‘ซีพีเอฟจีเอส’ ปักหมุดศูนย์กลางอาหารโลก ยึดเวทีไทยเฟ็กซ์โชว์ศักยภาพ

กลับมาอีกครั้งสำหรับงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในภูมิภาคเอเชียหรือ THAIFEX – Anuga Asia 2023 ซึ่งบรรยากาศปีนี้ถือว่าผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่-เล็ก ตบเท้ากลับมาร่วมงานกันอย่างคึกคักกว่าปีก่อน ขานรับสถานการณ์ต่างๆเข้าสู่ภาวะปกติ เหมือนก่อนโควิด-19 ระบาด

“เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร” หรือซีพีเอฟ หนึ่งในบิ๊กเนมวงการอาหาร จัดเต็มอีกครั้งกับร่วมงานระดับโลก THAIFEX – Anuga Asia 2023 โดยผ่านบริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS พร้อมชูแนวคิด “RE-IMAGINE THE FUTURE FOOD” ตอบเทรนด์การบริโภคอย่างยั่งยืน

ภายในงานดังกล่าว “ซีพีเอฟจีเอส” ได้นำเสนอศักยภาพธุรกิจ สินค้าอาหารที่โดดเด่น สอดรับเทรนด์ตลาด รวมทั้งบอกเล่ายุทธศาสตร์ กลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจอาหารให้เติบโตอย่างยั่งยืน

สุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ CPFGS ฉายภาพบทบาทของ “ซีพีเอฟจีเอส” ที่เพิ่งแยกตัวหรือ Spin-Off จากซีพีเอฟ เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายอาหารในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งโครงสร้างของธุรกิจประกอบด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.การค้าในประเทศ ทำหน้าที่จำหน่ายสินค้าของ “ซีพีเอฟ” ทั้งหมดในรูปแบบ “เอ็กซ์คลูสีฟ ดิสทริบิวเตอร์” 2.การค้าต่างประเทศ นำสินค้าของซีพีเอฟไปจำหน่ายในต่างแดน ซึ่งปัจจุบันครอบคลุม 5 ทวีป ในตลาด 53 ประเทศทั่วโลก

3.ธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์เรือธง “ห้าดาว” และ “เชสเตอร์” และ 4.ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ที่เน้นจุดแข็งเสิร์ฟขนมขบเคี้ยวสัตว์หรือ เพ็ทสแน็กแบรนด์ “เจอร์ไฮ” เอาใจน้องหมา และ “จินนี่” ตอบโจทย์แมวเหมียว

เนื่องจากบริษัทมีสินค้าในพอร์ตโฟลิโอมากมายเพื่อทำตลาด และจำหน่ายให้กลุ่มเป้าหมาย แต่ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ได้นำสินค้า แบรนด์นำเข้าและส่งออกภายหลายรายการ มาแสดงต่อคู่ค้า พันธมิตร และจำหน่ายให้ผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่สด อาหารพร้อมรับประทานหลากหลายเมนู เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และกลุ่มเครื่องปรุงรสจากซีพี เป็นต้น

โดยผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเสนอยึงยึด 3 เสาหลัก ประกอบด้วย 1.นวัตกรรม (INNOVATION) ซึ่งซีพีเอฟจีเอส เชื่อว่าอาหารที่ดีคือการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดี อย่าง ไส้กรอกอกไก่พริกไทยดำแบรนด์ “CP FI-IT” เป็นการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาหารที่ทันสมัยผนวกกับหลักโภชนาการที่ถูกต้อง ให้โปรตีนสูง ไขมันและโซเดียมลดลงเป็นจุดเด่น “MEAT ZERO” ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช 100% ที่มีนวัตกรรม Plant-Tec เทคนิคการสร้างรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์จริง เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดอาหาร

2.สุขภาพ (WELLNESS) บริษัทให้ความใส่ใจอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และสุขภาพที่ดีแก่ผู้บริโภค ตามแนวคิด “กินอาหารให้เป็นยา” สินค้าเด่น เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู และไข่สด “CP SELECTION” และยังเปิดตัวกลุ่มอาหารทางการแพทย์แบรนด์ INNOWENESS “นูทริแม็กซ์” (Nutrimax) ตอบสนองกลุ่มผู้ป่วยในโรงพยาบาล เป็นต้น

