บิ๊กเจอบิ๊ก “บุญรอดผนึกโออาร์” เสิร์ฟ 2 สินค้าดันรายได้พันล้าน!

บิ๊กเจอบิ๊ก “บุญรอดผนึกโออาร์”  เสิร์ฟ 2 สินค้าดันรายได้พันล้าน!

“บุญรอด-โออาร์” เดินเกมเสริมแกร่งธุรกิจร่วมทุน “ดริ๊งค์ เอนเตอร์ไพรส์” ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เสิร์ฟ 2 สินค้าใหม่ กาแฟสด “อเมซอน” ลงขวด และชาพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” เจาะตลาดพรีเมียม ประเดิมขายเซเว่นอีเลฟเว่น ก่อนลุยร้านค้าทั่วไทย

นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีจุดแข็งในทำธุรกิจเครื่องดื่มและการจัดจำหน่ายสินค้าทั่วไทยยาวนาน 90 ปี ส่วนโออาร์ แข็งแกร่งในการทำกาแฟ ชา การผนึกความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อทะยานธุรกิจให้เติบโตร่วมกัน ผ่านจุดเริ่มต้นชาและกาแฟพร้อมดื่ม

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า โออาร์ต้องการเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจหรือไดเวอร์ซิฟาย จึงมองหาพันธมิตรมาเสริมแกร่ง และพัฒนาสินค้าจากกาแฟสดแบรนด์ “คาเฟ่ อเมซอน” ตอบโจทย์ผู้บริโภคดื่มที่ร้าน ไปสู่กาแฟพร้อมดื่ม ต่อยอดจุดแข็งที่ทำตลาดมายาวนานส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Cheif Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง ฯ กล่าวว่า การปั้นแบรนด์ “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” มุ่งเจาะตลาดชาพร้อมดื่มระดับพรีเมียม เนื่องจากมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% ต่อเนื่อง มีมูลค่าตลาดราว 1,500 ล้านบาท

สำหรับจุดแข็งการทำตลาดชา คือนำความเชี่ยวชาญในตลาดตั้งแต่ต้นน้ำ มีกระบวนการเพาะปลูก และผลิตชาได้รับมาตรฐาน JGAP เพื่อเสิร์ฟชาคุณภาพ 2 รสชาติให้ผู้บริโภค ได้แก่ รสออริจินัล และ Mild Sweet พร้อมจำหน่ายผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแบบเอ็กซ์คลูสีฟ 3 เดือน จากนั้นจะขยายสู่ห้างค้าปลีก และร้านค้าทั่วไป ตั้งเป้าหมายยอดขายปี 2566 ที่ 10 ล้านขวด

บิ๊กเจอบิ๊ก “บุญรอดผนึกโออาร์”  เสิร์ฟ 2 สินค้าดันรายได้พันล้าน! “หากบุญรอดจะพัฒนากาแฟพร้อมดื่มเองลำพังอาจเหนื่อย การร่วมมือกับโออาร์ ที่มีร้านคาเฟ่ อเมซอนจำนวนมากนับพันสาขา ช่วยสร้างพลังและความได้เปรียบทางการตลาด เพราะแบรนด์แกร่ง ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ส่วนบุญรอดแกร่งในการทำตลาดเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นหลายหมวด มีช่องทางจำหน่าย เมื่อบิ๊กเจอบิ๊กจึงช่วยย่อเวลาให้สินค้าตัวแรกสำเร็จ เพื่อก้าวสู่สินค้าต่อไปได้”

 นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ โออาร์ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกของบริษัทในการทำตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่ม หรือ RTD(Ready To Drink) เนื่องจากมองเห็นโอกาสกาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียมมีการเติบโตต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคจำนวนมาก ต้องการดื่มกาแฟสดในราคาจับต้องได้ จึงนำเมนูยอดฮอตท็อป 5 ของร้านคาเฟ่ อเมซอน จากกว่า 50-60 รายการ มาบรรจุลงขวด

บิ๊กเจอบิ๊ก “บุญรอดผนึกโออาร์”  เสิร์ฟ 2 สินค้าดันรายได้พันล้าน!

การทำตลาดกาแฟพร้อมดื่ม “อเมซอน” ในปีแรกบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 8 ล้านขวด และมีส่วนแบ่งทางการตลาดติดท็อป 3 จากปัจจุบันตลาดกาแฟพรีเมียมมูลค่าราว 500 ล้านบาท ขณะที่ตลาดกาแฟพร้อมดื่มโดยรวมมูลค่าราว 30,000 ล้านบาท(รวมกาแฟสดและกาแฟพร้อมดื่ม)

สำหรับดริ้งค์ เอนเตอร์ไพรส์ จะใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อทำแคมเปญสื่อสารการตลาด โดยเน้นแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ขณะที่เป้าหมายการทำธุรกิจ 1-2 ปีแรก บริษัทต้องการผลักดันรายได้ให้ทะลุ 1,000 ล้านบาท

“คนไทยบริโภคกาแฟ 1.5-1.6 กิโลกรัม(กก.)ต่อคนต่อปี เทียบญี่ปุ่นอยู่ที่ 3 กก.ต่อคนต่อปี สะท้อนโอกาสเติบโตมีอีกมาก หากกาแฟพร้อมดื่มอเมซอน และชาฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที ประสบความสำเร็จ สินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภคภายใน 3 เดือน บริษัทจะพิจารณาการขยายพอร์ตสินค้าใหม่เข้าทำตลาด ซึ่งขณะนี้แต่ละฝ่ายทั้งโออาร์และบุญรอดกำลังศึกษาตลาด มองหาโอกาสการเติบโตอยู่”