ททท. ปลุกเชื่อมั่น 'จีน' เที่ยวปลอดภัย ถกกงสุล 'วีซ่า' หวั่นพลาดเป้า 5 ล้านคน

ททท. ปลุกเชื่อมั่น 'จีน' เที่ยวปลอดภัย ถกกงสุล 'วีซ่า' หวั่นพลาดเป้า 5 ล้านคน

ปัญหาความปลอดภัยและการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงภาคการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเดินทางเข้าไทยมากขึ้น รวมถึงตลาด “นักท่องเที่ยวจีน” ที่จีนเปิดประเทศเมื่อ ม.ค. 2566

แต่พอมีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยในไทยแพร่หลายอย่างรวดเร็วทั่วสื่อสังคมออนไลน์ กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีน

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการกลับมาของตลาดระยะใกล้อย่าง “นักท่องเที่ยวจีน” ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2566 นับเป็นสัญญาณบวกและมีนัยยะสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ททท.จึงเร่งเครื่องขับเคลื่อนทั้งฝั่งดีมานด์และซัพพลาย ให้ฟื้นคืนอย่างสมดุลและเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยช่วงที่ผ่านมาตลาดจีนมีอัตราการเติบโตดีขึ้นตามลำดับ

ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่ความต้องการเดินทางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 2-4 ประกอบกับแผนการเพิ่มเส้นทางและเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ คาดว่าจะช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมายที่ 5 ล้านคน สร้างรายได้ 446,000 ล้านบาทในปี 2566

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาข้อจำกัดของสถานทูตและสถานกงสุลไทยในจีนที่สามารถออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางผ่านบริษัททัวร์ได้เพียงเดือนละ 84,000 คน เนื่องเป็นระบบอี-วีซ่า ที่กระทรวงการต่างประเทศเพิ่งเริ่มนำมาใช้ระหว่างวิกฤติโควิด-19 ก่อนซึ่งตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามามากจึงเกิดปัญหาขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ททท.จึงได้ประชุมร่วมกับอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในเบื้องต้นจะแก้ไขความยุ่งยากของระบบการยื่นของอี-วีซ่า ให้อนุมัติได้ภายใน 15 วัน แต่บริษัททัวร์ก็ยังรู้สึกว่าขายลูกค้ายาก และอยากให้อนุมัติได้ไม่เกิน 3 วันเหมือนเดิม เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของลูกทัวร์

“ผมแสดงความกังวลกับอธิบดีกรมการกงสุลไปแล้วว่า ถ้ายังมีปัญหานี้ ภายในปี 2566 นักท่องเที่ยวจีนตามเป้า 5 ล้านคนจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ได้มา 1 ล้านคนแล้ว ตอนนี้ต้องดูว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้อีก 4 ล้านคนจะหาได้ไหม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศรับข้อห่วงใยไปแล้ว และได้รับการแจ้งว่าเดือน ต.ค.2566 ซึ่งขึ้นต้นปีงบประมาณใหม่ จะได้รับการแก้ไขจำนวนการอนุมัติให้ดีขึ้นได้ และ ททท.ต้องไปลุ้นจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยตัวเองและที่มาขอวีซ่าหน้าด่านหรือวีซ่า VOA ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น”

วานนี้ (22 พ.ค.) ททท. ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดแถลงข่าว Trusted Thailand, You Taiguo Yue Wan Yue Kaixin” หรือเที่ยวเมืองไทยยิ่งไปยิ่งสนุก” มีวัตถุประสงค์ตอกย้ำความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของประเทศไทยแก่นักท่องเที่ยวจีน และนำเสนอข้อมูลในมิติของการบริการ การอำนวยความสะดวก ตลอดจนมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวขณะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย

หลังจากช่วงที่ผ่านมามีการส่งข้อความในโซเซียลมีเดียของชาวจีนว่าถ้ามาเที่ยวในไทยแล้วจะถูกฆาตกรรม หรือถูกลักพาตัวบ้าง ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริง โดยเชิญ KOLs จำนวน 60 ราย สื่อมวลชนไทย สื่อมวลชนจีนในไทย สายการบินในประเทศไทย และสายการบินจีนที่มีสำนักงานในไทย และพันธมิตรรวม 100 รายเข้าร่วม

“เพื่อให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวจีน ถ้ามาไทยแล้วพบอะไรไม่ดีตรงไหน ขอให้แจ้งกลับมาได้ อีกสิ่งที่น่าใจคือตอนนี้ นักท่องเที่ยวจีนได้เข้าสู่โหมดคุณภาพแล้ว”

ททท. ปลุกเชื่อมั่น \'จีน\' เที่ยวปลอดภัย ถกกงสุล \'วีซ่า\' หวั่นพลาดเป้า 5 ล้านคน

พลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า มาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวขณะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น สตช. กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างเต็มความสามารถ

โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวผ่านรูปแบบรถโมบายล์ ถ่ายทอดสัญญาณไปยังส่วนกลางของตำรวจท่องเที่ยว โดยเครื่องมือดังกล่าวติดตั้งอยู่ที่ศูนย์หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้จำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชัน POLICE I LERT U สำหรับให้นักท่องเที่ยวสามารถขอความช่วยเหลือจากตำรวจได้ ซึ่งรองรับได้หลากหลายภาษา ได้แก่ อังกฤษ จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส เยอรมนี และอาหรับ โดยการส่งข้อมูลส่วนตัว ภาพถ่าย เวลาเกิดเหตุ และตำแหน่งที่เกิดเหตุไปยัง War Room ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 1155 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรับเรื่องตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และจะประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือในทันที

ภายใต้กิจกรรม Trusted Thailand, You Taiguo Yue Wan Yue Kaixin ททท. ยังได้ร่วมกับห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม จัดกิจกรรม Shopping Challenge ชวน KOLs เลือกซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย ภายใต้คอนเซปต์ Soft Power (5F) และ Meaningful Travel โดย KOLs ที่เข้าร่วมกิจกรรม Shopping Challenge ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลจากพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนโครงการ อาทิ บัตรโดยสารเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชีย บัตรของขวัญจากไอคอนสยาม และแอปพลิเคชั่น LINE MAN รวมถึงเซ็ตของขวัญจากพันธมิตรอื่นๆ อีกมากมาย

ททท. ปลุกเชื่อมั่น \'จีน\' เที่ยวปลอดภัย ถกกงสุล \'วีซ่า\' หวั่นพลาดเป้า 5 ล้านคน

นอกจากนี้ ททท. ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินแอร์เอเชีย ต่อยอดจัดกิจกรรม KOLs Mega FAM Trip นำ KOLs เดินทางสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 18-28 พ.ค. 2566 มุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ ภายใต้แนวคิด Meaningful Travel และให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

โดยนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายของไทย ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวเชิงอาหาร การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวทางทะเล การท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงด้วยระบบราง-รถไฟความเร็วสูง เส้นทางคุนหมิง-เวียงจันทน์ เชื่อมหนองคาย-อุดรธานี และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ อาทิ เชียงใหม่ ตราด (เกาะช้าง) จันทบุรี ชลบุรี (พัทยา) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) กาญจนบุรี สมุทรสงคราม นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เพื่อสนับสนุนการจัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยผ่านโซเชียลมีเดีย นำไปสู่การสร้างกระแสการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน

ททท. ปลุกเชื่อมั่น \'จีน\' เที่ยวปลอดภัย ถกกงสุล \'วีซ่า\' หวั่นพลาดเป้า 5 ล้านคน

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า จากสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 21 พ.ค. 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 9,785,018 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.มาเลเซีย 1,398,216 คน 2.จีน 1,034,929 คน 3.รัสเซีย 724,607 คน 4.เกาหลีใต้ 598,554 คน และ 5.อินเดีย 545,354 คน