และ 3.การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลก (PLANET)จึงนำผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากกระบวนการผลิตรักษ์โลก โดยให้ความสำคัญกับการส่งมอบอาหารคาร์บอนต่ำมากกว่า 800 รายการ สินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน มาจากกระบวนการผลิตที่ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ฯ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสานภารกิจการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero ในปี 2573

“ผลิตภัณฑ์อาหารที่บริษัทนำเสนอแก่คู่ค้า พันธมิตร และผู้บริโภค มุ่งตอบโจทย์การบริโภคอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 เสาหลัก ได้แก่ นวัตกรรมหรือ สุขภาพ และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลก เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของโลก”

นอกจากนี้ บริษัทยังมีสินค้าใหม่อื่นๆ ที่ตอบโจทย์การเติบโตทางธุรกิจ หลังสปินออฟ เช่น ยังนำสินค้าภายใต้บริษัทร่วมทุนกับ “อูโอริกิ” อย่างปลาสดหลากหลายพันธุ์จากตลาดปลาประเทศญี่ปุ่นมาเจาะตลาดเมืองไทย อโวคาโดแบรนด์ AvoGrande จากอังกฤษมาเสิร์ฟผู้บริโภค เนื้อวัวออสเตรเลีย เนื้อแกะจากนิวซีแลนด์ มาแนะนำกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มฟู้ดเซอร์วิส โรงแรม ร้านอาหารโฮเรก้า

ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 บริษัทยังเดินหน้าขยาย 4 กลุ่มธุรกิจ โดยการค้าในประเทศ มองหาอาหารกลุ่มใหม่ๆเติมพอร์ตโฟลิโอ โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื้อสัตว์ประเภทอื่น ที่บริษัทยังมีรายการ(SKU)ยังไม่มากนัก ส่วนต่างประเทศจะขยายตลาดเพิ่มเติม ซึ่งในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 วันแรกมีพันธมิตรคู่ค้ากว่า 20 ราย สนใจเจรจาธุรกิจ เป็นสัญญาณที่ดีในการค้า

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร ปี 2566 จะขยายร้าน “ห้าดาว” ให้แตะ 5,000 จุด จากปัจจุบันมี 4,620 จุด ส่วนร้าน “เชสเตอร์” จะเปิดร้านใหม่ 17 สาขา จากเดิมมี 140 สาขา

“ธุรกิจร้านอาหารปีนี้ มีโอกาสขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากการบริโภคฟื้นตัว ผู้คนออกรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนไทย คาดการณ์แตะ 25-26 ล้านราย เพิ่มการบริโภคอาหาร”

ด้านธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ยังมีแนโน้มการเติบโต เพราะหลังจากโควิด-19 ระบาด ทำให้เห็นพฤติกรรมของผู้คนหันมารักและเลี้ยงสัตว์มากขึ้น เป็นเหมือนเพื่อน รักเหมือนลูก

จากแผนดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเชิงปริมาณ(Volume)มีการเติบโต 10% ส่วนเชิงมูลค่าค่อนข้างมีความผันผวนจากสถานการณ์วัตถุดิบ และราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม ปี 2565 ซีพีเอฟจีเอส มีรานได้กว่า 1.7 แสนล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 6,000 ล้านบาท โดยธุรกิจหลักยังมาจากการค้าในประเทศกว่า 50% การค้าต่างประเทศ 40% ที่เหลือคือร้านอาหารและอาหารสัตว์เลี้ยง

อย่างไรก็ตาม ในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับเอเชีย THAIFEX – Anuga Asia 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 โดยวันที่ 23-26 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ซึ่งเป็นการเปิดให้คู่ค้าและพันธมิตรด้านอาหารจากทั่วโลกร่วมเจรจาธุรกิจ และวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. บริษัทฯ จะนำสินค้าคุณภาพดีมาวางจำหน่ายในราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชันจัดเต็มแก่ประชาชนทั่วไป ที่บูธ CPF หมายเลข S01-S15 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 ศูนย์การค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี