‘จ๊อดแฟร์’เล็งติดปีกโกอินเตอร์ บูมไนท์มาร์เก็ตใหญ่สุดแดนเนรมิต28เมษาฯ

‘จ๊อดแฟร์’เล็งติดปีกโกอินเตอร์  บูมไนท์มาร์เก็ตใหญ่สุดแดนเนรมิต28เมษาฯ

ตลาดไนท์มาร์เก็ตของประเทศไทยเปิดตำนานบทใหม่อีกครั้งด้วยฝีมือเจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ตคนเดิม “จ๊อดแฟร์” สร้างจุดเช็คอินยอดนิยมแห่งใหม่ของคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก กับ “จ๊อดแฟร์ แดนเนรมิต” บนพื้นที่ 33 ไร่ ดีเดย์วันที่ 28 เม.ย. นี้

ไพโรจน์ ร้อยแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอดส์ แอนด์ ซัน กล่าวว่า จ๊อดแฟร์ แดนเนรมิต จะเป็นพื้นที่ไนท์มาร์เก็ตขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย วางรูปแบบให้เป็นพื้นที่ไนท์มาร์เก็ตที่มีความโรแมนติก โดยคงสัญลักษณ์ของแดนเนรมิตที่มีอยู่ คือ ปราสาท ไว้เช่นเดิมแต่มีการปรับปรุงให้สวยงามมากขึ้น พร้อมปรับพื้นที่ทะเลสาบ ให้กลับมางดงาม พร้อมดึงร้านค้ายอดนิยมจากหลากหลายพื้นที่เข้ามาเปิดให้บริการรวมกว่า 1,000 ร้านค้า 

"เราสนใจพื้นที่แดนเนรมิตมานานแล้ว ได้มีการพูดคุยกับเจ้าของพื้นที่ตั้งแต่ช่วงโควิด จนปัจจุบันให้เราเข้ามาทำไนท์มาร์เก็ต จากความเชื่อมั่นในประสบการณ์การทำไนท์มาร์เก็ตมายาวนานกว่า 10 ปี บริหารจัดการร้านค้าต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งโครงการนี้เราลงทุนเอง 100%”

‘จ๊อดแฟร์’เล็งติดปีกโกอินเตอร์  บูมไนท์มาร์เก็ตใหญ่สุดแดนเนรมิต28เมษาฯ โครงการจ๊อดแฟร์ แดนเนรมิต ได้เช่าพื้นที่กับเจ้าของพื้นที่เป็นเวลา 5 ปี  ขณะนี้เปิดให้ร้านค้าจองเช่าพื้นที่แล้ว ค่าเช่าใกล้เคียงกับพื้นที่ จ๊อดแฟร์ พระราม 9 ในอัตราประมาณ 500 บาทต่อล็อค

ปัจจุบันจ๊อดแฟร์ มีแบรนด์ที่อยู่ภายใต้บริหาร 2 แบรนด์ ได้แก่ “ตลาดรถไฟ” เป็นพื้นที่สำหรับร้านค้าและสินค้าวินเทจ สินค้าย้อนยุคต่างๆ เปิดให้บริการที่ ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ และแบรนด์ “จ๊อดแฟร์” มุ่งทำไนท์มาร์เก็ตที่เน้นสินค้ากลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมนำเสนอดีไซน์ในพื้นที่มีความแปลกใหม่ พร้อมบรรยากาศที่เหมาะกับการเข้ามานั่งทานอาหารและชอปปิงมากที่สุด เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป

  ‘จ๊อดแฟร์’เล็งติดปีกโกอินเตอร์  บูมไนท์มาร์เก็ตใหญ่สุดแดนเนรมิต28เมษาฯ นักลงทุนจีบเปิดสาขาต่างประเทศ

ไม่ใช่แค่ธุรกิจติดลมบนในเมืองไทย ที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายพื้นที่เสนอทำเลให้จ๊อดแฟร์พัฒนาตลาดไนท์มาร์เก็ต ยังมีนักลงทุนต่างประเทศสนใจนำแบรนด์จ๊อดแฟร์ไปเปิดบริการ

ไพโรจน์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขยายในรูปแบบการไปลงทุนเอง หรือ การให้ไลเซนส์แบรนด์ไปขยายในต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสที่จะเห็น “จ๊อดแฟร์” ในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย หรือประเทศอื่นๆ ที่ทุกคนอาจจะคาดไม่ถึง!

“ได้รับการติดต่อจากนักลงทุนต่างประเทศมานานแล้ว อยากให้จ๊อดแฟร์ไปเปิดสาขาเพราะเชื่อมั่นในแบรนด์และเห็นศักยภาพของการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงแบรนด์มีตลาดและกลุ่มลูกค้าชัดเจน ขณะนี้กำลังพูดคุยในอนาคตน่าจะได้เห็นจ๊อดแฟร์ในต่างประเทศ”

‘จ๊อดแฟร์’เล็งติดปีกโกอินเตอร์  บูมไนท์มาร์เก็ตใหญ่สุดแดนเนรมิต28เมษาฯ

ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน

การเปิดตลาดรถไฟและไนท์มาร์เก็ตร่วม 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทั้งประสบการณ์และเรียนรู้มาต่อเนื่อง ตั้งแต่ ตลาดนัดรถไฟสวนจตุจัตร จุดประกายพื้นที่ว่างเปล่าให้กลับมาคึกคัก จากนั้นต้องปิดให้บริการเพราะหมดสัญญาเช่า ต่อด้วยการเปิดตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ เป็นทำเลใหม่ที่โด่งดังและติดลมบนมาจนถึงปัจจุบัน

