นับถอยหลัง 1 ปี 'ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิดตำนานบทใหม่ อวดสายตาคนทั่วโลก!

นับถอยหลัง 1 ปี 'ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิดตำนานบทใหม่ อวดสายตาคนทั่วโลก!

โปรเจกต์ยักษ์! มิกซ์ยูส “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่ารวมกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท ภายใต้การลงทุนของ “กลุ่มดุสิตธานี” ร่วมกับ “เซ็นทรัลพัฒนา” พลิกโฉมที่ดิน 23 ไร่ใจกลางกรุงเทพฯ ตรงหัวมุมถนนสีลมตัดกับพระราม 4 เตรียมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่!

หลังกลุ่มดุสิตธานี “กัดฟัน” เลือกระหว่างความทรงจำกับความสำเร็จ! ตัดสินใจปิด “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ” อายุ 5 ทศวรรษ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2562 รื้อทุบเพื่อสร้างขึ้นใหม่ พัฒนาเป็นโรงแรม อาคารสำนักงานให้เช่า ศูนย์การค้า เรสซิเดนส์ และสวนลอยฟ้า (Roof Park) รองรับเทรนด์การแข่งขันของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่วิ่งกรูเข้าหาไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

ล่าสุดเคาะฤกษ์เตรียมเปิดให้บริการโรงแรมเป็นเฟสแรก เดือน มิ.ย.2567 นับถอยหลังเพียง 1 ปีก็จะได้ยลโฉมใหม่ของ “โรงแรมระดับตำนาน” ในประเทศไทย ซึ่งถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2513 ตามภารกิจ (Mission) ของ “ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย” ผู้ก่อตั้งกลุ่มดุสิตธานี ที่ต้องการสร้างโรงแรมหรู Local Brand” รับการเติบโตของภาคท่องเที่ยวไทยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก หรือ Global Destination” อัดล้นไปด้วยเรื่องราวและความผูกพันของผู้คน

ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โฉมใหม่ระดับ 6 ดาว ความสูง 39 ชั้น จำนวน 250 ห้องพัก เป็นโรงแรมที่หลายคนตั้งตารอคอยการกลับมาอย่างมาก!

เพราะนอกเหนือจากการออกแบบห้องพักให้ทันสมัยและมีขนาดใหญ่ขึ้น ไฮไลต์คือสามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินีได้จากทุกห้อง ขณะเดียวกันเตรียมขนกลิ่นอายและความทรงจำมากมายมาผสมผสานกับโฉมใหม่ เช่น น้ำตกตรงล็อบบี้ ภาพวาด เสาศิลปากร เครื่องเบญจรงค์ และต้นลีลาวดีที่ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ได้ปลูกไว้

ด้านบอลรูมขนาดใหญ่ “ห้องนภาลัย” สามารถมองเห็นวิวสวนลุมฯ แบบพาโนรามา ขณะที่ “ยอดเสาสีทอง” สัญลักษณ์ดั้งเดิมของโรงแรมไม่หายไปไหน จะนำมาติดตั้งบนยอดตึก และเติมมิติด้วยการครอบยอดใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม 3 เท่า สร้างสีสันยามค่ำคืนด้วยการไลท์ติ้งแสงสี นอกจากนี้ยังมีรูฟท็อปบาร์และพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวของโรงแรมแห่งนี้อีกด้วย

นับถอยหลัง 1 ปี \'ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิดตำนานบทใหม่ อวดสายตาคนทั่วโลก!

ระยะเวลา 50 ปีของโรงแรมเดิมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกดปุ่ม Fast Forward” มาจนถึงทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในฐาน “หลักไมล์แรก” ของกลุ่มดุสิตธานีในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2491-2544 ที่มุ่งก่อร่างสร้างแบรนด์โรงแรม ก่อนก้าวสู่ “หลักไมล์ที่ 2” ตั้งแต่ปี 2544-2559 ปรับกลยุทธ์รับบริหารโรงแรมเพื่อขยายแบรนด์และธุรกิจในต่างประเทศ ควบคู่กับการขยายธุรกิจการศึกษาด้านโรงแรมและอาหาร

และ “หลักไมล์ล่าสุด” ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน กลุ่มดุสิตธานีเฟ้นกลยุทธ์ Balance, Expansion and Diversify” สร้างขาธุรกิจใหม่เพิ่มเป็น 4 ขาหลัก กระจายที่มาของรายได้เพื่อสร้างความสมดุล ครอบคลุมธุรกิจโรงแรม ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหมายมั่นปั้นโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค สู่การเป็น “แลนด์มาร์ก” แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

“ลำพังแค่โรงแรมเพียงองค์ประกอบเดียว ไม่สามารถรองรับความต้องการของไลฟ์สไตล์ผู้คนที่เปลี่ยนไป กลุ่มดุสิตธานีจึงลงทุนโครงการมิกซ์ยูสนี้ขึ้นมา รองรับความคาดหวังและการผสมผสานไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่มุ่งสร้างสมดุลแก่ชีวิต และเน้นความสะดวกสบายเป็นสำคัญ”

ส่วนองค์ประกอบอื่นที่โครงการฯ วางกำหนดเปิดให้บริการตามมาคือ “อาคารสำนักงานให้เช่า” และ “ศูนย์การค้า” ภายในปี 2568 ขณะที่ “เรสซิเดนส์” 2 แบรนด์ ได้แก่ ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ ตามแผนจะทยอยเริ่มโอนในช่วงปลายปี 2568 ปัจจุบันยอดขายอยู่ที่ระดับ 60% แล้ว คาดการณ์ว่าสิ้นปี 2566 จะมียอดขาย 70-75% จากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติหลังโลกเปิดเต็มรูปแบบ โดยสัดส่วนลูกค้าปัจจุบันเป็นชาวไทย 85% และต่างชาติ 15% จากทั้งจีน ฮ่องกง เมียนมา ญี่ปุ่น สหรัฐ รวมถึงยุโรป เตรียมโหมทำตลาดลูกค้าต่างชาติยิ่งขึ้น ตั้งเป้าขยับสัดส่วนลูกค้าต่างชาติให้ได้ 35% ตามคาดการณ์เดิม

“จากการสอบถามลูกค้าที่มาซื้อเรสซิเดนส์ นอกเหนือจากสุดยอดโลเกชันใจกลางกรุงแล้ว พบว่าปัจจัยที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อ คือความมั่นใจและไว้วางใจในแบรนด์และบริการแบบฉบับดุสิตธานี”

ขณะเดียวกัน พบว่าเทรนด์ “ชาวต่างชาติ” มาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยหลังผ่านยุคโควิด-19 เปลี่ยนไป เบนเข็มจากการลงทุนมาซื้อเพื่อ “อยู่อาศัยระยะยาว” (Long Term) มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีน รัสเซีย และยุโรป ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมทั้งเรื่องอาหาร การท่องเที่ยว บริการทางการแพทย์ และ “โรงเรียนนานาชาติ” เฉพาะในกรุงเทพฯมีโรงเรียนนานาชาติมากกว่า 100 แห่ง ค่าใช้จ่ายถูกกว่าสิงคโปร์มากถึง 30-40% ซึ่งเป็นจุดขายที่สามารถโน้มน้าวให้ชาวต่างชาติมาซื้อเรสซิเดนส์ในโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ได้

นับถอยหลัง 1 ปี \'ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิดตำนานบทใหม่ อวดสายตาคนทั่วโลก!

ละเอียด เล่าด้วยว่า รอคอยการเปิดเต็มรูปแบบของโครงการนี้อย่างมาก ด้วยปรัชญาการทำงานของเธอที่ถูกปรุงมาว่า “ไม่พูดเยอะ แต่ทำให้เห็น!” ให้ผลงานเป็นหน้าร้าน เดี๋ยวคนก็มาเห็นเอง

“โครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะเป็นแลนด์มาร์กระดับไอคอนิกของประเทศไทย ผสมผสานมรดกดั้งเดิมเมื่อ 50 ปีที่แล้ว กับมรดกใหม่ที่สามารถส่งต่อคุณค่าได้อย่างน้อยอีก 50 ปีข้างหน้า เมื่อก่อสร้างเสร็จ เราอยากโชว์ให้คนทั้งโลกเห็นว่านี่คือตัวแทนของอสังหาฯ ในเมืองไทย เป็นภาพจำใหม่ของกรุงเทพฯ เหมือนในฉากหนังที่เราเห็นตึกนี้แล้วรู้เลยว่า นี่แหละคือกรุงเทพฯ”