‘เอสแอนด์พี’ ยกระดับการเติบโต เปิดร้านเพิ่ม เติมสินค้า "ฮีโร่" โกยกำไร

‘เอสแอนด์พี’ ยกระดับการเติบโต  เปิดร้านเพิ่ม เติมสินค้า "ฮีโร่" โกยกำไร

ธุรกิจร้านอาหารยังคงฟื้นตัวเติบโตต่อเนื่อง รับสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ผู้คนออกมาปลดปล่อยไลฟ์สไตล์ รับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น“เอสแอนด์พี” หนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารและเบเกอรีชั้นนำของเมืองไทย สร้างผลงานปี 2565 เติบโตทั้งรายได้และ “กำไร” ซึ่งทุบสถิติต่างๆ

วิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 บริษัทสร้างยอดขายรวม 5,712 ล้านบาท เติบโต 19% หรือคิดเป็น 895 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันก่อน ขณะที่ “กำไรสุทธิ” จำนวน 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% หรือคิดเป็น 120 ล้านบาท กำไรดังกล่าวยังสูงสุดในรอบ 5 ปีด้วย

ทั้งนี้ ยอดขายที่เติบโตยังเกิดทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารในร้านเพิ่มขึ้น 77% เดลิเวอรีโต 24% ซื้อกลับบ้านโต 9% โดยปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหารและเบเกอรีให้บริการรวม 473 สาขา เช่น ร้านอาหารเอสแอนด์พี 138 สาขา เอสแอนด์พี เบเกอรีช็อป 279 สาขา เอสแอนด์พี เดลต้า 33 สาขา ร้านอาหารญี่ปุ่นไมเซน 11 สาขา เป็นต้น

ภาพรวมจำนวนร้านเอสแอนด์พีอาจลดลง เนื่องจากบางทำเลผลงานไม่เข้าเป้า โดยยังเหลือราว 10 สาขาที่ต้องออกแรงฮึด ผลักดันการเติบโตให้ได้

ขณะที่แผนเคลื่อนธุรกิจปี 2566 บริษัทมีภารกิจยกระดับการเติบโตใหม่(Elavate the next) ผลักดันทั้งปีให้ขยายตัว 16% โดยกลยุทธ์หลักจะรุกในปีนี้ ประกอบด้วย 1.การเปิดร้านอาหารเอสแอนด์พี 35 สาขา ปรับโฉมจุดขาย 75 แห่ง และเปิดเอสแอนด์พี เดลต้าเพิ่ม เพื่อสร้างยอดขายจากการรับประทานในร้าน

‘เอสแอนด์พี’ ยกระดับการเติบโต  เปิดร้านเพิ่ม เติมสินค้า \"ฮีโร่\" โกยกำไร

ปี 2566 ยังมีร้านโมเดลใหม่ ผสานร้านอาหารและเบเกอรีเข้าด้วยกัน พื้นที่ราว 120 ตารางเมตร(ตร.ม.)เพื่อให้บริการลูกค้า ประเดิม 2 สาขา ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเซ็นทรัล รามอินทรา

บริษัทยังลุยขยายฐานสมาชิกเอสแอนด์พีการ์ดไม่ต่ำกว่า 10,000 รายต่อเดือน รวมทั้งมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า นำโมเดล 5E มาใช้ตอบทุกเส้นทางการซื้อ(Customer Journey)ของกลุ่มเป้าหมาย เช่น เมนูข้าวแช่ ต้องให้ลูกค้าเห็นป้ายโฆษณานอกบ้าน(Enticement) เข้ามาในร้านมีพนักงานใส่ชุดไทยต้อนรับ(Entrance) ระหว่างรอมีแคมเปญกระตุ้นการซื้อสินค้าข้ามหมวด(Engagement) ทานอิ่มให้เช็กอิน หรือตอบแบบสอบรับของชำร่วย(Exit) และสมาชิกได้รับถุงข้าวแช่กลับบ้าน(Extend) กิจกรรมดังกล่าวจะคิกออฟ 1 เม.ย.นี้

“3 ปีที่ผ่านมา เอสแอนด์พีปรับปรุงร้านกว่า 200 สาขา โจทย์หลังจากนี้คือการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้บริโภค”

‘เอสแอนด์พี’ ยกระดับการเติบโต  เปิดร้านเพิ่ม เติมสินค้า \"ฮีโร่\" โกยกำไร แม้การนั่งทานอาหารในร้านกลับมาเติบโต แต่ “เดลิเวอรี” บริษัทยังให้ความสำคัญตอบโจทย์ความอร่อยแก่ผู้บริโภคถึงบ้าน

2.การเปิดร้านเอสแอนด์พี เบเกอรีมาร์ท โดยปรับร้านเดิมให้เป็นร้านใหม่ เพื่อสร้างยอดขาย การมีสินค้าใหม่ในร้านมากขึ้น ที่ผ่านมาเสิร์ฟเค้กนุ่มจนสร้างยอดขายโตต่อเนื่อง 2-3 ปี การชำระเงินหน้าร้านให้เร็วขึ้น เป็นต้น

“การคอนเวิร์ทร้านรูปแบบเดิมให้เป็นเอสแอนด์พีเบเกอรีมาร์ท สร้างผลลัพธ์ยอดขายดี”

3.ธุรกิจบริการร้านอาหารและขายปลีก ซึ่งมีแบรนด์ “เดลิโอ บาย เอสแอนด์พี” เป็นจุดแข็งป้อนช่องทางห้างค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ปีนี้จะหา “ฮีโร่” ใหม่เสริมพอร์ตโฟลิโอ รวมถึงการบริหารจัดการให้ขายสินค้าได้มากขึ้น ด้วยการปรับโครงสร้างทีมขาย รองรับธุรกิจบริการร้านอาหารฟื้นตัว กลับมาเติบโตดี และ4.การสร้างผลกำไรให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงต้องบริหารจัดการโรงงานให้มีประสิทธิภาพ ลดไขมันต่างๆ(Lean) ย้ายการผลิตเค้กไปยังโรงงานที่บางพลี ส่วนร้านอาหารจะมีการนำหุ่นยนต์มาใช้บริการลูกค้ามากขึ้น เป็นต้น

“จะเน้นขายสินค้าให้ถูกจังหวะ สร้างกำไรที่ดี”

‘เอสแอนด์พี’ ยกระดับการเติบโต  เปิดร้านเพิ่ม เติมสินค้า \"ฮีโร่\" โกยกำไร สินค้า แคมเปญไตรมาส 1 ปี 66

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วง 2 เดือนแรก มีการเติบโตราว 10% ไฮไลท์คือการเปิดพรีออเดอร์เค้กช่วงตรุษจีนผลตอบรับดีมาก โกยยอดขายโต 44% รวมถึงเค้กวาเลนไทน์ด้วย

ขณะที่ซัมเมอร์ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31.พ.ค.2566 บริษัททุ่มงบ 50 ล้านบาท ดันเมนูพระเอก “ข้าวแช่” ตอบสนองผู้บริโภคทั้งทานที่ร้านและเดลิเวอรี พร้อมตั้งเป้ายอดขายโต 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

“แคมเปญข้าวแช่ถือว่าค่อนข้างยิ่งใหญ่ และเราตั้งเป้าโตถึง 29%"