่อตลาดส่งออกหลักทั้ง สหรัฐและยุโรป ทำให้บริษัทมองหาและขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะประเทศจีน! เป็นตลาดขนาดใหญ่มหาศาล คือเป้าหมายสำคัญ  ซึ่งปัจจุบันได้มีตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศจีน โดยมีกลุ่มสินค้าที่เข้าไปทำตลาดแล้ว อาทิ เครื่องดื่มมะพร้าว นมมะพร้าว และขนมทองม้วน  ได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าคนจีนมองมะพร้าวเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ

“ตลาดจีนไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และกลุ่มลูกค้าชาวจีนต่างให้ความชื่นชอบแบรนด์สินค้าที่มาจากไทย โดยเฉพาะ Made in Thailand ทำให้แบรนด์สินค้าของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีมาก”

‘อำพลฟูดส์’ขยายฐานส่งออกบุกหนัก‘จีน’  ดัน‘มะพร้าวแปรรูป’รับเทรนด์สุขภาพ

เกรียงศักดิ์ กล่าวถึงแผนรุกตลาดจีนในปี 2566 ว่า จะต่อยอดความสำเร็จจาก “มะพร้าว” สู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งเครื่องดื่มกาแฟมะพร้าวที่เป็น Cold brew coffee และครีมเมอร์ สามารถนำไปเป็นส่วนผสมเครื่องดื่มต่างๆ รองรับตลาดจีนที่กำลังเติบโต นอกจากนี้กำลังศึกษาแผนผลิต “นมมะพร้าวอัดเม็ด” คาดว่าจะเริ่มเห็นได้ในปี 2567

นอกจากตลาดจีนที่มีความน่าสนใจแล้ว อีกตลาดส่งออกสำคัญที่มีโอกาสสูงสำหรับอาหารไทย นั่นคือ ประเทศญี่ปุ่น พบว่ากลุ่มผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจอาหารไทยมากขึ้น  ทำให้กลุ่มสินค้าแบรนด์รอยไทย ที่มีเครื่องแกงพร้อมปรุงอาหารได้รับตอบรับที่ดี โดยเฉพาะเครื่องแกงเขียวหวาน 

‘อำพลฟูดส์’ขยายฐานส่งออกบุกหนัก‘จีน’  ดัน‘มะพร้าวแปรรูป’รับเทรนด์สุขภาพ

กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะมีการขยายตลาดญี่ปุ่นมากขึ้นนับจากนี้!

ส่วนกลุ่มธุรกิจซอสปรุงรสที่กำลังขยายตัวดีนั้น อำพลฟูดส์ เดินหน้าพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์จากซอสรายการใหม่ๆ เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถปรุงอาหารได้อย่างสะดวกที่สุด เช่น ซอสปรุงอาหารทำกุ้งอบวุ้นเส้น เป็นต้น เพียงใส่ซอสสร้างอาหารรสชาติที่ดี นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายรายการ

กลุ่มบริษัทอำพลฟูดส์ ผู้นำนวัตกรรมอาหารไทยที่มุ่งสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างไม่หยุดนิ่ง ตลอดกว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปทั้งในไทยและตลาดโลก โดยภาพรวมบริษัทในสิ้นปี 2566 คาดว่าจะสร้างยอดขายที่ 4,200 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน สัดส่วนมาจากตลาดในประเทศ 40%  ตลาดส่งออก 60% ซึ่งตลาดหลักจากเอเชีย 50% ตามด้วยยุโรป 30% สหรัฐ 10%  ส่วนที่เหลือเป็นประเทศอื่นๆ

‘อำพลฟูดส์’ขยายฐานส่งออกบุกหนัก‘จีน’  ดัน‘มะพร้าวแปรรูป’รับเทรนด์สุขภาพ