จากนั้นได้เห็นทำเลพื้นที่รัชดาที่ว่างอยู่ จึงติดต่อขอมาเปิดตลาดนัดรถไฟรัชดา และต้องปิดให้บริการในช่วงโควิดระบาดช่วงแรกๆ เนื่องจากลูกค้าไม่ได้ออกมาใช้บริการ ร้านค้าก็ไม่มีรายได้ ทำให้ได้บทเรียน! จากสาขารัชดาที่ต้องปิดให้บริการไป มาสู่การเปิด “จ๊อดแฟร์ พระราม 9” เป็นการเลือกเปิดในช่วงโควิดเช่นกัน แต่ได้วางคอนเซปต์และดีไซน์ตลาดใหม่ทั้งหมด ทั้งพื้นที่ตกแต่งใหม่ การเลือกร้านค้าที่มาเปิดให้บริการ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้นั่งทำงาน ทานอาหารได้ราว 30% ทำให้บรรยากาศภายในตลาดมีความสนุกและมีความคึกคัก จึงเป็นไนท์มาร์เก็ตที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการหลายพันคนต่อวัน รวมถึงดึงดูดลูกค้าต่างชาติจากทั่วโลกเข้ามาในพื้นที่

“เราเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ หากใช้วิธีแบบนี้แล้วไม่ได้ผล ก็ปรับใหม่ ปรับมาคิดและทำแบบใหม่ เหมือนการเปิดสาขาตลาดนัดรถไฟรัชดา ช่วงนั้นทำไปแล้วเจอโควิด ลูกค้าชะลอเข้าพื้นที่ ก็ต้องตัดสินใจปิดบริการ พร้อมกลับมาทบทวนใหม่ วิธีการและแนวคิดคอนเซปต์ที่ต้องปรับใหม่หมด จึงตัดสินใจกลับมาเปิดสาขาพระราม 9 ในช่วงโควิดเช่นกัน วางคอนเซปต์และดีไซน์พื้นที่ใหม่หมด จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และส่งผลดีต่อร้านค้า”

อีกสิ่งสำคัญในการเลือกเปิดไนท์มาร์เก็ตอยู่ที่การเลือกทำเลที่มีศักยภาพและมีกลุ่มลูกค้า จึงสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น และไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ใกล้พื้นที่รถไฟฟ้าทุกครั้ง เห็นได้จากตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ที่ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าแต่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเสมอ และมีลูกค้าประจำที่เข้ามาใช้บริการ

‘จ๊อดแฟร์’เล็งติดปีกโกอินเตอร์  บูมไนท์มาร์เก็ตใหญ่สุดแดนเนรมิต28เมษาฯ

ถอดแนวคิดการบริหาร “เจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ต”

ที่ผ่านมาการออกแบบและการดีไซน์ตลาดจะมาจาก “ไพโรจน์” แทบทั้งหมด แม้ว่าจะไม่ได้ร่ำเรียนมาทางด้านการออกแบบ แต่ด้วยความรักและชอบในเรื่องราวของวินเทจตั้งแต่วัยรุ่น ก็ถูกนำมาแปลงไปสู่ศิลปะการออกแบบตลาดที่สุดปัง! ในรอบทศวรรษนี้กับ “จ๊อดแฟร์”และ “ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์”

อีกสิ่งสำคัญที่ “ไพโรจน์” ให้ความสำคัญเสมอ คือ การมุ่งคิดสิ่งใหม่ และไม่หยุดนิ่งที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ให้แก่ลูกค้า ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาท่องเที่ยวในจ๊อดแฟร์สัมผัสการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เสมอ มีพื้นที่ให้ลูกค้าเข้ามาถ่ายรูป เช็คอินใหม่ได้ตลอด

“ปัจจุบันทำงานแทบทุกวัน หากมีช่วงเวลาว่างก็เลือกให้เวลาการดูแลรถโบราณ เป็นงานอดิเรกที่ทำมายาวนานแล้ว โดยเป็นรถโบราณ ที่นำเข้ามาตกแต่งใหม่ และนำไปใช้งานได้จริง เวลานี้มีรถโบราณสะสมมากกว่า 100 คัน”

การสะสมรถโบราณ นอกจากเป็นคุณค่าทางจิตใจ ยังเป็นการลงทุนที่เป็นสินทรัพย์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยขายรถย้อนยุคเหล่านี้ โดยจะดูแลและนำไปขับ หรือ นำไปจัดตั้งในพื้นที่ตลาดรถไฟต่างๆ ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจะได้มาถ่ายรูป

เปิดอาณาจักร ไนท์มาร์เก็ต

สำหรับอาณาจักรไนท์มาร์เก็ตของ “ไพโรจน์” ที่ดำเนินการอยู่มีทั้ง บริษัท รอดส์ แอนด์ ซัน มุ่งลงทุนในการเปิดตลาดใหม่ บริษัท รอดส์ แอนทีค ดูแลบริหารจัดการตลาดรถไฟ กลุ่มสินค้าของเก่า และตลาดนัดจ๊อดแฟร์ ที่เปิดดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่ดูแลอยู่ โดยมีทีมงานมากกว่า 10 คนในปัจจุบัน

รวมถึงการจัดตั้งบริษัทใหม่ “แบล็ค ไดมอนด์ 2022 จำกัด สำหรับบริหารโครงการ จ๊อดแฟร์ สาขารัชดา ที่จะเปิดในปี 2567 ทดแทนสาขาพระราม 9 ที่ต้องปิดให้บริการในสิ้นปี 2566 เพราะหมดสัญญาเช่าพื้นที่