สวนสัตว์พาต้า กลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมโซนใหม่ Exotic

การประกาศแผนกลับเปิดให้บริการครั้งใหม่ของ "ห้างพาต้า" ห้างที่อยู่คู่คนอยู่ในประเทศไทยมาร่วม 40 ปี โดยกำลังหาทีมมาร่วมออกแบบและพัฒนาพื้นที่ใหม่ เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปี ด้วยทายาทรุ่นสองของ “ตระกูลเสริมศิริมงคล” เข้ามาร่วมทำหน้าที่บริหาร

การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ของห้างพาต้า จะปรับผังธุรกิจร้านค้า ทั้งภายในและภายนอก ที่เป็นพื้นที่ค้าปลีกรวมทั้งหมด 5 ชั้นใหม่ โดยใช้งบลงทุนของบริษัทในบางส่วน และคาดว่าจะได้ข้อสรุปแผนการรีโนเวททั้งหมดในช่วงไตรมาส 3 

 

 

นอกจากจะปรับโฉมห้างพาต้าใหม่แล้ว พื้นที่มีการรีโนเวทแล้วคือ สวนสัตว์พาต้า (PATA ZOO) ในพื้นที่ 6 เป็นโซนพื้นที่การเรียนรู้สัตว์เลี้ยงแปลกพิเศษ "Pata Exotic Studio" ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากปิดปรับปรุงไป ทำให้สวนสัตว์พาต้า มีการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งในชั้น 6 และชั้น 7 ในวันที่ 3 มี.ค.2566

การปรับใหม่นี้เป็นไปตามแนวคิดของทีมผู้บริหาร พนักงานทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ร่วมมือวางแผนและออกแบบเป็นเวลา 1 ปี เพื่อให้สวนสัตว์พาต้ากลับมาเป็นสถานที่พักผ่อนและเป็นสวนสัตว์กลางเมืองแห่งเดียวของกรุงเทพมหานคร

สำหรับพื้นที่ในชั้น 6 เริ่มเปิดให้บริการ ในปี 2528 เป็นสวนสัตว์ในห้องปรับอากาศแห่งแรก และสถานที่แสดงสัตว์ Exotic ยุคแรกของประเทศไทย สามารถสร้างผลงานระดับนานาชาติไว้มากมาย และเป็นสถานที่ซึ่งเป็นรู้จักกันในวงการธุรกิจสวนสัตว์และกลุ่มนักวิจัยสัตว์เลื่อยคลานทั่วโลกในยุค 80-90 รวมถึงประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์งูหลามทองได้เป็นครอกแรกของโลก จนกระจายพันธุ์เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมไปทั่วทุกมุมโลก จากผู้เชี่ยวชาญและทีมงานของสวนสัตว์พาต้า

ทั้งนี้การกลับมาเปิดโซนนี้อีกครั้ง มาจากความตั้งใจของทีมผู้บริหารอยากทำให้เกิดการเรียนรู้ดำเนินชีวิตที่แสนจะซับซ้อนของสัตว์แปลกพิเศษที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงอยากเปิดให้คนที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้และศึกษาทำความเข้าใจก่อนที่จะเลี้ยงสัตว์ในกลุ่มนี้

ส่วนในพื้นที่ชั้น 7 โซนสวนสัตว์ลอยฟ้า ที่มีสัตว์ทั้งนกแก้ว นกฟลามิงโก ม้าแคระ หมู เต๋า ลิงอุรังอุตัง และ และลิงกอริลลา ชื่อดัง “บัวน้อย” หรือ ทุกคนเรียกว่า “ป้าบัว” ดาวเด่นของสวนสัตว์ ที่มีอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 35 แล้ว อยู่คู่สวนสัตว์มาตั้งแต่แรก ซึ่งเฉลี่ยแล้วอายุของ ลิงกอริลลา จะมีประมาณ 50 ปี ทางทีมผู้บริหารมีแผนจะปรับปรุงสถานที่ “ป้าบัว” ใหม่ พร้อมห้องสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับ ลิงกอริลลาโดยเฉพาะ เตรียมเปิดในเร็วๆ นี้เช่นกัน

ทางด้านความคืบหน้าในการปรับโฉมห้างพาต้านั้น ทางทีมผู้บริหาร ประกาศว่า จะปรับพื้นที่ใหม่ตั้งแต่ชั้น 1 – 5 ที่เป็นโซนศูนย์การค้า เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าอาหารที่อยู่ชั้น 1 จะเพิ่มสีสันให้ใหม่ขึ้น เพิ่มจอ LED เพื่อนำเสนอร้านค้าภายในและสวนสัตว์ลอยฟ้าแห่งเดียวในไทย ทำให้ทุกคนสามารถสัมผัสบรรยากาศได้ตั้งแต่นอกอาคาร แต่คงเอกลักษณ์ไว้ด้วยโลโก้แบบดั้งเดิม

พื้นที่ชั้นใต้ดิน ขนาด 4,000 ตร.ม. กำลังหาคู่ค้าทางธุรกิจทางด้านซุปเปอร์ มาร์เก็ต และฟู๊ดคอร์ด ส่วนพื้นที่ชั้น 1 วางรูปแบบให้มีร้านอาหารยอดนิยมกว่า 70% ของพื้นที่ และพื้นที่จัดรายการพิเศษกลางอาคาร ซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิมในอดีต สำหรับพื้นที่ชั้น 2 จะดึงร้านค้ารูปแบบสินค้า OTOP ซึ่งเป็นรูปแบบเอกลักษณ์ของพาต้าปิ่นเกล้าในอดีต จากงาน “ของดี 73 จังหวัด" รวมถึงพื้นที่เช่าของผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไป ส่วนพื้นที่ชั้น 5 ต่อเนื่องกับสวนสัตว์ จะปรับให้เป็นพื้นที่เช่า ในโครงการพิเศษต่างๆ เช่น ตลาดนัดสัตว์เลี้ยงหรือตลาดของใช้ทั่วไป งานแสดงสินค้า และงานประชุมวิชาการ

สวนสัตว์พาต้า ได้เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. ส่วนรอบการแสดง จะมีทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 2 รอบ รวมถึงมีพื้นที่เปิดจำหน่ายอาหารสำหรับสัตว์ เช่น แกะ สามารถให้อาหารและถ่ายรูปได้ใกล้ชิด ส่วนราคาบัตรในการเข้าชมสวนสัตว์ แบ่งเป็น เด็ก 50 บาท และผู้ใหญ่ 80 บาท

การกลับมาของห้างพาต้าในครั้งนี้ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอดีตวันวาน ที่จะร่วมจุดประกายห้าง Y2K ของไทยที่รุ่งเรืองในอดีตให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่จะสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในเรื่องใดบ้าง ต้องติดตาม!