'รีบอค'ขอทวงแชมป์สินค้ากลุ่มเทรนนิ่ง เปิดแผนขยายกลุ่มสินค้าออกกำลังกาย

'รีบอค'ขอทวงแชมป์สินค้ากลุ่มเทรนนิ่ง เปิดแผนขยายกลุ่มสินค้าออกกำลังกาย

ส่องตลาดสินค้ารองเท้ากีฬา แบรนด์รองเท้าสัญชาติอังกฤษ รีบอค เปิดแผนลุยตลาดรองเท้ากีฬากลุ่มเทรนนิ่งเต็มสูบ ทุ่ม งบ 18 ล้านบาท จัดอีเว้นท์ใหญ่ สร้างยิมใจกลางเซ็นทรัลเวิลด์ ขอยึดผู้นำตลาดคืน เผยเทรนด์ออกกำลังกายหลังโควิดมาแรง

สำรวจตลาดอุปกรณ์กีฬาในปี 2566 กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากเทรนด์การใช้ชีวิตที่กลับมาปกติ   ทำให้ความสนใจเข้าฟิตเนสออกกำลังกายพุ่ง “รีบอค” แบรนด์รองเท้าสัญชาติอังกฤษ พร้อมชิงบังลังด์แชมป์ รองเท้ากีฬสเทรนยิง

แบรนด์รีบอค (Reebok) แบรนด์กีฬาสัญชาติอังกฤษ ที่มีประวัติมาอย่างยาวนานรวมกว่า 128 ปีแล้ว ที่มีจุดเริ่มต้นจากบริษัทออกแบบรองเท้าวิ่ง และมีการขยายไลน์สินค้าการผลิตในกลุ่มแฟชั่น บาสเกตบอลและสนีคเกอร์ สำหรับตลาดในประเทศไทยได้รุกขยายสินค้ามาต่อเนื่อง และสามารถครองตลาดที่สำคัญในกลุ่มฟิตเนสเทรนนิ่ง และรองเท้ากีฬา
 

นายซาจี เทคคายิล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้านำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์แบรนด์ รีบอค (Reebok) กล่าวว่า เทรนด์การออกกำลังกายได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนเมื่อสถานการณ์โควิดได้ผ่านไป ทำให้ความต้องการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายมีมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดรองเท้ากีฬามีการขยายตัวที่ดีขึ้นมาตลอด ส่วนภาพรวมตลาดกีฬาและรองเท้ากีฬาในปีนี้ยังมีการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง 

กลยุทธ์รุกตลาดในปี 2566 จะเดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาดอย่างเข้มข้น ภายใต้งบการตลาด 18  ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกจะเจาะกลุ่มตลาดสินค้าออกกำลังกาย เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนออกกำลังกายในยิม และกลุ่มเทรนนิ่ง พร้อมร่วมจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มฟิตเนส และเทรนนิ่ง จึงได้มีการจัดอีเว้นท์ใหญ่ ด้วยการนำยิมในการออกกำลังกาย มาจัดไว้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่อยู่ใจกลางเมือง พร้อมกันนี้ได้มีการดึงกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญอย่าง นักกีฬากลุ่มเทรนนิ่ง มาร่วมออกกำลังกายเพื่อสร้างแบรนด์สู่กลุ่มเป้าหมาย

\'รีบอค\'ขอทวงแชมป์สินค้ากลุ่มเทรนนิ่ง เปิดแผนขยายกลุ่มสินค้าออกกำลังกาย ขณะเดียวกันในงานนี้ จึงมีการเปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่กับ "Reebok Nano X3" หรือรองเท้าออกกำลังกาย เป็นสินค้ารุ่นท็อปในตระกูลเทรนนิ่ง มีจุดเด่นหลักด้านความมั่นคงและความทนทาน ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ใช้ได้ในหลากหลายโอกาส รวมถึงเป็นรุ่น ที่ใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประมาณ 30%

นอกจากนี้ บริษัทกลยุทธ์สำคัญในปีนี้ จะมุ่งนำเสนอสินค้าในราคาที่สามารถจับต้องได้ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด 

"น.ส.จณัญญา รักษนาเวศ" ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์แบรนด์ Reebok กล่าวว่า แผนการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการขยายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยในออนไลน์ ที่มีช่องทางการขายออนไลน์หลักของบริษัทคือ Supersports.co.th วางรูปแบบให้มีสินค้าเทียบเท่ากับหน้าร้าน

สำหรับช่องทางออฟไลน์ จะมีมากกว่า 130 ร้านค้าทั้ง Reebok shop, Supersports และมีช่องทางผ่านคู่ค้าต่างๆ  ทั้งนี้ประเมินว่า ยอดขายในปีนี้จะเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา