ททท. ชูกลยุทธ์ "เที่ยวไทยได้ทั้งปี" ผนึก "เซ็นทรัล" ดึงทัวริสต์เยอรมัน

แต่ดันเผชิญปัจจัยลบ “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” ปะทุเมื่อปลายเดือน ก.พ.2565 ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ก่อปัญหาเงินเฟ้อต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย!

“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ประเมินว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวยุโรปเดินทางเข้าไทยกว่า 5.8 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวยุโรปมาไทย 2.5 ล้านคน หลัง ททท.ได้เปิดตัวแคมเปญ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566” หรือ “Visit Thailand Year 2023: Amazing New Chapters” ให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนและการเพิ่มมูลค่ากิจกรรมทางการท่องเที่ยว ผ่านการนำเสนอเรื่องราวของ “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ของประเทศไทย ทั้ง 5F ได้แก่ Food Fight Fashion Film และ Festival ที่พร้อมสร้างความทรงจำและความประทับใจให้นักท่องเที่ยว

ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท.วางกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดต่างประเทศ ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเดินทางมา “ท่องเที่ยวได้ทั้งปี” (All-year round Destination) เพื่อแก้ปัญหานักท่องเที่ยวตลาดยุโรปมักจะประสบภาวะตกท้องช้างในช่วงโลว์ซีซัน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ต.ค. ของทุกปี

ด้วยการนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เพื่อ “ขยายวันพำนัก” ให้นักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลใช้เวลาอยู่ในไทยนานขึ้น รวมทั้ง นำเสนอกิจกรรมในกลุ่มสินค้าต่างๆ ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวยุโรปสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตามแนวคิด Sustainable Tourism Goals (STGs)

ทั้งนี้ ในช่วงเดือน มี.ค.-ก.ย. 2566 ทาง ททท.เตรียมจัดกิจกรรม “โรดโชว์” (Roadshow) เพื่อขยายตลาดใหม่ อาทิ เมืองเคปทาวน์ และเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้, เมืองกลาสโกล์ว และเมืองแมนเชสเตอร์ในสหราชอาณาจักร รวมถึงกรุงริยาด เมืองเจดดาห์ และเมืองดัมมัม ประเทศซาอุดีอาระเบีย

อีกกลยุทธ์สำคัญคือ “การเพิ่มความถี่เที่ยวบิน” และความจุผู้โดยสารของเที่ยวบินเข้าสู่ประเทศไทย โดยจากตารางการบินฤดูร้อน 2566 ภูมิภาคยุโรปมีจำนวนเที่ยวบินรวม 4,915 เที่ยวบินต่อเดือน สามารถรองรับผู้โดยสารได้กว่า 1,571,431 ที่นั่ง เติบโต 45% ส่วนภูมิภาคตะวันออกกลาง มีจำนวนเที่ยวบินรวม 5,545 เที่ยวบินต่อเดือน สามารถรองรับผู้โดยสารได้กว่า 1,872,199 ที่นั่ง เติบโต 86%

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวเสริมว่า จากข้อมูล “ตารางบินฤดูร้อน 2566” ระยะเวลา 30 สัปดาห์ ระหว่างเดือน เม.ย.-ต.ค. ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เมื่อเจาะดูเป็นรายประเทศของตลาดระยะไกล พบว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” มีจำนวนที่นั่งโดยสารของเที่ยวบินเข้าประเทศไทยมากเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน 963,466 ที่นั่ง จากจำนวนเที่ยวบิน 2,440 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 101% เทียบกับตารางบินฤดูร้อน 2565

อันดับ 2 “กาตาร์” มีจำนวนที่นั่งโดยสาร 423,552 ที่นั่ง จาก 1,302 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 32% รองลงมาอันดับ 3 “เยอรมนี” มีจำนวนที่นั่งโดยสาร 281,510 ที่นั่ง จาก 868 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10% ด้านอันดับ 4 “สหราชอาณาจักร” มีจำนวนที่นั่งโดยสาร 212,258 ที่นั่ง จาก 654 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 23% และอันดับ 5 “โอมาน” มีจำนวนที่นั่งโดยสาร 150,555 ที่นั่ง จาก 622 เที่ยวบิน

ด้านสถิตินักท่องเที่ยวสะสมจากตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ที่มีจำนวนเดินทางเข้าไทยสูงสุด 10 อันดับแรก ตั้งแต่ 1 ม.ค.-4 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า อันดับ 1 คือ “รัสเซีย” 413,525 คน รองลงมา สหรัฐ 172,240 คน เยอรมนี 160,334 คน สหราชอาณาจักร 145,028 คน ฝรั่งเศส 143,338 คน สวีเดน 59,797 คน คาซัคสถาน 52,750 คน แคนาดา 50,121 คน อิสราเอล 47,707 คน และอิตาลี 41,445 คน

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศ “เยอรมนี” ซึ่งเป็นตลาดหลักในภูมิภาคยุโรป ในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเดินทางมาไทย จำนวน 365,030 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มตลาดระดับกลาง-บน ฟื้นตัว 44% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด สร้างรายได้ 24,770 ล้านบาท ฟื้นตัว 47% ถือเป็นตลาดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 11 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทั้งหมด และสูงเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคยุโรป รองจากสหราชอาณาจักรและรัสเซีย

“ส่วนเป้าหมายในปี 2566 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเดินทางเข้าไทย 6-9 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 42,500-60,000 ล้านบาท หรือฟื้นตัวประมาณ 70% ของปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19”

ทั้งนี้ ททท. ได้รับความร่วมมือจาก “เซ็นทรัล กรุ๊ป” จัดกิจกรรม “Discover Thailand Journey to Happiness” เมื่อวันที่ 9-11 มี.ค. ณ ห้างสรรพสินค้า KaDeWe กรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นห้างหรูขนาดใหญ่ของเยอรมนีในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป เพื่อสร้างการรับรู้ของนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันต่อแคมเปญ Visit Thailand Year 2023: Amazing New Chapters ตรงกับช่วงท้ายของการจัดงานเทรดโชว์ส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวระดับโลก “ITB Berlin 2023”

ภายในงานฯ เน้นการนำเสนอกิจกรรมผ่านแนวคิด Soft Power: 5F ของประเทศไทย อาทิ การชิมขนมไทย การแกะสลักผลไม้ การสาธิตทำตุงล้านนา การวาดร่ม รวมถึงศิลปะการแสดงรำไทยและมวยไทย พร้อมให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวไทย ตลอดจนการมอบของที่ระลึกแก่ผู้ถือบัตรเข้างาน ITB Berlin 2023 และลูกค้าผู้มียอดใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้า KaDeWe ครบ 150 ยูโร รวมถึงกิจกรรมจับรางวัลที่พักและบัตรกำนัลจากเซ็นทรัล กรุ๊ป และบัตรโดยสารสายการบินจากการบินไทยและบางกอกแอร์เวย์ส

“ททท.คาดหวังว่าการจัดกิจกรรมนี้จะสามารถดึงดูดทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจากฐานลูกค้าของ KaDeWe และกลุ่มนักธุรกิจศักยภาพที่เดินทางมาร่วมงาน ITB Berlin 2023 ได้ไปพร้อมกัน”