'AWC' ปั้นมิติใหม่ 'รีเทล-โฮลเซล' เขย่าคอนเซปต์-ผนึกพันธมิตรพลิกโฉม!
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก (Retail) รวมกว่า 9 แห่งของยักษ์อสังหาฯ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ภายใต้ ทีซีซี กรุ๊ป (TCC Group) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี นำทัพโดยทายาทคนที่สอง 'วัลลภา ไตรโสรัส' เผชิญความท้าทายของโลกการค้ายุคใหม่
ต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับ “พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป” ทั้งแรงและรวดเร็ว!
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC ฉายภาพว่า บริษัทตั้งคำถามว่า “มิติใหม่ของธุรกิจรีเทล...จริงๆ แล้วคืออะไรกันแน่?” และธุรกิจอสังหาฯด้านรีเทลจะสามารถตีโจทย์การออกมาใช้ “เวลาแห่งความสุขร่วมกัน” ของผู้คนได้อย่างไร? คำตอบที่บริษัทมองเห็นคือการสร้าง “ประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์” (Lifestyle Experience) นี่คือหมุดหมายนับตั้งแต่วางตำแหน่งบริษัทในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร!
ประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับ AWC จะประกอบด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ “Attractions” เพราะนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลูกค้าอยากออกจากบ้านและใช้เวลาร่วมกัน ตามมาด้วย “Food Lounge” บริษัทเลือกใช้คำนี้เพื่อสะท้อนถึงภาพการใช้ชีวิตและทานอาหารร่วมกัน (Co-Living & Co-Dining) เป็น Space ที่ทุกคนสามารถออกมาแฮงค์เอาต์และชิลกันได้
“บริษัทจึงผสมผสานคาแรกเตอร์เหล่านี้ หลังเห็นพฤติกรรมที่เต็มไปด้วยความสุขและความรู้สึกผ่อนคลายของผู้คนขณะดื่มด่ำบรรยากาศที่โรงแรมและรีสอร์ตซึ่ง AWC มีโรงแรมในเครือกว่า 20 แห่ง สามารถนั่งทานได้เรื่อยๆ นั่งนานก็ได้ ทำงานหรือคุยงานไปด้วย ทานอาหารไปด้วยก็ได้ เพราะไลฟ์สไตล์ของคนเราในตอนนี้ ถูกผสมผสานกลมกลืน (Merge) กันไปหมดแล้ว”
ส่วนสุดท้าย “Lifestyle Market” เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การมองหา “Lifestyle Community” ของลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งต่างมีความสนใจสินค้าเฉพาะด้านต่างกันไป เช่น กลุ่มออร์แกนิก กลุ่มเพื่อสุขภาพ กลุ่มกีฬา เอาต์ดอร์ และแคมปิง กลุ่มของตกแต่งบ้าน และกลุ่ม Pet & Little Zoo
บริษัทจึงจับ 3 แกนหลักดังกล่าว มาพัฒนาและปรับปรุงอสังหาฯกลุ่มรีเทลในเครือ ล่าสุดเปิดตัว “เดอะ พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ” (The Pantip Lifestyle Hub) ที่ จ.เชียงใหม่ ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งเปลี่ยนโฉมจาก “ห้างพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่” พร้อมปรับคอนเซ็ปต์ใหม่เป็น “Every Happiness For Everyone” มุ่งตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ทุกกลุ่ม ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ ผ่านร้านค้า ร้านอาหาร และบริการครบครันสำหรับกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว บนพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 13,000 ตารางเมตร
“เราได้นำแนวคิดชูประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ ไปต่อยอดการพัฒนาและปรับปรุงรีเทลแห่งอื่นๆ ในเครือด้วย เช่น พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ซึ่งมีจุดเด่นตรงภาพลักษณ์ของความเป็นขุมสมบัติให้ได้เสาะแสวงหา (Treasure Hunt) เพราะมีศูนย์เช่าพระขนาดใหญ่ที่นั่น”
ก่อนหน้านี้ บริษัทใช้เงินลงทุนมากกว่า 800 ล้านบาท เพื่อปรับคอนเซ็ปต์ครั้งใหญ่ของโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เฟส 1” ภายใต้แนวคิด “All Day Everyday Happiness” เนรมิตแลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวด้านไลฟ์สไตล์ริมน้ำระดับโลก ให้เป็น “รีเทล-เทนเมนต์” ผสมผสาน Living Museum & Art Festival แหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมในรูปแบบสร้างสรรค์ เรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่ที่ตั้งของเอเชียทีค รวมทุกประสบการณ์การท่องเที่ยวต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
