สมรภูมิการค้าย่านลาดพร้าวร้อนแรง บิ๊กโปรเจกต์ศูนย์การค้าพร้อมชิงตลาด

สมรภูมิการค้าย่านลาดพร้าวร้อนแรง บิ๊กโปรเจกต์ศูนย์การค้าพร้อมชิงตลาด

ส่องโปรเจกต์ยักษ์ย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน ทุนค้าปลีกไทยชิงตลาดเดือด ทำเลทองค้าปลีก โครงการมิกซ์ยูสเตรียมผุดเพียบ พร้อมไนท์มาร์เก็ต ชิงตลาดกลางคืน หนุนพื้นที่ 5 แยกลาดพร้าว สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่

ส่องทำเลทองย่านลาดพร้าว และพหลโยธิน ที่รวมโครงการลงทุนค้าปลีกและโครงการออฟฟิศ มิกซ์ยูส ในปี 2566 มีความคึกคักในรอบหลายๆ ปี ทั้งจากกลุ่มทุนเดิมที่อยู่ในพื้นที่นี้มายาวนาน และกลุ่มทุนรายใหม่ที่เข้ามาในพื้นที่ จึงอยากรวบรวม โปรเจกต์ขนาดใหญ่ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงและโครงการใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท 

เซ็นทรัลลาดพร้าว มูลค่าสัญญา 2.12 หมื่นล้าน หมดสัญญา 5 ปี ลุ้นต่อครั้งที่ 3

กลุ่มทุนที่อยู่ในย่านนี้มายาวนานกับ บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามายึดพื้นที่ทำเลทอง เปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ขนาดพื้นที่ 47 ไร่  กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของ 5 แยกลาดพร้าว อยู่คู่ลาดพร้าวมาร่วม 40 ปีแล้ว โดยโครงการนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่จาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นครั้งที่สอง จ่ายผลตอบแทนรวมตลอดอายุสัญญา 20 ปี (19 ธ.ค.2551-18 ธ.ค.2571) เป็นวงเงินรวม 2.12 หมื่นล้านบาท


 

จึงเป็นที่จับตากับการต่อสัญญาครั้งใหม่ในครั้งที่ 3 จะเป็นอย่างไร พร้อมมีข่าวลือเรื่องการต่อสัญญาและไม่ต่อสัญญาออกมาหลายด้าน โดยล่าสุด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ยืนยันว่า จะรักษาพื้นที่ทำเลทอง “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” แห่งนี้ต่อไป และที่ผ่านมามีการลงทุนปรับโฉมพื้นที่ศูนย์การค้าไปแล้ว

โปรเจกต์ มิกซ์ยูส เซ็นทรัล พหลโยธิน มูลค่าโครงการกว่า 2 หมื่นล้านบาท
อีกโครงการของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา กับ เมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท เป็นที่ดินของบริษัทเอง ขนาดพื้นที่กว่า 48 ไร่ อยู่ตรงข้ามเยื้องแดนเนรมิตและอยู่ใกล้กับเซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยโครงการนี้ที่มีทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างในเฟสแรกแล้วเริ่มต้นจากศูนย์การค้า

สำหรับที่ดินแห่งนี้มีความพิเศษติดทั้งกับถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี โดยโครงการในเฟสแรกจะเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล พหลโยธิน พื้นที่ประมาณ 3.50 แสน ตร.ม. มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปี 2571 ตามแผนโครงการ มิกซ์ยูสของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ที่เมื่อทุกโครงการเปิดให้บริการสมบูรณ์แล้ว ในระยะยาว 5-10 ปี จะร่วมกระตุ้นย่านเศรษฐกิจเมืองใหม่แห่งนี้ให้เป็นแลนด์มาร์ก ให้เทียบเท่ากับ มหานครโลกอย่างนิวยอร์ก โตเกียว และกรุงโซล เลยทีเดียว

อีกสิ่งที่น่าติดตามคือ เมื่อโครงการเซ็นทรัล พหลโยธิน เปิดแล้ว และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ได้มีการต่อสัญญาเช่าพื้นที่เปิดเซ็นทรัล ลาดพร้าวออกไปอีก จะกลายเป็นการมีศูนย์การค้าสองแห่งใกล้กัน สร้างอาณาจักรค้าปลีกแห่งใหม่ ในรูปแบบคล้ายกับ ย่านพื้นที่ราชประสงค์ที่มีศูนย์การค้าของกลุ่มเซ็นทรัล เรียงรายติดกันตลอดช่วงถนน

โครงการมิกซ์ยูส เอส-โอเอซิส ออฟฟิสพรีเมียม ของกลุ่มสิงห์ เอสเตท

หนึ่งในกลุ่มทุนที่ขยายมาในย่านวิภาวดีใกล้ห้าแยกลาดพร้าวมายาวนานกับ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ได้เปิดโครงการ เอส โอเอซิส S-OASIS มูลค่า 3,695 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ปากซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดี รังสิต ขนาดพื้นที่ 6 ไร่ วางรูปแบบให้เป็นสำนักงานระดับพรีเมียม ความสูง 35 ชั้น ประกอบด้วย พื้นที่ออฟฟิศให้เช่า 5.40 หมื่น ตร.ม. และรีเทล ประมาณ 1,700 ตร.ม.

