เจน3‘เบอร์แทรม’เคลื่อนธุรกิจสู่‘เฮลธ์คอมปะนี’บูมยาดมไทยโกลบอลแบรนด์

เจน3‘เบอร์แทรม’เคลื่อนธุรกิจสู่‘เฮลธ์คอมปะนี’บูมยาดมไทยโกลบอลแบรนด์

ส่องอาณาจักรบริษัท เบอร์แทรม ที่อยู่ในตลาดมาร่วม 65 ปี สามารถสร้างแบรนด์ยาดมไทย 'เซียงเพียว' 'เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์' ขึ้นแท่นแบรนด์ยอดนิยมมายาวนาน พร้อมมีคลื่นลุกใหม่ เจนสามเข้ามาร่วมผลักดันแบรนด์ไทยในครั้งสำคัญ

สินค้ายอดนิยมฮิตติดกระเป๋าคนไทยกับยาดมไทย โดยแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมายาวนาน 65 ปี อย่าง เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ รุกขยายอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจนเนอเรชั่นที่ 3  “มีนา อัครพงศ์พิศักดิ์” ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ยาดม เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ (Peppermint Field) บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด เข้ามาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกับคุณแม่  “สุวรรณา เอี่ยมพิกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ราว 4 ปี

ก่อนหน้านี้ “มีนา” ทำงานด้านไฟแนนซ์ในวอลล์สตรีทมาก่อน เมื่อเข้ามาทำงานในช่วงวิกฤติโควิด-19 แน่นอนว่าโจทย์ในการบริหารธุรกิจเปลี่ยนไป!  เพราะ “เซียงเพียว” แบรนด์หลักที่สร้างยอดขายถึง 80% และลูกค้าหลัก คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อไม่สามารถเดินทางมาเยือนได้จึงต้องปรับแผนหันมาสื่อสารแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น

“โจทย์ท้าทายเมื่อเกิดโควิดนักท่องเที่ยวไม่เข้าประเทศ ตลาดเปลี่ยนไปทั้งหมด! ถือเป็นอีกช่วงวิกฤติ ต้องปรับกลยุทธ์เจาะลูกค้าคนไทย เน้นสื่อสารให้กลับมาเข้าใจผลิตภัณฑ์มากขึ้น และเซียงเพียว ไม่ได้เป็นเฉพาะยาดม แต่มีสรรพคุณอื่นๆ ที่มากกว่ายาดม”

อีกสิ่งที่ได้เรียนรู้และโชคดีในฐานะเจน 3 ซึ่ง “เจน 2” ได้วางรากฐานองค์กรที่มีความล้ำสมัย นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เปิดรับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน ทำให้องค์กรมีวัฒนธรรมการทำงานที่ทันสมัยเสมอ สามารถเชื่อมโยงทั้งเจนใหม่และรุ่นดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี  ปัจจุบัน บริษัทมีพนักงานรวม 100 คน พนักงานในโรงงานอีก 400 คน

เจน3‘เบอร์แทรม’เคลื่อนธุรกิจสู่‘เฮลธ์คอมปะนี’บูมยาดมไทยโกลบอลแบรนด์ ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนใหญ่มูลค่า 500 ล้านบาท ขยายโรงงานแห่งที่ 2 ปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้ามาตรฐานระดับโลก GMP-PICS (Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme) เพื่อรองรับการลงทุนพัฒนาวิจัยสินค้า และการเพิ่มคลังสินค้า รวมถึงการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

มีนา กล่าวว่า แนวคิดสำคัญในการทำธุรกิจที่ปลูกฝังมาตลอดคือ มิชชั่นการสร้างสังคมให้ดีขึ้น และสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่ทุกคน ทั้งลูกค้าและคู่ค้า ทำให้บริษัทให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนาสินค้ามาต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในการใช้สินค้าที่มีความปลอดภัย เป็นการสร้างธุรกิจเพื่อมุ่งไปสู่ความยั่งยืน

สำหรับแบรนด์ที่ดูแลโดยตรง “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” มีการปรับภาพลักษณ์สินค้าใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ในทุกวัน พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ นักเรียน ระดับมัธยมการศึกษาตอนต้น จากกลุ่มนักเรียนและกลุ่มคนทำงานที่เป็นลูกค้าหลัก โดยใช้มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง และพรีเซ็นเตอร์ “พีพี-กฤษณ์ อำนวยเดชกร” เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่สะท้อนแบรนด์ผ่านแนวคิด “ลมหายใจที่มีคุณภาพ” ในการขยายตลาดเชิงรุกทุกแพลตฟอร์มออนไลน์-ออฟไลน์ และเปิดตัวจิ้งเกิ้ลเพลงผ่านสื่อต่างๆ ที่จะสร้างการจดจำแบรนด์

เจน3‘เบอร์แทรม’เคลื่อนธุรกิจสู่‘เฮลธ์คอมปะนี’บูมยาดมไทยโกลบอลแบรนด์ สำหรับ ตลาดยาดมแบบหลอดของไทย มีมูลค่า 1,280 ล้านบาทในช่องทางห้างค้าปลีกเติบโตต่อเนื่อง และมีแบรนด์ใหม่ทำตลาดมากขึ้น 

ในปี 2566 ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ตั้งเป้ายอดขายรวม 160 ล้านบาท เติบโต 10-20% จากปีก่อนที่มียอดขาย 140 ล้านบาท ขยับส่วนแบ่งตลาดในยาดมแบบหลอดเพิ่มขึ้น 3-5% จากปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 24% เป็นเบอร์ 2

นอกจากนี้ วางแผนขยายตลาดส่งออกแบรนด์ “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” เริ่มจากตลาดในอาเซียน ได้แก่ ลาว ฟิลิปินส์ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วนแบรนด์ “เซียงเพียว” ได้มีการส่งออก 23 ประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย และจะเข้าไปทำกิจกรรมการตลาดจริงจังมากขึ้นในจีน และเมียนมา 

ระยะยาว เบอร์แทรม ที่มี “เซียงเพียว” ที่อยู่ในตลาดมา 64 ปี และ “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” อยู่ในตลาดมา 18 ปี เป็นเรือธงก้าวสู่ตลาดโลก พร้อมมุ่งสู่บริษัทด้านสุขภาพ (Health company) อีกเป้าหมายสำคัญใน 5 ปีข้างหน้า จะสร้างยอดขายโตก้าวกระโดดแตะ 3,000 ล้านบาท จาก 1,500 ล้านบาทในปี 2565 โดยสัดส่วนยอดขายมาจาก “เซียงเพียว” 80% “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” 20%