'บ๊อบ ลี' ผู้ก่อตั้ง Cash App ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตในซานฟรานซิสโก

'บ๊อบ ลี' ผู้ก่อตั้ง Cash App ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตในซานฟรานซิสโก

"บ๊อบ ลี" ผู้ก่อตั้งบริษัทแคช แอป ผู้ให้บริการโอนเงินออนไลน์ ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตในเมืองซานฟรานซิสโก โดยข่าวดังกล่าวได้สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวของนายบ๊อบ ลี รวมทั้งพวกพ้องซึ่งเป็นผู้บริหารในแวดวงโซเชียลมีเดีย ซึ่งรวมถึงนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัททวิตเตอร์

สำนักงานตำรวจเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกแทงเมื่อเวลาประมาณ 02.35 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร (4 เม.ย.) โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุก็พบชายวัย 43 ปีถูกคนร้ายใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมกับนำตัวชายผู้นี้ส่งโรงพยาบาล แต่ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบในเวลาต่อมาว่าเขาคือนายบ๊อบ ลี ผู้ก่อตั้งบริษัท Cash App

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะเร่งติดตามตัวคนร้ายมารับโทษโดยเร็ว

นายริชาร์ด ลี ซึ่งเป็นบิดาของนายบ๊อบ ลี กล่าวว่า "บ๊อบบี้ทำงานหนักมากกว่าใคร และเป็นคนที่ฉลาดมากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบ พวกเราทุกคนจะระลึกถึงเขาตลอดไป และเราขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนครอบครัวเรา"

นายบ๊อบ ลี เคยทำงานเป็นผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของโมบายคอยน์ (MobileCoin) ซึ่งเป็นบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี นอกจากนี้ เขาเคยทำงานในตำแหน่งผู้บริหารด้านเทคโนโลยีของบริษัทสแควร์ (Square) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินที่ก่อตั้งโดยนายแจ็ค ดอร์ซีย์ อดีตซีอีโอของทวิตเตอร์ และจากนั้นเขาได้หันมาก่อตั้งบริษัท Cash App ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโอนเงินทางออนไลน์

นอกจากนี้ นายบ๊อบ ลี ยังเป็นหนึ่งในนักลงทุนของบริษัทสเปซเอ็กซ์ของนายอีลอน มัสก์ และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงคลับเฮาส์ (Clubhouse)

เพื่อนพ้องของในแวดวงโซเชียลมีเดียของนายบ๊อบ ลี ได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อการจากไปในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงนายแจ๊ค ดอร์ซีย์ อดีตซีอีโอของทวิตเตอร์ และนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอคนปัจจุบันของทวิตเตอร์

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การฆาตกรรมถือเป็นปัญหาใหญ่ของเมืองซานฟรานซิสโกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยในช่วงปี 2564-2565 ได้เกิดเหตุฆาตกรรมในเมืองแห่งนี้ถึง 56 ครั้ง และในปีนี้เกิดเหตุแล้ว 12 ครั้ง

ด้านสถาบันฮูเวอร์ (Hoover Institution) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของตำรวจระบุว่า ข้อมูลในปี 2564 แสดงให้เห็นว่าในแต่ละปี ชาวเมืองซานฟรานซิสโกมีโอกาสถึง 1 ต่อ 16 ที่จะตกเป็นเหยื่อของการชิงทรัพย์หรืออาชญากรรมที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้ซานฟรานซิสโกกลายเป็นเมืองที่อันตรายกว่าเมืองอื่น ๆ ในสหรัฐ