'Tupperware' อาจเหลือแค่ตำนาน! บทเรียนราคาแพง กล่องอาหารขวัญใจแม่บ้าน
จากยุครุ่งเรืองถึงเสื่อมถอยของ "ทัปเปอร์แวร์" (Tupperware) แบรนด์กล่องอาหารขวัญใจแม่บ้าน ยืนยงคู่ครัวโลกมาถึง 77 ปี กำลังเจอปัญหาใหญ่ ขาดสภาพคล่องหนัก อาจถึงขั้นปิดกิจการ!
Key Points :
- ทัปเปอร์แวร์ กล่องอาหารชื่อดังระดับโลกอาจเหลือแค่ตำนาน หลังขาดสภาพคล่องรุนแรง จนซีอีโอบริษัท ยอมรับว่า อาจถึงขั้นไปต่อไม่ไหว
- เบื้องหลังวิกฤติเกิดจากการปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะเทคนิคการขายตรงแบบ "โฮม ปาร์ตี้" ที่เคยโด่งดังใช้ไม่ได้ผลแล้วในยุคนี้ แต่ทัปเปอร์แวร์ไม่สามารถเพิ่มช่องทางการขายอื่นเข้ามาทดแทนได้ทัน
- ด้านสินค้าก็ไม่สามารถสร้างจุดต่างชัดเจนได้ แม้แต่กับรุ่นแม่ รุ่นยาย ก็ยังอาจเป็นแค่ "อดีตแฟนคลับ" เพราะมีแบรนด์อื่นๆ มากมายให้เลือกซื้อง่ายกว่า แถมราคาถูกกว่าด้วยซ้ำ
"ทัปเปอร์แวร์" (Tupperware) แบรนด์กล่องอาหารขวัญใจแม่บ้าน กำลังประสบปัญหาใหญ่ ที่อาจถึงขั้นต้องปิดกิจการ โดยเมื่อ 7 เม.ย.66 ที่ผ่านมา มิเกล เฟอร์นันเดซ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Tupperware Brands Corporation เจ้าของแบรนด์ "ทัปเปอร์แวร์" กล่องอาหารชื่อดังระดับโลก ได้ออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์ที่บริษัทกำลังเผชิญ โดยเฉพาะความล่าช้าในการยื่นรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 10-K ประจำปี 2566 ที่ทำให้มีโอกาสละเมิดข้อตกลงวงเงินสินเชื่อ รวมถึงยังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องจากต้นทุนดอกเบี้ย และแผนการรื้อระบบการทำงานก็ยังล่าช้ากินระยะเวลานาน
ซีอีโอ Tupperware ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อช่วยจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม รวมถึงยังหารือกับนักลงทุนและพันธมิตรทางการเงินเพื่อมองหาทางออก ร่วมกับการตรวจสอบทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ เพื่อขายสร้างรายได้ โดยหวังจะแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่องที่กำลังเผชิญ
พร้อมกันนี้ยังระบุถึง "ความรุนแรงของสถานการณ์" ว่าอยู่ในระดับที่อาจต้องถึงกับ "ปิดกิจการ" โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่ยังคงท้าทาย ประกอบกับต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ หากไม่สามารถจัดหาแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ หรือ แก้ไขสัญญาสินเชื่อได้ บริษัทอาจไม่เหลือสภาพคล่องเพียงพอที่จะดำเนินงานต่อได้ในระยะเวลาอันใกล้
วิกฤติที่ทัปเปอร์แวร์เจอในครั้งนี้ อาจทำให้แบรนด์ที่เคยยืนยงมาถึง 77 ปี ผ่านมรสุมได้หลายต่อหลายครั้ง ไปต่อไม่ไหว
และถูกจับตามองว่า หรือนี่จะเป็น “วิกฤติครั้งสุดท้าย” ที่แบรนด์นี้ต้องเผชิญก่อนจะพ่ายแพ้และอำลาตลาดไป!
- ย้อนเส้นทาง 77 ปี รุ่งเรืองด้วย “ปาร์ตี้”
ย้อนกลับไปดูเส้นทางกล่องอาหารในตำนานอย่าง "ทัปเปอร์แวร์" (Tupperware) แบรนด์ขวัญใจแม่บ้าน ที่ยืนยงมากว่า 7 ทศวรรษ และกลายเป็น Generic Name หรือชื่อเรียกแทนกล่องพลาสติกใส่อาหาร ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร ก็มักจะเรียกว่า ทัปเปอร์แวร์ กันจนติดปาก
แม้ทัปเปอร์แวร์จะเริ่มต้นในปี 1496 โดยชายชื่อ “เอิร์ล ทัปเปอร์” ซึ่งคิดค้นพลาสติกใส่อาหารที่ปิดด้วยวิธีสุญญากาศที่ช่วยยืดอายุความสดของอาหารให้ยาวนานขึ้น ซึ่งถือว่าล้ำและตอบ pain point ของงานครัวในยุคนั้นมากๆ เนื่องจากสมัยก่อนตู้เย็นยังมีราคาแพง
ในยุคเริ่มต้น ทัปเปอร์แวร์ไม่ได้ขายดีมากมาย โดยยุครุ่งเรืองจริงๆ ของ “อาณาจักรทัปเปอร์แวร์” เกิดขึ้นในช่วงยุค 50 โดยผู้หญิงที่ชื่อ “บราวนี่ ไวส์” ผู้เข้ามาเปลี่ยนเกมการขาย และสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่สังคมสหรัฐไปตลอดกาล
photo credit : rarehistoricalphotos.com
แทนที่จะเคาะประตูบ้านเสนอขายสินค้าแบบที่ส่วนใหญ่ทำกัน สิ่งที่ไวส์ทำ คือ จัดงานเลี้ยงที่บ้าน หรือเรียกว่า “ทัปเปอร์แวร์ โฮม ปาร์ตี้” โดยชวนเหล่าแม่บ้าน คุณผู้หญิงทั้งหลาย มาร่วมกินเลี้ยง แล้วก็มีสาธิตสินค้ากันในงาน
ผลลัพธ์ก็คือ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า! กลายเป็นโมเดลขายตรงที่ลือลั่น และสั่นสะเทือนสังคมสหรัฐ เนื่องจากเป็นตัวจุดกระแสผู้หญิงสู่ตลาดงาน รวมถึงส่งเสริมให้เหล่าแม่บ้านลุกขึ้นมาเป็นนักธุรกิจ แล้วก็ทำได้ดีเสียด้วย
ข้อมูลโดย ซินดี้ ฮีธ ที่เขียนถึงความฟีเวอร์ของ “ทัปเปอร์แวร์ โฮม ปาร์ตี้” ในยุคนั้นว่า ส่งผลให้ผู้หญิงกลายเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และสร้างความสัมพันธ์นอกบ้าน ให้สาวๆ ได้เข้าสังคม ชิทแชท ปาร์ตี้กัน
สำหรับเจ้าภาพ หรือ เจ้าของบ้านที่เป็นโฮสต์จัดปาร์ตี้ ก็จะได้รับผลิตภัณฑ์ฟรีขึ้นอยู่กับจำนวนการขายในงานเลี้ยงของพวกเขา
ถามว่า ยุคนั้น Tupperware มีตัวแทนขาย หรือที่เรียกว่า “ที่ปรึกษา” มากแค่ไหน ซินดี้ เฉลยในบทความว่า ข้อมูลที่พบในปี 2558 ว่า มีที่ปรึกษามากถึง 3,100,000 ราย
- ผ่านมาหลายวิกฤติ แต่ครั้งนี้อาจไม่รอด!
ตลอดร่วม 80 ปีของทัปเปอร์แวร์ แบรนด์นี้ผ่านมรสุมมานับไม่ถ้วน ทั้งเรื่องปัญหาการบริหารงานภายในของบริษัทเอง โดยเปลี่ยนมือเจ้าของมาแล้วหลายเจ้านับตั้งแต่ที่ ผู้ก่อตั้ง คือ “เอิร์ล ทัปเปอร์” ขายกิจการออกไป
ที่ผ่านมา เราได้เห็นความพยายามปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมยุคให้ได้อยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผู้บริโภครุ่นใหม่ไม่ได้ “อิน” กับการขายตรงอีกต่อไป ก็เกิดดีลใหม่ของทัปเปอร์แวร์กับห้างทาร์เก็ตในสหรัฐ เพื่อวางขายสินค้าในห้างเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่
การเพิ่มช่องทางขายออนไลน์ก็เช่นกันที่ในหลายๆ ประเทศก็สามารถซื้อทัปเปอร์แวร์ผ่านออนไลน์ได้แล้ว
นอกจากนี้ ในแง่การพัฒนาสินค้า จากยุคที่พลาสติกเป็นดาวเด่นในโลกธุรกิจ กลับไม่ใช่สำหรับวันนี้ ที่นอกจากจะ “ไม่ว้าว” อีกต่อไป ก็ยังอยู่ยากท่ามกลางกระแสพลาสติกเป็นผู้ร้าย บริษัทจึงพยายามสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้ผู้บริโภคยังรู้สึกว่า ทัปเปอร์แวร์ มีประโยชน์ และดีต่อการใช้ชีวิตได้จริงๆ อย่างเช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถทำเมนูย่างได้ด้วยไมโครเวฟ เพื่อเอาใจลูกค้าที่อาศัยในอพาร์ทเมนต์ และไม่สามารถตั้งเตาย่างจริงจังได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของบีบีซี ระบุถึงความเห็นของ “นีล ซอนเดอร์ส” กรรมการผู้จัดการฝ่ายค้าปลีกของบริษัทที่ปรึกษา GlobalData กล่าวว่า ทัปเปอร์แวร์ "ล้มเหลว” ในการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งในแง่ตัวสินค้าเองรวมถึงช่องทางจัดจำหน่าย
โดยเฉพาะการขายตรงด้วยโฮมปาร์ตี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะถูกใจคนสมัยนี้ หรือแม้แต่กับเหล่ารุ่นแม่ รุ่นยายทั้งหลาย ก็อาจจะกลายเป็น “อดีตแฟนคลับ” ของทัปเปอร์แวร์ไปแล้ว เพราะวันนี้มีสินค้าให้เลือกมายมาย หาซื้อก็ง่าย แถมราคาก็ถูกกว่าด้วย
ทั้งนี้ สัญญาณการนับถอยหลังของแบรนด์ทัปเปอร์แวร์ ค่อยๆ ปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ ทั้งเรื่องการถอนตัวออกจากตลาดในบางประเทศ เช่น อังกฤษ, อิสราเอล, เนเธอร์แลนด์ และล่าสุดช่วงปลายปี 2565 ก็เพิ่งจะมีข่าวการปิดตัวลงของทัปเปอร์แวร์ในนิวซีแลนด์
ในแง่ยอดขาย แม้ในช่วงโควิด-19 ทัปเปอร์แวร์จะกลับมาฟื้นตัวเนื่องจากการล็อกดาวน์เปลี่ยนพฤติกรรมให้ผู้คนทำอาหารกินเองที่บ้าน แต่ก็เป็นแค่ชั่วคราว โดยรายงานยอดขายปี 2022 พบว่า ร่วงลง 18% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ราคาหุ้นก็ดิ่งหนัก
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. หลังการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว หุ้น “TUP” ของบริษัท Tupperware Brands Corporation ก็ร่วงแรงถึงเกือบ 50% ก่อนจะงัดหัวขึ้นเล็กน้อยในวันถัดมา
จากความเห็นของ ซอนเดอร์ส เขาตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหากย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว ทัปเปอร์แวร์ ลุกขึ้นมาปรับตัวได้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องช่องทางการขาย ในวันนี้ แบรนด์ที่เคยสร้างตำนานคู่ครัวมานานนับ 7 ทศวรรษ ก็ยังอาจจะอยู่ในสถานะที่ต่างจากวันนี้ก็เป็นได้!
อ้างอิง : bbc , ir.tupperwarebrands , thestreet , washingtonpost