โครงการนี้ที่มีเอกลักษณ์กับการจัดทำ ออฟฟิศที่เป็นแบบ Sustainable Office ที่ห้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและจัดทำที่ชาร์จรถยนต์ที่เป็น EV Charger อีกด้วย โดยสิงห์ เอสเตท ในปัจจุบันได้มีโครงการ บริหารพื้นที่สำนักงานอาคารซันทาวเวอร์ส ริมถนนวิภาวดีรังสิต พื้นที่กว่า 6.20 หมื่น ตร.ม. ทั้งนี้เมื่อมีโครงการใหม่ จะทำให้บริษัทมีพื้นที่สำนักงานรวม 1.16 แสน ตร.ม. วางเป้าหมายสู่การเป็น เอส ดิสทริค (S District) แลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ตอนเหนือ

สมรภูมิการค้าย่านลาดพร้าวร้อนแรง บิ๊กโปรเจกต์ศูนย์การค้าพร้อมชิงตลาด ไนท์มาร์เก็ต “จ๊อดแฟร์” แดนเนรมิต ใหญ่สุดในไทยขนาด 33 ไร่

โครงการจาก เจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ตของไทยกับ “ไพโรจน์ ร้อยแก้ว” กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอดส์ แอนด์ ซัน ได้เข้ามาทำสัญญาช่าพื้นที่จากเจ้าของพื้นที่ แดนเนรนิต สู่การเปิด "จ๊อดแฟร์ แดนเนรมิต" จะเป็นพื้นที่ไนท์มาร์เก็ตขนาดใหญ่สุดในไทย พื้นที่รวม 33 ไร่ วางรูปแบบให้เป็นพื้นที่ไนท์มาร์เก็ตที่มีความโรแมนติก คงสัญลักษณ์ของแดนเนรมิตที่มีอยู่ คือ ปราสาท ไว้เแต่จะปรับปรุงให้สวยงามมากขึ้น พร้อมปรับพื้นที่ทะเลสาบ มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 28 เม.ย.นี้

ขณะเดียวกันจะมีร้านค้า เปิดให้บริการรวมกว่า 1,000 ร้านค้า โดยวางเป้าหมายจะทำให้ไนท์มาร์เก็ตแห่งนี้เป็นจุดเช็คอินของคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่จะปลุกย่านการค้าในช่วงเวลากลางคืนที่สำคัญแห่งนี้ให้กลับมาคึกคัก ส่วนงบการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด จ๊อดแฟร์เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด และเป็นการเช่าสัญญาจากเจ้าของพื้นที่แดนเนรมิต เป็นระยะเวลา 5 ปี ทำให้ย่านลาดพร้าว กลายเป็นเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ไม่มีวันหลับอีกต่อไป

ตลาดกรีน วินเทจ รัชโยธิน ชูตลาดที่ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมพื้นที่สีเขียว

อีกโครงการค้าปลีกที่เป็น ไนท์มาร์เก็ตกับ “ตลาดกรีน วินเทจ รัชโยธิน” (Green Vintage) พื้นที่ 23 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณแยกรัชโยธิน และติดกับรถไฟฟ้าสถานีรัชโยธิน โดยวางรูปแบบตลาดให้เป็นการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้นแบบ พร้อมด้วยร้านค้าของสะสมในยุค 90 และร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่ม

สำหรับ "ตลาดกรีน วินเทจ รัชโยธิน" มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 1,200 ร้านค้า โดยตลาดกลางแจ้ง ที่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. เพื่อร่วมเปิดตำนานใหม่ของ จุดช้อปปิ้งในพื้นที่ใจกลางเมืองแห่งนี้ ซึ่งได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา

โครงการ มิกซ์ยูส “รัชโยธิน ฮิลล์” โรงแรม สำนักงาน ค้าปลีก เปิดปี 2567

กลุ่มทุนใหญ่จากภาคโรงแรมที่เข้ามาสร้างโอกาสทางธุรกิจแห่งใหม่ในพื้นที่ค้าปลีกนี้กับ เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (Urban Hospitality Group : UHG) หรือยูเอชจี ผู้พัฒนาอาคารสำนักงานและโรงแรมในกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์ The Quarter by UHG ได้เข้าลงทุนโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ ในชื่อ “รัชโยธินฮิลส์” มูลค่าโครงการกว่า 2,500 ล้านบาท พื้นที่รวม 3.5 ไร่

สำหรับโครงการจะมีโรงแรม จำนวน 228 ห้อง อาคารสำนักงานให้เช่า และพื้นที่ค้าปลีกรวม 1.2 หมื่น ตร.ม. โดยโครงการจัดตั้งอยู่ปากซอยพหลโยธิน 30 นับทำเลทอง ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีพหลโยธิน และ ใกล้กับแยกรัชโยธิน ซึ่งมีแผนเปิดให้บริการในช่วงปี 2567

การเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อที่สำคัญในย่านนี้ รวมถึงความโดดเด่นของพื้นที่ย่านพหลโยธินและใกล้กับห้าแยกลาดพร้าว ที่เป็นแหล่งคมนาคมที่สำคัญ ทั้งเส้นทางรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน และรถไฟสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ที่จะเปิดในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จึงเป็นการเชื่อมโยงระบบการเดินทางเข้าเมืองและออกนอกเมืองได้อย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันยังเห็นเทรนด์การลงทุนที่สำคัญในพื้นที่ จะเป็นมิกซ์ยูสมากขึ้น ตามแนวโน้มการทำธุรกิจค้าปลีกที่ทำต้องครบวงจร ทั้งโรงแรม สำนักงาน พื้นที่รีเทล และคอนโดมิเนียมในจุดเดียว เพื่อความสะดวก กลายเป็นชุมชนแห่งใหม่ในแต่ละพื้นที่

ทั้งหมดจึงเป็นการร่วมพลิกโฉมพื้นที่ย่านการค้าที่สำคัญของไทย ร่วมกระตุ้นศูนย์กลางการค้า และย่านเศรษฐกิจแห่งนี้ให้คึกคักมากไปอีก !