พร้อมเติมแม่เหล็กใหม่ ไฮไลต์คือ “ดิสนีย์ 100 วิลเลจ” (Disney 100 Village) ดึงนักท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์งานแสดงพิเศษ (Special Pop-Up Event) เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของดิสนีย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและแฟนคลับดิสนีย์ในประเทศไทยได้ชื่นชม ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. - 31 ก.ค. 2566
ขณะเดียวกันยังมี “Largest Food and Beverage Selection” สร้างแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยจากทั่วกรุงเทพฯ ไปจนถึงอาหารสตรีทฟู้ดจากทั่วทุกภาคมารวมกันที่โกดัง 1 และ 2 รวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์แฮงค์เอาต์แห่งใหม่ โดยกิจกรรมจะผันเปลี่ยนไปตามเทศกาลและฤดูกาลต่างๆ ทั้งงานดนตรี ชอปปิง ศิลปะ สินค้าวินเทจ รวมถึงสุขภาพและอาหารตลอดปี
วัลลภา เล่าเพิ่มเติมว่า AWC ยังเตรียมพลิกโฉมโครงการคอมมูนิตี้ มาร์เก็ต “ตะวันนา บางกะปิ” สู่รูปแบบใหม่ ปรับปรุงเป็นโครงการใหญ่จากที่มีอยู่ชั้นเดียว โดยปัจจุบันกำลังทำแบบ เป็นอาคารสูงแบบโพเดียมขึ้นไป 6-8 ชั้นสำหรับพื้นที่ค้าปลีก และจะมีส่วนของทาวเวอร์ด้วย ซึ่งกำลังเช็กดีมานด์ว่าเหมาะกับทำเป็นอาคารสำนักงาน เรสซิเดนส์ หรือรูปแบบไหน เมื่อออกแบบแล้วเสร็จ ขอใบอนุญาต กว่าจะก่อสร้างคาดต้องใช้เวลา 2 ปีกว่า
“จริงๆ ตรงนั้นมีที่ดินของเดอะมอลล์ บางกะปิ ติดกับที่ดินของตะวันนาฯ และแม็คโคร และมีที่ดินของ AWC อีกแปลงหนึ่ง จึงได้คุยกับคุณศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร เดอะมอลล์ กรุ๊ป เรื่องเป็นพันธมิตรกับเดอะมอลล์ บางกะปิ ร่วมกันสร้างโมเดลเต็มรูปแบบแก่ย่านบางกะปิ ผ่านการวางโมเดลร่วมกันให้เกิดความต่อเนื่อง เชื่อมต่อประสบการณ์ลูกค้า โดยตอนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของแผนที่จะเชื่อมกัน ยังไม่ได้วางตัวโปรแกรมชัดเจน”
ด้านธุรกิจ “ค้าส่ง” (Wholesale) ในเร็วๆ นี้ทาง AWC เตรียมประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำของธุรกิจอาหาร โปรโมต “เออีซี เทรด เซ็นเตอร์” (AEC Trade Center) ที่ประตูน้ำพระอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา
“เราเชื่อว่าด้วยโลเกชันที่ประตูน้ำพระอินทร์ของ AWC จะสามารถรวบรวมพันธมิตรได้ โดยจะเริ่มด้วยธุรกิจค้าส่งด้านอาหาร ซึ่งเป็นไฮไลต์ของประเทศไทยอยู่แล้ว มาร่วมโปรโมต เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ และผลักดันให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งของภูมิภาค”
หลังจากเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา AWC ได้ลงนาม “สานต่อความร่วมมือเชิงกลยุทธ์” กับ “อี้อู” (Yiwu) หรือ Zhejiang China Commodities City Group Co., Ltd. (CCC Group) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกันขับเคลื่อน เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ ทั้ง 2 แห่ง ที่ประตูน้ำ กรุงเทพฯ และประตูน้ำพระอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา ในโมเดลใหม่ที่ไม่เคยมีในภูมิภาคให้เป็นศูนย์กลางของผู้ผลิตสินค้าค้าส่งจากทั่วโลก
พร้อมเชื่อมโยงสู่ผู้ซื้อทั่วภูมิภาค “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ด้วยแพลตฟอร์มการค้าส่งแบบบูรณาการ (INTEGRATED BUSINESS PLATFORM) ที่เชื่อมโยงผู้ขายและผู้ผลิตจากทั่วโลกตรงสู่ผู้ซื้อ ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ ยกระดับอุตสาหกรรมค้าส่งให้ตอบทุกโจทย์ของผู้ขายและผู้ซื้อ รวมผู้ผลิตจากทั่วโลกมาอยู่ในแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการลูกค้าทั่วภูมิภาค ให้สามารถสรรหาสินค้าคุณภาพหลากหลาย พร้อมด้วยบริการทางธุรกิจต่างๆ ครบครันในที่เดียว เพื่อร่วมยกระดับอุตสาหกรรมการค้าส่งของประเทศ และสร้าง Eco-System ของธุรกิจค้าส่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือของผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชน สมาคมการค้าต่างๆ ที่พร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอย่างแท้จริง!
